3ชมรมสตรีกาฬสินธุ์ ถวายอาลัย 'สมเด็จพระพันปีหลวง' รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ที่บริเวณห้องโถง ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทางจังหวัดจัดไว้เพื่อถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามแสดงความไว้อาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

คณะกรรมการและสมาชิกจาก 3 ชมรมหลัก ได้แก่ นางระเบียบ ร่มไทรทอง ประธานชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำ จ.กาฬสินธุ์, นางอรนุช เยี่ยมสมบัติ ประธานชมรมสตรีไทยดีเด่นแห่งชาติ จ.กาฬสินธุ์, และ นางพรรณวดี รอดงาม นายกสมาคมส่งเสริมผ้าไทย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมคณะ ได้แต่งกายด้วยชุดดำไว้ทุกข์ ร่วมกันถวายราชสักการะและลงนามแสดงความไว้อาลัย ต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

นางระเบียบ ร่มไทรทอง กล่าวด้วยความโศกเศร้าว่า การเสด็จสวรรคตได้นำความโศกเศร้ามาสู่พสกนิกรชาวไทยอย่างสุดจะพรรณนา พระราชกรณียกิจที่ทรงงานเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มายาวนาน ได้สร้างคุณค่าอันอเนกอนันต์ต่อแผ่นดินไทย ดั่งพระราชดำรัสที่ยังคงฝังแน่นในจิตใจคือ ‘พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า’

ด้าน นางอรนุช เยี่ยมสมบัติ กล่าวว่า สมเด็จพระพันปีหลวงทรงเป็น ‘แม่ของแผ่นดิน’ ทรงเป็นแบบอย่างของการเป็นแม่ผู้ประเสริฐ และทรงเป็น ‘พระผู้ทรงโอบอุ้มปวงชนในชาติ’ เสด็จพระราชดำเนินทั่วประเทศเพื่อช่วยเหลือ สร้างงาน สร้างอาชีพ และมีรายได้อย่างยั่งยืนมาจนถึงปัจจุบัน ผ่านโครงการสำคัญ เช่น โครงการศูนย์ศิลปาชีพ

ขณะที่ นางพรรณวดี รอดงาม กล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ชาวกาฬสินธุ์สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยเฉพาะการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการศูนย์ศิลปาชีพกลุ่มทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน อ.คำม่วง ไว้ในพระราชินูปถัมภ์เมื่อปี 2520 ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาและต่อยอด จนทำให้ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ราชินีแห่งไหม’ และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการปีละหลายร้อยล้านบาท

////-026