วันจันทร์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เดินหน้า “เมืองโปร่งใส” กทม. จับมือ ACT เปิดข้อมูล ใช้เทคโนโลยี ลดดุลพินิจ ปิดช่องโกง ดึงทุกภาคส่วนร่วมตรวจสอบ
วันที่ 24 พ.ย.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และคณะ ในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็น “เมืองโปร่งใส” อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในระดับนโยบาย ระบบปฏิบัติการ และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน มีนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รศ.ทวิดา กมลเวชช นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมณ หัองนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) เขตพระนคร
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า กทม. สามารถยกระดับความโปร่งใสได้อย่างต่อเนื่อง โดยประกอบด้วย 4 หัวข้อ 1. ความเอาจริงเอาจังจากฝ่ายบริหารและทุกระดับในองค์กร ถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด เพราะความโปร่งใสคือพื้นฐานของเมืองยั่งยืน เมืองฉลาด และเมืองน่าอยู่ หากขาดความโปร่งใส การพัฒนารูปแบบอื่นย่อมเดินหน้าไม่ได้ 2. การใช้เทคโนโลยีเพิ่มความโปร่งใสระบบต่าง ๆ เช่น แพลตฟอร์ม Traffy Fondue และ BMA OSS ช่วยเปิดเผยข้อมูล ลดการพบปะระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้รับบริการ และลดโอกาสใช้ดุลพินิจ ทำให้ตรวจสอบได้มากขึ้น และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 3. การดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะประชาชนคือผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการทุจริต และคือผู้ให้ข้อมูลได้ดีที่สุด การเปิดพื้นที่ให้แจ้งเบาะแส เสนอแนะ และร่วมตรวจสอบ เป็นเงื่อนไขสำคัญของเมืองโปร่งใส 4. แผนปฏิบัติการที่ชัดเจน ไม่ใช่เพียงคำประกาศต้องมีขั้นตอน เครื่องมือ และระบบงานรองรับ เช่น โครงการ COST, Open Data และระบบรับเรื่องร้องเรียนที่โปร่งใส เพื่อติดตามผลได้จริง
นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงมาตรการ 5 ข้อที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เสนอ ประกอบด้วย 1.นโยบาย No Gift Policy 2.ประกาศให้โรงพยาบาลในสังกัด กทม.ไม่รับคอมมิชชั่น 3.ฟื้นโครงการ “ใบอนุญาตยิ้ม” เพื่ออำนวยความสะดวกและลดการใช้ดุลพินิจ 4.การปลูกