วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“รมว.นฤมล” ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส มอบทุนเด็กชายแดนใต้ รับฟังปัญหาครู พร้อมดันการศึกษา Learn to Earn สร้างรายได้ระหว่างเรียน
7 พฤศจิกายน 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ตรวจเยี่ยมการจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายชูสิน วรเดช ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นายศุภชัย จันทร์ปุ่ม รองเลขาธิการสภาการศึกษา นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ตลอดจนผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ จากส่วนกลาง และในพื้นที่นราธิวาส เข้าร่วมกว่า 600 คน ณ ห้องประชุมจำลอง ศรีเลขา โรงเรียนนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส
โดย ศ.ดร.นฤมล ได้นำคณะผู้บริหาร ครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนนักศึกษา ยืนสงบนิ่งถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้น ได้เป็นประธานมอบทุนการศึกษาให้กับทายาทผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนักเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 11 ทุน
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมผู้บริหารองค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับ เพื่อมารับฟังปัญหาการทำงานในพื้นที่ด้วยตนเอง เพราะผู้ปฏิบัติย่อมรู้ถึงการทำงานในบริบทของตนเองเป็นอย่างดี และให้ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการได้มารับฟังปัญหา พร้อมทั้งให้เกิดการแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และทรัพยากรการศึกษาของแต่ละหน่วยงานในพื้นที่ เมื่อนั้นก็จะเกิดการสนับสนุนช่วยเหลือการทำงานการศึกษาของพื้นที่ให้ได้มากที่สุด
“กิจกรรมหลัก ๆ ในการลงพื้นที่วันนี้ก็เพื่อมามอบทุนให้กับน้อง ๆ นักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลให้ความสำคัญและเข้าใจดีกับการจัดการศึกษาแบบพหุวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของครู ผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้บริหารในเขตพื้นที่การศึกษา ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มอัตรากำลังครูวิชาเอกให้ครบในทุกโรงเรียน เรื่องของวิทยฐานะ ซึ่งได้เพิ่มช่องทางการขอวิทยฐานะใน 3 ทางเลือก คือ 1.งานวิจัย 2.นวัตกรรมเชิงประจักษ์ ที่สามารถใช้งานได้จริงในสถานศึกษา ก่อเกิดประโยชน์ต่อการเรียนการสอน เช่น แอปพลิเคชันของโรงเรียนการศึกษาพิเศษ และ 3.รางวัลระดับชาติ ซึ่งต้องได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.ค.ศ.” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
นอกจากนี้ ศ.ดร.นฤมล ยังได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยกระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนการจัดตั้งสหกรณ์กลางเพื่อรวมหนี้ครูอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ที่จะทำให้ครูได้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ทั้งนี้ ยังหวังให้เกิดแรงกระเพื่อมของสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศ ที่จะลดดอกเบี้ยเพื่อรักษาสมาชิกของแต่ละแห่งไว้ด้วย และท้ายสุด เรื่องของระบบย้ายครู (TRS) ถือว่าระบบเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของการย้าย คือมีความโปร่งใส ไม่มีการแทรกแซง แต่เมื่อเราใช้ระบบแล้วพบข้อติดขัด ก็จำเป็นจะต้องปรับปรุงให้สามารถใช้งานและก่อเกิดประโยชน์ต่อครูทุกคนมากยิ่งขึ้น
จากนั้น ศ.ดร.นฤมล ได้เยี่ยมชมกิจกรรมและนิทรรศการ ผลงาน นักเรียน ได้แก่ ทักษะอาชีพผลิตผ้าคลุมผม ผ้าลีลาลาย โรงเรียนบ้านโคกสุมุ สพป.นราธิวาส เขต 1, ทักษะอาชีพการสานเสื่อกระจูด โรงเรียนบ้านโคกพะยอม, โครงการทักษะอาชีพ กลุ่มสาระการงานอาชีพ การจัดการธุรกิจการอาหาร (Food business management : FBM) และการจัดการธุรกิจการเกษตร (Agribusiness management: AM) โรงเรียนนราธิวาสม, นวัตกรรมหลักสูตรที่เป็นอัตลักษณ์ของโรงเรียนและตอบสนองความต้องการของบริบทพื้นที่ โรงเรียนดารุสสาลาม ตลอดจนศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix it Center งานโครงการพิเศษและบริการชุมชน วิทยาลัยเทคนิคบางนรา
“จากการชมนิทรรศการ พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและครู สามารถจัดกิจกรรมการศึกษาได้ตรงกับความต้องการของนักเรียนในพื้นที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อสร้างอาชีพ หรือ Learn to Earn ที่นอกจากจะสอนอาชีพแล้ว ยังสร้างรายได้ให้กับนักเรียนในระหว่างเรียนด้วย ถือเป็นกิจกรรมที่ดีและตอบโจทย์การเรียนการสอนของพื้นที่และโลกยุคปัจจุบัน” ศ.ดร.นฤมล กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี