วันที่ 29 กันยายน 2568 จากกรณีจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ของกัมพูชา ส่งจดหมายประท้วงผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ของไทย กรณีที่ไทยได้ติดป้าย 3 ภาษาขับไล่ชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้วของไทยให้ออกจากพื้นที่ภายใน 15 วัน หากมีการฝ่าฝืนจะถูกจับกุม และถูกดำเนินคดี พร้อมบอกว่าจังหวัดสระแก้วไม่มีอำนาจกำหนดเขตแดน และบังคับใช้กฎหมายภายในของไทยกับชาวกัมพูชา ที่อาศัยและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ และยังเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารจังหวัดสระแก้วยุติการกระทำดังกล่าวทันที ('กัมพูชา'ค้านปมปักป้ายเตือนบังคับใช้กม.ไทย ชี้เป็นการละเมิดสิทธิ-คุกคามคนเขมร)
ล่าสุด ทางจังหวัดสระแก้ว ออกแถลงการณ์ ระบุว่า จังหวัดสระแก้วได้รับหนังสือประท้วงจากจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย จำนวน 2 ฉบับ ดังนี้
ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2568 ประท้วงกรณีกองกำลังทหารฝ่ายไทยได้นำเครื่องจักร รถบรรทุกดิน ทำการถมดิน ปรับเกลี่ยดิน ทำทาง และวางเสาไฟฟ้า รวมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่บ้านโจกเจย และบ้านไปรจัน ฉบับที่ 2 เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2568 ประท้วงกรณีจังหวัดสระแก้วประกาศใช้กฎหมายภายในประเทศไทยกับประชาชนชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บ้านโจกเจย และบ้านไปรจัน
จังหวัดสระแก้วได้พิจารณาข้อประท้วงของจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย และได้มีหนังสือแจ้งให้จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ยทราบ และดำเนินการดังนี้
1.การประท้วงเกี่ยวกับการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและระบบรักษาความปลอดภัยการดำเนินการดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของราชอาณาจักรไทย ถือเป็นการประท้วงที่บิดเบือนความเป็นจริง และเป็นที่น่าผิดหวังที่ผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ยพยายามกล่าวอ้างถึงข้อตกลงต่าง ๆ ที่ตนเองไม่เคยเคารพปฏิบัติตาม และกล่าวอ้างอย่างน่าละอายถึงการอยู่อาศัยมานานหลายทศวรรษ ทั้ง ๆ ที่เป็นพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย
ประเทศไทยได้ตัดสินใจด้านมนุษยธรรมในการเปิดพรมแดนในช่วงปี พ.ศ. 2562 ให้ชาวกัมพูชาหลายแสนคนที่หนีภัยสงครามกลางเมืองในประเทศกัมพูชาเข้ามาหาที่พักพิงในประเทศไทย และในปัจจุบันก็ยังไม่เคยหยุดการดำเนินการยั่วยุ ซึ่งนำมาซึ่งความขัดแย้งและเพิ่มความตึงเครียดด้วยตนเอง
2.จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ยควรเร่งจัดทำแผนอพยพราษฎรกัมพูชา ซึ่งรุกล้ำพื้นที่ของราชอาณาจักรไทยและอยู่นอกพื้นที่อ้างสิทธิ์ ตามที่จังหวัดสระแก้วเสนอโดยเร่งด่วน พร้อมส่งแผนอพยพดังกล่าวให้จังหวัดสระแก้วภายในวันที่ 10 ต.ค. 2568 รวมทั้งต้องดำเนินการย้ายราษฎรกัมพูชาที่รุกล้ำพื้นที่ของราชอาณาจักรไทยและอยู่นอกพื้นที่อ้างสิทธิ์กลับราชอาณาจักรกัมพูชาตามแผนอพยพ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี และเป็นไปตามหลักการสากล ซึ่งเหมาะสมกว่าการประท้วงอย่างบิดเบือนความเป็นจริงและการกล่าวอ้างที่น่าละอายดังกล่าว
3.จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ยต้องหยุดการยั่วยุและการก่อสร้างในพื้นที่นอกสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการด้วยตนเอง หรือจ้างประชาชนชาวกัมพูชาดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ซึ่งกระบวนการทางกฎหมายในชั้นศาลอาจมีคำพิพากษาให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด
4.หากจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ยไม่ดำเนินการตามข้อ 2 และข้อ 3 จังหวัดสระแก้วจะไม่รับฟังการประท้วงใด ๆ และจะไม่พิจารณาข้อเสนอใด ๆ ของจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี