อว. มอบนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เร่งรัด สทน. ลุย ‘โครงการศูนย์ฉายรังสีภูมิภาค’

อว. มอบนโยบายการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เร่งรัด สทน. ลุย ‘โครงการศูนย์ฉายรังสีภูมิภาค’

วันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. พร้อมด้วย ดร.หาญณรงค์ ฉ่ำทรัพย์  ดร.กนกพร บุญศิริชัย  ดร.พรสรรค์ โรจนพานิช รองผู้อำนวยการ สทน. เข้าพบ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อรายงานภารกิจการดำเนินงานของ สทน. ตลอดจนทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม เกษตร และสาธารณสุขของประเทศ


รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผอ.สทน. กล่าวว่า ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ได้เน้นย้ำให้ สทน. เร่งรัดการดำเนินงาน “โครงการศูนย์ฉายรังสีภูมิภาค” เพื่อยกระดับขีดความสามารถของประเทศด้านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีรังสีในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะการยืดอายุและเพิ่มคุณภาพผลผลิตทางการเกษตร การสร้างมาตรฐานด้านความปลอดภัยของสินค้าอาหาร รวมทั้งการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมและการแพทย์ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการกระจายโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำของภูมิภาค โครงการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในภารกิจเชิงยุทธศาสตร์ของ สทน. ที่จะช่วยยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) ตามนโยบายรัฐบาล ในอนาคต สทน. มีเป้าหมายดำเนินจัดตั้งการศูนย์ฉายรังสีภูมิภาค ให้ครบทั้ง 4 ภาค คือ โครงการศูนย์ฉายรังสีภูมิภาค ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา โครงการศูนย์ฉายรังสีภูมิภาค ประจำภาคภาคตะวันออก  จังหวัดระยอง  โครงการศูนย์ฉายรังสีภูมิภาค ประจำภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่  และโครงการศูนย์ฉายรังสีภูมิภาค ประจำภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช

สำหรับผลการดำเนินงานในรอบปี 2568 สทน. ให้ความสำคัญสูงสุดในการใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะการผลิตและให้บริการ "สารเภสัชรังสี" (Radiopharmaceuticals) เพื่อการตรวจวินิจฉัยและรักษา ในปี 2568 สทน. ได้ส่งมอบสารเภสัชรังสีไปยังหน่วยเวชศาสตร์นิวเคลียร์กว่า 30 แห่งทั่วประเทศ มีจำนวนผู้ที่เข้าถึงการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็ง ไทรอยด์ และมะเร็งกระดูก ทั่วประเทศแล้วถึง 27,360 ราย ความสำเร็จจากการผลิตเองในประเทศ ช่วยลดความสูญเสียและลดมูลค่าการนำเข้าสารเภสัชรังสีจากต่างประเทศได้กว่า 405.58 ล้านบาท โดยเฉพาะการลดการนำเข้าเภสัชรังสีได้ 65 ล้านบาทต่อปี และลดความสูญเสียจากการหยุดงานได้ 350 ล้านบาทต่อปี

สำหรับด้านการเกษตรและอาหาร ได้นำเทคโนโลยีนิวเคลียร์ไปใช้เพื่อสร้างมูลค่าและเพิ่มความมั่งคั่งให้เกษตรกร ด้วยการยกระดับภาคเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารเพื่อการส่งออก เช่น การบริการด้านอาหาร/การเกษตร (การฉายรังสี) ช่วยลดความสูญเสียและลดมูลค่าการนำเข้าได้กว่า 667.56 ล้านบาท  การถ่ายทอดเทคโนโลยีการฉายรังสีเพื่อ ฆ่าเชื้อและยืดอายุอาหารพื้นถิ่น ผ่านโครงการการพัฒนาอาหารพื้นถิ่นด้วยการฉายรังสี ทำให้เกิดการยกระดับคุณภาพอาหารพื้นถิ่นให้แก่ผู้ประกอบการแล้ว 61 ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังได้เดินหน้าโครงการลดจำนวนแมลงวันผลไม้ด้วยเทคนิคการใช้แมลงวันเป็นหมัน (Sterile Insect Technique - SIT) เพื่อสนับสนุนและปกป้องไม้ผลเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีความสำเร็จในการพัฒนาพอลิเมอร์ดูดซับน้ำสูง (Hydrogel) เพื่อประยุกต์ใช้ในการเกษตรให้พืชทนแล้ง 

ด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีอนาคต ให้บริการด้านเทคนิคนิวเคลียร์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยมีผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมและความปลอดภัยทางรังสีและนิวเคลียร์เข้ารับบริการแล้ว 5,940 ราย เช่น การตรวจสอบโดยไม่ทำลายเพื่อค้นหารอยร้าว หรือตรวจสอบความสมบูรณ์ของการเชื่อมโลหะ

และสุดยอดผลงานวิจัยเพื่ออนาคต สทน. ได้เริ่มงานวิจัยขั้นแนวหน้าด้านวิศวกรรม โทคาแมค (Tokamak) หรือ “ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์” เครื่องแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการวิจัยด้านพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชัน เพื่อเป็นทางเลือกด้านพลังงานในอนาคตของประเทศ ด้านการพัฒนาบุคลากรและสร้างการรับรู้ ในปี 2568 สทน. ได้พัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ไปแล้ว 30,818 ราย และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของเทคโนโลยีนิวเคลียร์สู่ประชาชนกว่า 2.1 ล้านคน เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้และนวัตกรรมของ สทน. มากขึ้น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top