มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ร้องศาลปกครองเพิกถอนคำสั่ง "ภูมิธรรม" ปลดล็อคอนุญาตพนันโป๊กเกอร์เป็นกีฬา วอน "นายกหนู" เร่ง "พูดแล้วทำ" ตามคำแถลงนโยบาย เผยผลสำรวจจุฬาฯปี 2566 คนไทยราว 4 .7 ล้านคน เล่นพนันไพ่ทางออฟไลน์และออนไลน์ในจำนวนใกล้เคียงกัน
วันที่ 16 ตุลาคม 2568 ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน พร้อมทนายความ เดินทางยื่นฟ้องรมว.มท.และ คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้พิจารณาเพิกถอนมติของ กกท. และคำสั่งของ รมว.มท. ที่อนุมัติให้การเล่นไพ่โป๊กเกอร์เป็นกีฬาและอนุญาตให้การเล่นพนันไพ่โป๊กเกอร์ได้ เนื่องจากเป็นออกคำสั่งอย่างรีบร้อน เร่งรัด โดยยังไม่มีการออกกฎระเบียบในการกำกับดูแลการจัดแข่งขันโป๊กเกอร์ เป็นการใช้ดุลพินิจโดยไม่สุจริต ไม่ได้คำนึงถึงหลักการป้องกันไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่สังคม ส่งผลกระทบต่อการเข้าเล่นของเด็กและเยาวชนเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ศาลพิจารณาสั่งให้รมว.มท.และ กกท. เพิกถอนคำสั่งและมติดังกล่าวไปก่อน จนกว่าจะมีการออกกฎระเบียบควบคุมให้เข้มงวดก่อนมีการประกาศให้การเล่นไฟโปกเกอร์เป็นกีฬาต่อไป
นายธนากร กล่าวว่า การพนันกลุ่มไพ่ อันได้แก่ ป๊อกเด้ง บาคาร่า ผสมสิบ ต่อแต้ม และโป๊กเกอร์ จัดเป็นการพนันยอดนิยมอันดับต้น ๆ ที่นำพาคนไทยเข้าเล่นพนันเป็นครั้งแรก ผลสำรวจสถานการณ์การพนันในสังคมไทย โดยศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุพาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ในปี 2566 คนไทยราว 4 ล้าน 7 แสนคนเล่นพนันไพ่ โดยเล่นทางออฟไลน์และออนไลน์ในจำนวนใกล้เคียงกัน หากภาครัฐไม่มีมาตรการกำกับควบคุมที่ชัดเจนการขยายตัวนี้อาจกระทบต่อการเข้าเล่นของเด็กและเยาวชนที่นิยมเล่นพนันไพ่ไม่น้อยไปกว่าผู้ใหญ่ ที่สำคัญ หลังจากมีคำสั่งปลดล็อคให้โป๊กเกอร์เป็นการพนันที่อนุมัติอนุญาตได้ เริ่มมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจโป๊กเกอร์ โดยอ้างว่าเป็นการจัดแข่งเพื่อสาธิตบ้าง หรืออ้างว่าเป็นการจัดอบรมการทำธุรกิจ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นการแอบแฝงจัดการเล่นพนันโป๊กเกอร์ เหมือนเปิดช่องให้เปิดบ่อนกลางเมืองกันอย่างเอิกเกริก
นายธนากร กล่าวอีกว่า ขอถือโอกาสนี้วิงวอนต่อรัฐบาลให้เร่งดำเนินการตามคำแถลงนโยบายที่จะไม่สนับสนุนให้มีการประกอบธุรกิจการพนันทุกชนิดให้เป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ไม่สนับสนุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีธุรกิจการพนัน รวมถึงการพนันที่แฝงมาในรูปของกีฬา อาทิ โป๊กเกอร์ อีกทั้งการบังคับใช้กฎหมายในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามบ่อนการพนันและการพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ ภัยไซเบอร์ และการหลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่าง ๆอย่างเร่งด่วน
ด้าน ดร.วศิน พิพัฒนฉัตร ทนายความและผู้จัดการหน่วยวิชาการเครือข่ายนักสาธารณสุขจัดการปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ (สปสส.) กล่าวว่า การฟ้องคดีปกครองต่อศาลปกครองกลางในคดีนี้เป็นการฟ้องเพื่อขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 2253/2568 ที่อนุญาตให้เล่นไพ่โป๊กเกอร์ได้ และเพิกถอนมติประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 4/2568ที่เห็นชอบประกาศกำหนดกีฬาโป๊กเกอร์เป็นชนิดกีฬาตามมาตรา 52 แห่งพ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558โดยเหตุผลที่ต้องมีการฟ้องคดี ไม่ใช่ว่าจะขัดขวางการพัฒนาการเล่นไพ่โป๊กเกอร์เป็นกีฬา แต่เล็งเห็นว่า การที่กระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยอนุญาตให้สามารถเล่นไพ่โป๊กเกอร์ได้ในฐานะกีฬา โดยที่ยังไม่มีกฎระเบียบหรือกติกามาควบคุมการเล่นกีฬาไพ่โป๊กเกอร์ ไม่ให้มีแอบแฝงการพนัน ควรจะต้องมีการออกกฎระเบียบเพื่อการควบคุมกำกับ มีระบบการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด
“การฟ้องคดีในครั้งนี้เป็นการต่อสู้เรื่องดุลพินิจการใช้อำนาจของรมว.มหาดไทย และดุลพินิจของมติประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ไม่ได้คำนึงถึงหลักการป้องกันไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่สังคม อันเป็นการใช้ดุลพินิจโดยไม่สุจริต จึงขอวิงวอนต่อศาลปกครองกลางได้โปรดรับคดีนี้ไว้พิจารณาเพื่อเป็นการปกป้องสังคม และขอให้รัฐบาลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยพิจารณาเพิกถอนคำสั่งและมติที่ประชุมดังกล่าวไปก่อน จนกว่าจะมีการออกกฎระเบียบควบคุมให้เข้มงวดก่อนมีการประกาศให้การเล่นไพ่โปกเกอร์เป็นกีฬาต่อไป”
/////////////
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี