คอเหล้ามีเฮ!'โสภณ'แย้มได้ลุ้นข่าวดี เปิดทางดื่มหลังเที่ยงคืน

คอเหล้ามีเฮ!'โสภณ'แย้มได้ลุ้นข่าวดี เปิดทางดื่มหลังเที่ยงคืน

วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

คอเหล้ามีเฮ!
‘โสภณ’แย้มได้ลุ้นข่าวดี
เปิดทางดื่มหลังเที่ยงคืน

“รองนายกฯโสภณ” เผย 13 พฤศจิกายน นักดื่มเตรียมเฮ คณะกรรมการน้ำเมา จ่อปลดล็อกเวลาห้ามขายสุรา เปิดทางดื่มยาวหลังเที่ยงคืน ระบุกฎหมายที่ไม่สอดรับวิถีชีวิต ก็ต้องยกเลิก เพราะอาจเป็นช่องว่างข้าราชการนอกรีดหาประโยชน์

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร สถานบันเทิง และสถานบริการ นำโดย นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโฮสเทลประเทศไทย, นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร พร้อมด้วยตัวแทนจากสมาคมค้าปลีกไทย สมาคมร้านอาหาร สมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจคราฟท์เบียร์ และสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ เดินทางร่วมกันยื่นหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อขอความชัดเจนและขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 รวมทั้งขอให้ยกเลิกการห้ามดื่มนอกเวลาขาย โดยมี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ


นายสรเทพ เปิดเผยว่า ปัญหาหลักของกฎหมายที่ออกมาบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่มีปัญหาหลักคือเรื่องของการห้ามนั่งดื่มต่อ แต่จริงๆ วันนี้ที่มายื่นคือเรื่องของการปลดล็อกขายแอลกอฮอล์ช่วงเวลา 14.00 น. ถึง 17.00 น. ซึ่งมีใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2515 ซึ่งไม่เข้ากับบริบทของประเทศไทย 2. เรื่องของการปลดโซนนิ่ง และ 3. เรื่องของการอนุญาตให้นั่งดื่มต่อ(นอกเวลาจำหน่าย) ซึ่งสามข้อนี้กระทบมาก และไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ประกอบการในประเทศไทยเท่านั้น โดยขอแยกออกเป็น 2 กรณีคือ

1. ผู้ประกอบการร้านอาหารและท่องเที่ยว 2. ภาคธุรกิจกลางคืน โดยในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหารและท่องเที่ยว สำนักงานส่งเสริมส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ โทร.มาสอบถามว่าแก้ได้หรือไม่และแก้อย่างไร เพราะสำนักข่าวต่างประเทศเล่นข่าวหลายสำนัก จึงมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเต็มๆ ทั้งนี้ทีเส็บจะมีการประชุมใหญ่ เป็นสัมมนา 3-4 กรุ๊ป แน่ๆ ถ้ากฎหมายนี้ไม่ได้แก้มีผลกระทบกับเขาแน่ๆ และถึงขั้นที่ว่าเขาอาจจะย้ายจัดการสัมมนาไปประเทศอื่น นี่คือผลกระทบ

นายสรเทพ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร การท่องเที่ยวมีความกังวล กระทั่งแม้แต่มัคคุเทศก์เองยังเป็นกังวล ว่าจะเอาอย่างไรอย่างเช่นหากมีการพานักท่องเที่ยวไปทัวร์ในช่วงที่มีอากาศร้อนเขาจะไปนั่งดื่มเบียร์ในช่วงบ่ายสอง 10 นาทีมันก็ไม่ได้แล้ว ทางร้านจะโดนจับทั้งไกด์ทั้งร้านที่ขาย เขาก็กลัวไปหมดกลายเป็นสภาวะสุญญากาศในช่วงนี้ที่กระทบกับการท่องเที่ยวเต็มๆ เราจึงดูแล้วว่าไม่ไหว เราเข้าใจว่าคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มองในมิติสุขภาพ แต่ตนอยากเรียกร้องว่าให้ท่านมองในมิติอื่นด้วย มองในแง่เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ยังมีทั้งในเรื่องท่องเที่ยว ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร ผับ บาร์ อีกหลายล้านชีวิตในประเทศ ตนจึงมายื่นข้อเสนอตรงนี้

ขณะที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และได้มีการพูดคุยกันในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจครั้งแรก เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้รับทราบข้อร้องเรียนจากผู้ประกอบการ อย่างไรก็ตามกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา ในเนื้อหาสาระมีการปลดล็อกเวลาขาย และให้ไปดูในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวคือ เพิ่มเวลาขายแต่ห้ามนั่งดื่มเกินเวลา ซึ่งเราได้รับคำแนะนำจากฝ่ายกฎหมายว่า เมื่อประกาศฉบับดังกล่าวยังไม่บังคับใช้ การไปแก้กฎหมายดังกล่าวอาจจะยังไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อบังคับใช้แล้ว และนายกรัฐมนตรีได้เห็นว่าประชาชนมีความเดือดร้อน จึงได้เร่งให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการประชุมกันในวันที่ 13 พ.ย.โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อผลออกมา คิดว่าจะได้คำตอบ และมีผลบังคับใช้ไม่เกินต้นเดือน ธ.ค. นี้ ตามข้อกำหนดของกฎหมาย

