วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
"ธรรมนัส"ผนึก 3 กระทรวง ดัน"บี7"รองรับผลผลิตปาล์มปี 69 พร้อมไฟเขียวเปิดตลาดนำเข้า 3 ปี สนับสนุนการใช้พลังงานในประเทศเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน , นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
ในที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นสำคัญและมีมติมอบหมายให้กระทรวงพลังงานเร่งทบทวนหลักเกณฑ์และขอความร่วมมือในการพิจารณาปรับสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว จาก บี5 เป็น บี7 ซึ่งการเร่งรัดมาตรการดังกล่าว มีขึ้นเพื่อเตรียมรองรับปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม 2569 ที่คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้ปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบสูงขึ้น และอาจกระทบต่อราคาผลปาล์มน้ำมันให้ปรับตัวลดลง รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการแนวทางส่งเสริมการส่งออกปาล์มน้ำมัน และมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมหารือแนวทางพัฒนาสินค้ามูลค่าสูงจากปาล์มน้ำมัน
รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สำหรับการปรับเพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว จาก บี5 เป็น บี7 จะเป็นการช่วยรักษาเสถียรภาพราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันทั่วประเทศ อีกทั้งยังตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม โดยช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการบริหารจัดการราคาสินค้าเกษตรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ควบคู่กับการสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ (เช่น โรงสกัดฯ ผู้ผลิตไบโอดีเซล) พร้อมทั้งผลักดันสังคมคาร์บอนต่ำ และช่วยลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ สร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานในประเทศ ซึ่งจากการประชุม GACC ที่ผ่านมา ฝ่ายจีนได้เน้นย้ำให้ประเทศไทยยกระดับสินค้าเกษตร GI ของแต่ละพื้นที่ให้ทันสมัยทั้งในด้านคุณภาพ มาตรฐาน พร้อมผลักดันให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก เพื่อเสริมขีดความสามารถการแข่งขันและสร้างศักยภาพใหม่ให้ภาคเกษตรไทยบนเวทีนานาชาติอีกด้วย
นอกจากนี้ ในที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ปี 2568 และเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการสำคัญเพื่อขับเคลื่อนนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ 3 คณะ ได้แก่ 1) คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงสร้างราคาผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม 2) คณะอนุกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม และ 3) คณะอนุกรรมการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ รวมถึงประเด็นการค้าระหว่างประเทศให้เปิดตลาดน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม และบริหารการนำเข้าคราวละ 3 ปี (ปี 2569 - 2571) ภายใต้เงื่อนไขตามข้อผูกพันของกรอบการค้าต่างๆ โดยให้มีการบริหารการนำเข้าเช่นเดียวกับความตกลงการเกษตรภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) และมอบหมายให้ องค์การคลังสินค้า เป็นผู้นำเข้าและกระจายสินค้าให้ผู้ผลิตภายในประเทศตามที่สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์มเป็นผู้จัดสรร
สำหรับกรอบการค้าที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดไทย - ญี่ปุ่น (JTEPA) ความตกลงการค้าเสรีไทย - ชิลี (TCFTA) ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน - ญี่ปุ่น (AJCEP) (เฉพาะน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์ม) และเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ทั้งนี้ ยกเว้นความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นไทย - นิวซีแลนด์ (TNZCEP) ที่ไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าและปฏิบัติตามมาตรการการบริหารการนำเข้า
ทั้งนี้ สถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ปี 2568 (ข้อมูลพยากรณ์ ณ ตุลาคม 2568) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดการณ์ว่า เนื้อที่ให้ผล 6.44 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 6.32 ล้านไร่ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9) ผลผลิต 19.64 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 18.55 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.88) และผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผล 3,049 กก./ไร่ เพิ่มขึ้นจาก 2,934 กก./ไร่ (ร้อยละ 3.92) ปัจจัยบวกมาจากพื้นที่ที่ปลูกทดแทนยางพารา พื้นที่นา และพื้นที่รกร้าง ในปี 2565 เริ่มให้ผลผลิต ประกอบกับสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในปี 2568 ทำให้ปาล์มน้ำมันได้รับปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอ ส่งผลให้น้ำหนักทะลายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับราคาผลปาล์มน้ำมันทั้งทะลายคละที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2568 อยู่ที่ 6.13 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งสูงขึ้นจาก 5.72 บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงเดียวกันของปี 2567 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.20
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี