9 พฤศจิกายน 2568 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.นิธิรุจน์ ชัยรัฐนิธิยศ สารวัตรสอบสวน สภ.สะเดา ร.ต.อ.ยุทธนา จันทะยุง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.สะเดา พร้อมกู้ภัยอำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 มีเหตุคนโดนทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืนไทยประดิฐยิงเข้าที่คอเสียชีวิตคาที่ โดยจุดเกิเหตุอยู่ภายในบ้าน หมู่ที่ 8 บ้านตากลาง ตำบลสะเดา อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ หลังจากรับแจ้งผู้สื่อข่าวรุดลงพื้นที่พร้อมอาสากู้ภัยบัวเชดตรวจสอบจุดเกิดเหตุโดยเร่งด่วน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักปูนชั้นเดียว พบเครื่องขยายเสียงของคนตายยังเปิดเครื่องอยู่ ห่างออกไป 3 เมตร พบศพนายนรินทร์ อายุ 55 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดสภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ มีแผลจากการโดนอาวุธปืนไทยประดิฐยิงเข้าที่คอ และพบผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย นายประสาน อายุ 40 ปี บาดเจ็บโดนผู้ก่อเหตุใช้ด้ามปืนทุบตีที่หน้าผากเย็บหลายเข็ม และนายสมพร อายุ 38 ปี โดนทุบตีด้วยด้ามปืนที่คิ้วขวาแตก โดยนายอิสระ อายุ 55 ปี ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตพี่เขย นายนรินทร์ ผู้ตาย หลังจากก่อเหตุเสร็จผู้ก่อเหตุได้ไปมอบตัวที่สภ.สะเดา ต่อมาเวลา18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ก่อเหตุไปทำแผนที่จุดเกิดเหตุเพื่อรับคำสารภาพ

โดยในขณะที่ทำแผนรับคำสารภาพ นายอิสระ มือยิง เล่าว่าในขณะก่อนเกิดเหตุ นายนรินทร์ อดีตน้องเขย ได้นั่งอยู่กับเพื่อน2คนได้เปิดเครื่องเสียงดัง ด้วยความโมโหตนจึงใช้อาวุธปืนตบหน้าของเพื่อนของนรินทร์ ตอนนั้นนรินทร์พยายามจะเข้ามาทำร้ายตนจึงยิงสวนไป 1 นัดที่คอจนนรินทร์ล้มจมกองเลือด

นายประสาน คนเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกำลังนั่งดูการแข่งขันบอลในทีวีอยู่ ซึ่งตอนนั้นก็มีการเปิดเครื่องเสียงจริง คนก่อเหตุได้ถืออาวุธปืนไทยประดิฐเดินมาหาแล้วพูดว่า “กูทนมานานแล้วน่ะกับพวกมึง”ก่อนจะใชด้ามปืนตบตนเองเข้าที่หน้าผากจนเลือดท่วมหัว ก่อนจะไปตบเพื่อนอีกคนคือ นายสมพร จงใจงาม คิ้วซ้ายแตกจากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นมาและเห็น นายนรินทร์ บุตรงาม นอนแน่นิ่งจมกองเลือด

นางนก อายุ 45 ปี (น้องสะใภ้) เล่าวว่า นายนรินทร์  มีนิสัยรักสงบโลกส่วนตัวสูงมักจะไม่ชอบยุ่งกับใคร โดยเพื่อนที่คบหาก็มีไม่กี่คน เขาเป็นดีและชอบอยู่คนเดียว

ถึงอย่างไรก้ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวคนก่อเหตุ และเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครอบครองปืนเถื่อน และมีเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.

012