ปภ.เตือนชุมชน ริมฝั่งเจ้าพระยา เร่งขนของขึ้นที่สูง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

ปภ.เตือนชุมชน ริมฝั่งเจ้าพระยา เร่งขนของขึ้นที่สูง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

วันอาทิตย์ ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ปภ.เตือนชุมชน
ริมฝั่งเจ้าพระยา
เร่งขนของขึ้นที่สูง
ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

ปภ.เตือนรับมือ“เจ้าพระยา”ล้นฝั่งหลังมีการปล่อยน้ำเพิ่ม คาด“ปทุมธานี-นนทบุรี-กทม.” ได้รับผลกระทบแนะชุมชนริมเจ้าพระยา ขนของหนีน้ำ ด้านพายุ “แมตโต” อ่อนแรงแต่ยังมีผลกระทำให้อีสาน-ตะวันออก ฝนตกหนัก

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือน เขื่อนเจ้าพระยามีแผนจะทยอยระบายน้ำเพิ่มไม่เกิน 2,700 ลบ.ม./วินาที (วันที่ 4 ต.ค. 68 เวลา12.00 น. ระบายน้ำอยู่ที่2,500 ลบ.ม./วินาที) อาจทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น พื้นที่ จ.ปทุมธานี (อ.เมืองฯ อ.สามโคก) จ.นนทบุรี (อ.ปากเกร็ด อ.เมืองฯ) และพื้นที่ต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตรวจสอบระดับน้ำอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำมีแนวโน้มสูงจนส่งผลกระทบ ให้ยกของขึ้นที่สูง ดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด”


ปภ. จึงได้ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS True และ NT ส่งข้อความแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast แจ้งเตือนเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม อ.เมืองปทุมธานี อ.สามโคก จ.ปทุมธานี อ.ปากเกร็ด อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” เพิ่มเพื่อนที่ Line ID @1784DDPM หรือโทรสายด่วนนิรภัย (ปภ.) 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม. ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและอาจกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำถาวร

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากประกาศของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ที่ระบุว่าในช่วงวันที่ 3–6 ตุลาคม 2568 จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับกรมชลประทานได้ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิมอัตรา 2,400 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาให้เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ถัดไป น้ำทะเลจะหนุนสูงอีกครั้งในช่วงวันที่ 9–12 ตุลาคม 2568

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ปลัดกรุงเทพมหานครได้มีคำสั่งเร่งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงานเขตที่มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดำเนินการดังนี้

1.แจ้งเตือนประชาชน ในชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและพื้นที่ลุ่มต่ำ ให้เฝ้าระวังและเตรียมขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูง รวมถึงตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและปลั๊กไฟให้อยู่ในที่ปลอดภัย

2.ตรวจสอบแนวป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว โดยให้สำนักงานเขตสำรวจความแข็งแรงและความสูงของแนวกระสอบทรายในพื้นที่ “แนวฟันหลอ” ให้มีความพร้อมป้องกันน้ำเอ่อล้น

3.เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และกำลังเจ้าหน้าที่ให้พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที เช่น จัดทำสะพานทางเดินชั่วคราว ช่วยขนย้ายสิ่งของ และแจกจ่ายยารักษาโรค

4.ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ให้ประชาชนติดตามตารางน้ำขึ้น-น้ำลงจากกรมอุทกศาสตร์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำและตรวจสอบตารางเวลาน้ำขึ้น-ลง ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

เว็บไซต์สำนักการระบายน้ำ: dds.bangkok.go.th เว็บไซต์สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม.: pr-bangkok.com Facebook: @BKK.BEST Twitter: @BKK_BEST คาดการณ์ระดับน้ำ กรมอุทกศาสตร์: hydro.navy.mi.th

หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำ สามารถแจ้งเหตุได้ที่ โทร. 02-248-5115 หรือผ่านระบบ ทราฟฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุ “แมตโม” ฉบับที่ 4 (280/2568)

ความว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ต.ค. 68 พายุโซนร้อนกำลังแรง “แมตโม” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 115.6 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่นและคาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน ลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 5-6 ต.ค. หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมในช่วงวันที่ 6-7 ต.ค. 68 โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย

จากอิทธิพลของพายุ “แมตโม” ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 5-7 ต.ค. 68 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมทั้งด้านรับมรสุมของภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทยให้สัมภาษณ์กรณีมีปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัดจะมีการลงพื้นที่บ้างหรือไม่ว่า ลงดูอยู่ตลอดเวลา บางทีก็ต้องไปในพื้นที่ อย่างเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ตนไปพื้นที่ชายแดนก็ยังมีสิ่งที่ต้องร่วมกันตัดสินใจหลายอย่าง เรื่องของน้ำท่วมนั้นรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแต่ละท่าน เช่นกระทรวงมหาดไทยมีรัฐมนตรีช่วยถึง 3 คนก็แบ่งหน้าที่ให้เขาไปดูน้ำท่วม ส่วนกระทรวงอื่น อย่างร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ก็ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม และรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้ดูกลุ่มจังหวัดก็ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนตนก็จะเร่งถ้ามีภัยน้ำท่วมแล้วเข้าข่ายการเยียวยามีเงินค่าชดเชยความเสียหาย ถ้าเข้าข่าย 3 วัน 7 วันเราจะเร่งดำเนินการเยียวยาให้เร็วที่สุด เอาประสบการณ์จากรัฐบาลชุดที่แล้วที่ตนอยู่กระทรวงมหาดไทยก็จะสามารถเร่งจ่ายค่าเยียวยาได้ ตอนนี้พ่วงนายกฯด้วยขั้นตอนน่าจะเร็วมากขึ้น

เมื่อถามว่า มีประชาชนหลายพื้นที่อยากให้นายกฯลงไปเพราะการช่วยเหลืออาจยังไม่ทั่วถึง นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกคนที่ลงไป แม้กระทั้งระดับผู้บริหารกระทรวงลงไปก็ให้ความช่วยเหลือได้ เราไม่ใช่ว่าลงไปถึงแล้วจะสั่งการ มันมีการรายงานเข้ามาและติดตามสถานการณ์วางแผนป้องกันไม่ให้เกิดภัยน้ำท่วมในระยะยาว

เมื่อถามว่าสส.ฝ่ายค้านอยากให้นายกฯลงพื้นที่ ในจังหวัดที่ไม่มีสส.พรรคภูมิใจไทยอยู่บ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ตนว่าตรงนั้นพูดลอยๆไปอย่างจ.สุโขทัย ไม่มีสส.พรรคภูมิใจไทย แต่มีคนที่จะเป็นเลขานุการรมว.มหาดไทยคอยไปบริหารสถานการณ์ที่นั่น ได้รับรายงานว่าสถานการณ์ดีขึ้น จริงๆตนจะไปวันนี้หรือพรุ่งนี้ไม่ทันแล้วเพราะสถานการณ์น้ำ เมื่อวานถือว่าแรงที่สุด และกรณีนี้ไม่ใช่น้ำท่วมขังเหมือนพื้นที่ภาคกลางแต่เป็นน้ำหลากมาแรง สุดท้ายน้ำจะไปที่แหล่งพักน้ำที่เขื่อนภูมิพล หรือแถวบึงบอระเพ็ด แต่เราเตรียมการไว้แล้ว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top