'รองโอ๋'โต้ข่าวบิดเบือน แจงไม่เกี่ยวข้องคดีจับกุม'ชนนพัฒฐ์'คาสนามบิน เผยขณะนั้นปฏิบัติหน้าที่อยู่ จ.ยะลา ซัดอดีตบิ๊กตร.พูดเท็จซ้ำซาก

เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2568 พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ออกมาชี้แจงกรณีถูกอดีต รอง ผบ.ตร. รายหนึ่งกล่าวพาดพิงถึงการจับกุมนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม โดยยืนยันว่าข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้นเป็นความเท็จและบิดเบือนข้อเท็จจริง

พล.ต.ต.ทินกร กล่าวว่า ขณะที่มีกระแสข่าวสแกมเมอร์โจมตีหลายฝ่าย ตนถูกอดีตรอง ผบ.ตร. พาดพิงโดยพยายามให้คนเชื่อว่าตนอยู่ในทีมจับกุมนายชนนพัฒฐ์ที่สนามบิน ทั้งที่ความจริงคือวันนั้นผมอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่จังหวัดยะลา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจับกุมอย่างที่เขากล่าว

รอง ผบช.สอท. ยังได้ชี้แจงประเด็นการขอหมายจับที่ถูกบิดเบือนในคดีใหญ่ โดยระบุว่า การขอหมายจับคดีใหญ่ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกก่อนเสมอไป เนื่องจากอาจทำให้หลักฐานดิจิทัลถูกทำลายได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ศาลฎีกาได้เขียนไว้ชัดเจนว่าสามารถทำได้ตามกฎหมาย และศาลก็ไม่ได้ระบุแบบที่อีกฝ่ายเล่าในคลิปเลย

"ยืนยันผมทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ถูกต้องตามกฎหมาย ลูกน้องเขาเคยฟ้องผมเรื่องนี้แล้ว ศาลก็ยกฟ้องไปเรียบร้อย ปัญหาคือเขาพูดบิดไปเรื่อยจนกลายเป็นความเท็จที่พูดซ้ำ ผมเชื่อว่าเวลาจะเป็นคนพูดแทนผมเอง รอวันที่ได้พูดต่อหน้าศาล ด้วยพยานหลักฐาน ไม่ใช่คลิปสัมภาษณ์" พล.ต.ต.ทินกร ระบุ

นอกจากนี้ ในประเด็นการปราบปรามเว็บพนัน พล.ต.ต.ทินกร ยืนยันว่า ตนเองดำเนินการปราบปรามเช่นกัน เพราะมองว่าเว็บพนันคือ "มะเร็งของสังคม" และได้ลงมือสืบสวน จับกุม ขยายผลด้วยตัวเองอย่างจริงจัง และพบว่า มีตำรวจบางกลุ่มเอื้อประโยชน์ให้เครือข่ายเหล่านี้จริง

พล.ต.ต.ทินกร กล่าวทิ้งท้ายว่า "ในการทำงานชีวิตผมไม่มีค่าย ไม่มีนาย ผมแค่ทำตามหลักฐาน ผมทำงานตรงไปตรงมา ไม่อิงอำนาจ ไม่เข้าฝ่ายใคร ผมทำตามพยานหลักฐานทุกบรรทัดของกฎหมาย ดังนั้นขออย่าบิดเบือน อย่าโยนผิดให้คนอื่น เพื่อให้ตัวเองดูดี ผมยังเชื่อในความจริงเพราะสุดท้ายความจริงไม่ต้องพูดเยอะ มันจะพูดด้วยตัวเอง"