จังหวัดชัยภูมิ เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีพื้นที่หนึ่งที่มีปัญหาเรื่องน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอบ้านแท่น และอำเภอภูเขียว เกษตรกรไม่สามารถใช้น้ำบาดาลทำการเกษตรได้ เพราะมีค่าความเค็มเกินมาตรฐาน มีเพียงอ่างเก็บน้ำบ้านเพชร ของกรมชลประทานเท่านั้นที่ใช้เป็นแหล่งน้ำต้นทุน ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีความจุ 19.675 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) แต่ไม่เพียงพอกับความต้องการ เกิดศึกแย่งชิงน้ำระหว่างผู้ปลูกข้าวกับผู้ปลูกส้มโอในพื้นที่อ่างเก็บน้ำบ้านเพชร ด้วยกันเอง จนไม่สามารถหาข้อยุติได้ ทำให้พืชผลเสียหาย เกษตรกรในพื้นที่สูญเสียรายได้ และขาดความมั่นคงในอาชีพ
กรมชลประทาน โดยโครงการชลประทานชัยภูมิ จึงได้เข้าไปช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว โดยใช้พลังประชาชนเป็นศูนย์กลาง ภายใต้แนวคิด “พึ่งพา อาศัย แบ่งให้ แบ่งรับ” ปรากฎว่าประสบผลสำเร็จจนทำให้ โครงการชลประทานชัยภูมิได้รับรางวัลเลิศรัฐประจำปี 2568 ในด้านการบริการราชการแบบมีส่วนร่วม ระดับดี ประเภทสัมฤทธิผลประชาชนมีส่วนร่วม
นายนัทธี นุ่มมาก ผู้อำนวยการโครงการชลประทานชัยภูมิ กรมชลประทาน เล่าว่า แต่เดิมเกษตรกรส่วนใหญ่ใน 2 อำเภอดังกล่าว จะทำนา ทำสวนอ้อย และปลูกไม้ผลประปรายภายในพื้นที่เดียวกัน เพื่อให้เกิดรายได้สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนทั้งปี ต่อมาปี 2540 มีเกษตรกรเริ่มนำส้มโอพันธุ์ทองดีเข้ามาปลูกในพื้นที่ ผลผลิตที่ได้รับมีคุณภาพสูง ขายราคาดีจนกลายเป็นไม้ผลเศรษฐกิจสำคัญและได้รับการรับรองมาตรฐานสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI มีพ่อค้าเข้ามารับซื้อเพื่อส่งออกต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฮ่องกง หรือไต้หวัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเกษตรกรหลายรายได้เริ่มขยายพื้นที่เพาะปลูกส้มโอเพิ่มขึ้น ทำให้การใช้น้ำเป็นปัจจัยสำคัญ
เป็นที่ทราบกันดีว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถใช้น้ำบาดาลได้ เพราะมีค่าความเค็มเกินมาตรฐาน การเพาะปลูกจึงต้องอาศัยน้ำจากอ่างเก็บน้ำบ้านเพชร เป็นหลัก ดังนั้นเมื่อมีการขยายพื้นที่ปลูกส้มโอ ผลกระทบเรื่องน้ำเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น แม้การปลูกส้มโอ อ้อย และข้าว มีความต้องการใช้น้ำคนละช่วงเวลาก็ตาม แต่เกษตรกรเริ่มมีการใช้น้ำฟุ่มเฟือยเพราะไม่รู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของระบบชลประทาน ทำให้น้ำไม่เพียงพอกับความต้องการโดยเฉพาะในฤดูแล้งที่น้ำในอ่างฯมีน้อย ทำให้เกิดศึกแย่งชิงน้ำระหว่างผู้ปลูกข้าวกับผู้ปลูกส้มโอ โครงการชลประทานชัยภูมิ จึงเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาโดยได้ผสมผสานแนวทางดำเนินการ 5 วิธีดังต่อไปนี้