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ในระหว่างนี้จะหารือกับคณะกรรมการดูว่ามีอะไรบ้างที่สามารถผ่อนปรน หรือผ่อนผันในช่วงนี้ได้ ในส่วนของแนวทางมีความเห็นในทางที่ตรงกัน เพราะการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจครั้งที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ให้ความเห็นเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ว่ากฎหมายฉบับนี้จะมีผลกับจำนวนนักท่องเที่ยว โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ขอให้อดใจรอนิดหนึ่ง

เมื่อถามว่า จะมีแนวทางที่เหมาะสมพอจะตกลงกันได้หรือไม่ เพราะมีประชาชนบางส่วนไม่เห็นด้วย นายสิริพงศ์ กล่าวว่า น่าจะมีการปลดล็อกเวลาขายในช่วงเวลากลางวัน ส่วนเวลากลางคืนการขายอาจจะให้จบแค่ช่วงเวลาเที่ยงคืน สำหรับร้านอาหารทั่วไป ส่วนการนั่งต่อกำลังดูแนวทาง แต่อาจจะมีให้นั่งต่อไปอีกสักช่วงเวลาหนึ่ง

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ระเบียบเหล่านี้จะเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องจากตัวกฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลา กำหนดเพียงว่าห้ามขายและห้ามดื่ม ส่วนเรื่องเวลาต้องดูในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และย้ำว่า ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถทำได้อย่างลำพัง แต่ต้องได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ด้านนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติในวันที่ 13 พย. ว่า จะเป็นการประชุมทั้งคณะใหญ่และคณะรอง ซึ่งได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม.เพื่อรับทราบ และถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ ก่อนย้ำว่า เราต้องอยู่บนโลกของความเป็นจริง เพราะกฎหมายที่ออกมาบางอย่าง ไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต ของปุถุชนคนธรรมดา จึงต้องนำมาปรับปรุง

นายโสภณ กล่าวว่า ระเบียบกฎหมายบางครั้งออกได้แต่ปฏิบัติจริงไม่ได้ ควรจะเลิกได้แล้ว ระเบียบที่ฝืนข้อเท็จจริงไม่ว่าเรื่องใด แม้ว่าจะโลกสวย แต่ในการปฏิบัติใช้ชีวิต มันทำไม่ได้ แล้วพอปฏิบัติไม่ได้ก็เป็นปัญหาในการบังคับใช้กฎหมาย นี่เป็นข้อจำกัดของประเทศไทย พร้อมกับมองว่าเป็นอุปสรรค คนที่ปฏิบัติตามกฎหมายก็เสียผลประโยชน์ ส่วนคนที่ละเมิดกฎหมายก็ได้ประโยชน์ และที่สำคัญ เป็นบ่อเหตุ ของการแสวงหาผลประโยชน์ ของหน่วยงาน และคนที่อยู่นอกรีด ใช้เครื่องมือพวกนี้ไปทุจริต ตนจึงมองว่าในรัฐบาลชุดนี้ กฎหมายใดที่ปฏิบัติไม่ได้ หากควรยกเลิก ก็ควรยกเลิก

เมื่อถามว่าดูแนวโน้มแล้วการยกเลิกเวลา ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในเวลา 14.00 น. -17.00 น. หรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า เป็น พ.ร.บ.เก่า จึงต้องไปดูว่าสามารถปล่อยผ่านได้อย่างไร ต้องคุยกันตรงๆ ในที่ประชุม แล้วมองว่าต้องขยายเวลา ต้องรอผลการประชุมในวันพรุ่งนี้ แต่ทุกฝ่ายเห็นด้วยทั้งหมด ส่วนจะออกมาในรูปแบบคำสั่งยกเลิกเลยหรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า หากคณะกรรมการมีอำนาจในการยกเลิกก็ยกเลิกได้เลย แต่ต้องไปดูในรายละเอียดก่อน แต่โดยความเห็นภาพรวม วิถีที่ควรจะเป็น เป็นไปไม่ได้หรอกวิธีแบบนี้

ส่วนที่ผู้ประกอบการสะท้อนปัญหา ผู้ที่จะเข้ามาจัดการประชุมในประเทศไทยมีเรื่องกังวลในกรณีดังกล่าวนั้น นายโสภณกล่าวว่า ไม่เฉพาะผู้ประกอบการ ประชาชนคนอยากดื่ม ก็รับไม่ได้

ส่วนข้อกำหนดที่ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้บริเวณสถานศึกษา ควรจะยังมีไว้ใช่หรือไม่ นายโสภณกล่าวว่า เรื่องพวกนี้ละเอียดอ่อน ต้องระวัง ใกล้สถานศึกษา ศาสนสถาน ต้องเป็นข้อยกเว้นไป ตอนนี้เยาวชนหมกมุ่นเรื่องพวกนี้ แต่ในเขตธุรกิจต่างๆ ก็ต้องให้ดำเนินการ เพราะนักดื่มก็ดื่มอยู่แล้ว ก่อนทิ้งท้ายว่ากฎหมายที่ปฏิบัติไม่ได้เลิกเถอะ

เมื่อถามว่า ในวัน ที่ 13 พฤศจิกายนจะมีข่าวดีใช่หรือไม่นายโสภณ กล่าวว่า “ข่าวดี ข่าวดี” บอกผู้ประกอบการเขาจะได้สบายใจ คนจะได้มาเที่ยวประเทศไทยเยอะๆ เอาเงินมาใช้บ้านเรา

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top