วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.นำกำลังชุดสืบสวนนครบาล เข้าจับกุมตัว 1.นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อายุ 66 ปี อดีตตำรวจสันติบาล 2.นายทรงยศ เชื่อถือ อายุ 58 ปี 3.นายสมจินต์ รัตนโชติพานิช อายุ 59 ปี 4.นายพิรวัชร์ ยงทองคําทิพย์ อายุ 63 ปี โดยเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 4 ราย จากทั้งหมด 8 ราย
โดยทั้งสี่เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 1122-1126-1128/2568 (ตามลำดับ) ลงวันที่ 10 พ.ย.2568 ในข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่ซ่องโจร , ร่วมกันเรียกค่าไถ่ , ข่มขืนใจผู้อื่นฯ ในคดีอุ้มรีดนักธุรกิจชาวไต้หวัน โดยจับกุมได้ที่โรงแรมกลางกรุงเทพฯ ก่อนควบคุมตัวทั้งหมดมาส่งพนักงานสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ โดยคดีนี้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 8 ราย
ทันทีที่ตำรวจควบคุมตัวมาถึง สน.ทองหล่อ นายสันธนะ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว ด้วยเสียงแข็งว่า ตนเองถูกหักหลังจากฝ่ายการเมือง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากคดีดังกล่าวผ่านไปแล้ว 4 ปี และตนเองไม่ได้หลบหนี และเข้าให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม
สำหรับกรณีคือเหตุการณ์ที่ตนเองถูกตั้งข้อกล่าวหาคดีอุ้มเรียกค่าไถ่ชาวไต้หวัน ซึ่งคดีนี้สำนวนที่อัยการสั่งฟ้อง และให้ตนไปมอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งตนเองอยู่ระหว่างการทำหนังสือขอความเป็นธรรมจากอัยการ แต่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ไปขอศาลออกหมายจับ โดยยืนยันว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน มีแต่ชี้เป้าว่าใครเกี่ยวข้องกับเว็บพนันบ้าง รวมถึงคนจากฝ่ายการเมือง หรือแม้กระทั่งเรื่องของ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร.และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ตนเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะตอนนี้เรื่องยุ่งไปหมด และเหมือนจะมีการกลั่นแกล้งตนหรือตัดตอนเรื่องอะไร
"ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่า ตนใช้สิทธิ์ประกันตัวได้ ไม่กังวลอะไร แต่จะมีความยุ่งยากทางการเมืองต่อไป เพราะเรื่องนี้ตนจะไม่ยอมฝ่ายการเมือง พร้อมกับถามว่า ใครเป็นผู้สั่งการในเรื่องนี้ ซึ่งทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่เป็นสุข เปิดศึกกับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ คนเดียวก็พอแล้ว อย่าเปิดศึกกับตนเองเลย เดี๋ยวจะทำให้สังคมวุ่นวาย"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเปิดศึกกับตนเองใช่หรือไม่ นายสันธนะ ถามกลับว่า ใช่หรือไม่ เพราะตนเองไม่คิดหนีไปไหน ซึ่งหมายจับออกมาตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา หากโทรศัพท์แจ้ง ตนเองก็พร้อมเข้ามามอบตัว ทำไมต้องนำกำลังตำรวจมาเยอะขนาดนี้ เหมือนไปถ่ายทำละคร พร้อมย้ำว่า คดีนี้เป็นคดีเก่า ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่มีปัญหากัน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาก่อนนำตัวไปส่งฟ้องที่ศาลอาญากรุงเทพใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2564 ตำรวจกองปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเจเรมี่ แมนเชสเตอร์ และ นายลูอิส ซิสกิน สองผู้ต้องหาสัญชาติอเมริกัน และผู้ต้องหาชาวไทยอีกหลายคน ในข้อหาร่วมกันเรียกค่าไถ่, พยายามฆ่า, อั้งยี่, ซ่องโจร, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการใดโดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธฯ หลัง นายเวน ยู ชุง ชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นตัวแทนนักธุรกิจจำหน่ายถุงมือยางทางการแพทย์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าถูกอุ้มไปรีดค่าไถ่ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ชนวนเหตุเกิดจากการที่นายลูอิส หนึ่งในผู้ต้องหาทำธุรกิจซื้อขายถุงมือ กับบริษัทของ นายเวน ยู ชุง แล้วเกิดความเสียหายจำนวนเงินถึง 93 ล้านบาท
มีรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีนี้ ก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อรอส่งสำนวนฟ้องต่อศาล และจะต้องนำตัวนายสันธนะ ผู้ต้องหาส่งพร้อมสำนวน แต่เนื่องจากนายสันธนะ ได้มีการบ่ายเบี่ยงไม่มาพบพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าจะทำหนังสือขอความเป็นธรรม กระทั่งเมื่อพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนไปให้อัยการ อัยการจึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ ขอหมายจับ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อจะได้นำตัวนายสันธนะมาส่งยื่นฟ้องต่อศาล จึงมีการเข้าจับกุมดังกล่าว (ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วน!ตร.บุกรวบ'สันธนะ' คดีอุ้มรีดทรัพย์ คุมตัวส่ง สน.ทองหล่อ)
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี