'ทวี'ชูพลังสตรีมุสลิมะห์ 3 จชต. แข็งแกร่งท่ามกลางความรุนแรง

'ทวี'ชูพลังสตรีมุสลิมะห์ 3 จชต. แข็งแกร่งท่ามกลางความรุนแรง

วันอาทิตย์ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 18.49 น.

"ทวี"ชูพลังสตรีมุสลิมะห์ 3 จชต. แข็งแกร่งท่ามกลางความรุนแรง พร้อมเรียกร้องรธน.ใหม่ และมาตรการเข้มต่อสู้ยาเสพติด

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาร่วมพิธีเปิดกิจกรรม "บทบาทสตรีมุสลิมะห์กับการก้าวสู่ยุคโลกาภิวัตน์"  โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีฯ ท่ามกลางสตรีมุสลิมะห์จังหวัดยะลา และผู้สนใจกว่า 1,000 คน เข้าร่วมกิจกรรม


พันตำรวจเอกทวี กล่าววิเคราะห์ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ส่งผลให้ครอบ ครัวเปราะบางและเกิดความสูญเสียใหญ่หลวง โดยเฉพาะบทบาทของผู้หญิงที่ต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำและดูแลครอบครัวแทนผู้สูญเสียซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย

"ผมชื่นชมในความเข้มแข็งของผู้หญิงที่ทำให้พื้นที่ยังคงสามารถดำรงอยู่ได้ท่ามกลางความรุนแรง" พันตำรวจเอกทวี กล่าว

พันตำรวจเอกทวี ยังชี้ว่าจุดแข็งของสตรีในพื้นที่ คือ การยึดมั่นในศาสนา การเลี้ยงดูลูกให้รักสันติภาพ และมีความกล้าหาญ ท่านยังได้ยกตัวอย่าง น.ส.มาเรีย คอรินา มาซาโด ผู้นำฝ่ายค้านหญิงของเวเนซุเอลา ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพล่าสุด ในฐานะผู้สร้างแสงสว่างแห่งประชาธิป ไตย โดยเปรียบเทียบว่าคนในพื้นที่ชาย แดนใต้ก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ยากลำบากไม่ต่างกัน

หัวหน้าพรรคประชาชาติ ยังได้วิเคราะห์พลวัตทางการเมืองโดยเฉพาะประเด็นรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งใช้มานาน 8 ปี โดยเล่าย้อนผลการทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญในปี 2559 ว่าประชาชน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โหวตไม่รับรัฐธรรมนูญปี 60 มากสุดในประเทศ โดยจังหวัดปัตตานีไม่รับมากที่สุด (ประมาณ 35%) และจังหวัดยะลาและนราธิวาสก็ไม่รับอยู่ใน 1 ใน 5 ของประเทศ โดยระบุเหตุผลว่า ชาวมุสลิมในพื้นที่ใช้หลัก "อมานะฮ์" (ความรับผิดชอบ) ในการพิจารณา และเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว "ด้อยไปหมด" ทั้งเรื่องศาสนา การศึกษา และเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหลักที่ควรจะปกป้องคุ้มครองประชาชน ดังนั้น ตนจึงมองว่าจำเป็นต้องมีการสอบถามประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่

นอกจากนี้ พันตำรวจเอกทวี ยังได้เน้นย้ำถึงบทบาทของพรรคประชาชาติในการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสภาฯ รวมถึงการผลักดันเพิ่มค่าอาหารกลางวันและจำนวนครูตาดีกา พร้อมกันนี้ ยังได้ประกาศมาตรการเด็ดขาดเพื่อต่อสู้กับยาเสพติด โดยระบุว่าได้มีการลงนามประกาศมาตรการนี้ในช่วงท้ายของการเป็นรัฐมนตรี ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว โดยระบุว่า "กระท่อมที่วางขายบนถนน หรือทำเป็นแผงลอย จะต้องถูกปรับ 50,000 บาทห้ามมาวางขายเป็นแผงลอยและห้ามนำมาผสมขาย" และขอฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนร่วมตรวจสอบ เพราะ"ยาเสพติดกับสันติสุข/สันติภาพนั้นอยู่ตรงข้ามกัน"

ในช่วงท้าย พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ตนมีความภูมิใจที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ได้รับการยอมรับจาก สส.ทั้งประเทศ จำนวน 500 คน เลือกให้เป็นประธานสภาฯ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าบุคคลที่ประชาชนในพื้นที่เลือกนั้น เป็นสิ่งที่สังคมไทยและสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับ และขอให้ประชาชนในจังหวัดยะลาภูมิใจในผลงานนี้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top