ซุบซิบกทม.

ข้อคิดเห็นจากประชาชนจากที่“ไผ่ฎำ”ได้นำเสนอไปแล้วเมื่อวันวาน ยังมีการพูดการอธิบายต่อไปว่า ถ้าบ้านนี้เมืองนี้คนมีอำนาจวาสนาบางคนบางกลุ่มรักชาติจริง สิ่งเน่าๆเหม็นๆคงไม่ประทุออกมาประจานสังคมเหมือนทุกวันนี้เด็ดขาด คนรักชาติรักบ้านรักเมืองจริงเกือบร้อยทั้งร้อยพูดตามเนื้อผ้า คือ ประชาชน ผู้ไร้อำนาจซึ่งได้แต่นั่งวิงวอนให้บ้านเมืองสังคมสงบสุข ยอมส่งลูกหลานเหลนไปเป็นรั้วของชาติที่พร้อมเอาชีวิตเข้าแลก ...ถ้าการ“อ้างชาติอมชาติ“ว่ารักชาติไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียวออกมาจากใจของใครบางคน วันนี้เมืองไทยเจริญฉุดไม่อยู่แล้ว และถ้าพฤติกรรมดังกล่าวที่ตรงกันข้ามกับการรักชาติ ไม่โผล่หลักฐานจนส่งกลิ่นฟุ้ง ออกมา ผู้คนในบ้านในเมืองก็ยังคงนั่งบริกรรมคาถาสนับสนุนหวังให้คนๆนั้นกลุ่มนั้น“นิพพาน”อยู่ต่อไปเช่นกัน...ดังนั้นคำแนะนำของประชาชนคนที่แสดงความคิดเห็นบอกทิ้งท้ายว่า ”คนทำดีแม้จะตั้งใจทำอย่างไร หากมีมารหรือคนชั่วครองอำนาจ เรืองอำนาจ น้ำหนักหรือเงาคนรักชาติจริงๆจะไม่มีใครเห็น ดังนั้นหากเราประจักษ์ว่าใครชั่วจริงเลวจริงทำลายบ้านเมืองจริง เราควรพร้อมใจกันออกมาสาปแช่งด่าให้มันเหล่านั้น“ฉิบหาย”ในเร็ววัน เพราะคำสาปแช่งที่ดังลั่นมีพลัง เพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนคลื่นกรรมให้เป็นจริงได้” ...ยอมรับว่าวลียาวได้ใจความทั้งหมดออกมาจากก้นลึกของหัวใจประชาชนคนไทยคนนี้ซึ่งเขาบอกว่าเครียดแค้นต่อคำพูดของคนบางคนที่พร่ำบอกแต่คำว่า“รักชาติ ”ทว่าพฤติกรรมการกระทำสุดสกปรกเหลือหลาย ก็อยากขอบอกว่าอะไรๆที่เกิดมันเป็นไปตามกรรม ใครทำอะไรไว้ถ้าเรายึดหลักธรรมะ“ไม่ช้าไม่เร็วจะแลเห็นกงกรรมนั้นสนอง” ซึ่งคุณลักษณะของคนขายชาตินี้มีมีตัวอย่างไว้แล้วเมื่อครั้งคราวกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่ารั้งทีครั้งที่2(พ.ศ.2310) ไอ้คนรักชาติแต่พฤติกรรมเป็นไส้ศึกขายชาติจนกรุงแตก พม่าตอบแทนให้นั่งปลื้มกับสมบัติเพียงแค่ไม่กี่เพลา ก็ถูกประหารและประณามว่า“สุดชาติชั่วเอาไว้ไม่ได้ แม้แต่ชาติตัวเองยังทรยศ” แม้ถ้อยคำที่ร้อยเรียงจะไม่เหมือนคำประณาม ก็สรุปได้ว่าคนขายชาติเอาไว้ให้หนักแผ่นดินไม่ได้  ดังนั้นหากเรารู้ว่าใครที่มีพฤติกรรมส่อเจตนาจงใจขายชาติไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ไม่ว่าคนๆนั้นกลุ่มนั้นจะเป็นนักการเมือง หรือข้าราชการประจำ หรือเคยเป็นข้าราชการประจำก็ตาม เราต้องร่วมกันรังเกียจสาปส่งมันทุกคน ...น่าเห็นใจพี่น้องคนไทยหลายจังหวัดถูกน้ำท่วมและเดือดร้อน อนิจตานักการเมืองบางคนบางพรรคก็ไปยืน”คำนับหนึ่ง คำนับสอง คำนับสาม“เชียร์ฉลองกันอื้ออึ้งชื่นมื่น สาธุๆๆๆ...

ไผ่ฎำ

036