1.จัดตั้งกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำบ้านเพชร (คลองฝั่งขวา) เพื่อบริหารจัดการน้ำ วางแผนการใช้ที่ดิน และน้ำชลประทานให้เหมาะสมกับสภาพดินและปริมาณน้ำต้นทุนในแต่ละฤดูกาลเพาะปลูกให้กับสมาชิกผู้ใช้น้ำได้ใช้น้ำอย่างทั่วถึงในพื้นที่จำนวน 4,466 ไร่ ปัจจุบันมีกลุ่มผู้ใช้น้ำพื้นฐานระดับท่อที่อยู่ภายใต้กลุ่มบริหารจำนวน 49 กลุ่ม และยังมีคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) อ่างเก็บน้ำบ้านเพชรอีกด้วย
2.ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยให้ผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนการบริหารจัดการน้ำต้นทุน กำหนดกฎ กติกาการใช้น้ำ รับทราบปัญหาของกันและกัน โดยยึดหลัก “พึ่งพา อาศัย แบ่งให้ แบ่งรับ” ทำให้เกิดความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ สร้างความเข้าใจตรงกัน สร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มผู้ใช้น้ำ วางระบบบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นธรรม โปร่งใส แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง เพิ่มประสิทธิภาพแหล่งน้ำได้อย่างยั่งยืน
3.ส่งเสริมเทคโนโลยีการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้กลุ่มผู้ใช้น้ำ นำระบบอ่างพวง เทคโนโลยีมินิสปริงเกอร์ ระบบน้ำหยด สามารถช่วยประหยัดน้ำได้จากเดิมใช้น้ำปริมาณปีละ 2,000 ลบ.ม.ต่อไร่ เมื่อใช้ระบบมินิสปริงเกอร์จะใช้น้ำเพียงปีละ 400 ลบ.ม.ต่อไร่ ลดการสูญเสียน้ำเกินความจำเป็น นอกจากนี้มีการใช้โดรนเพื่อการเกษตรบินพ่นน้ำหมักชีวภาพ ช่วยลดระยะเวลาพ่นยาและแรงงานคน ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ใช้น้ำในสวนส้มโอขุดสระเก็บกักน้ำเป็นของตนเองเพื่อสำรองไว้ใช้ยามขาดแคลน ช่วยให้มีน้ำใช้เพียงพอตลอดปี
4.เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือชลประทาน โดยการขุดลอกเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำบ้านเพชรจากเดิม 19.67 ล้านลบ.ม. เป็น 21.35 ล้านลบ.ม. ก่อสร้างอาคารบังคับน้ำในลำห้วยหมาตาย 6 แห่งที่ ต.บ้านแท่น อ.บ้านแท่น ความสามารถเก็บกักน้ำในลำห้วยได้ 900,000 ลบ.ม. ช่วยเหลือพื้นที่เกษตรได้ 5,000 ไร่ ทำให้มีน้ำเพียงพอที่จะสนับสนุนเกษตรแปลงใหญ่ส้มโอและข้าว บรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำทุกกิจกรรมช่วงฤดูแล้ง พร้อมทั้งพัฒนาระบบชลประทานในระดับแปลงนาที่เหมาะสมตามความยินยอมเจ้าของที่ดิน
และ 5.เจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 โครงการชลประทานชัยภูมิ ได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร ในการส่งเสริมเกษตรกรที่ปลูกข้าวและส้มโอให้เข้าร่วมโครงการเกษตรแปลงใหญ่ทั้งหมด ทำให้มีกระบวนการพัฒนาที่ชัดเจน ได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้และอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน มีการพัฒนาผลผลิตให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในและนอกประเทศ จนกระทั่งส้มโอพันธุ์ทองดี หรือ เมื่อมาปลูกในอ.บ้านแท่น ได้ชื่อว่า “ส้มโอบ้านแท่น” ได้รับการตรวจสอบผ่านมาตรฐาน GAP มาตรฐาน GI มาตรฐาน GMP ทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี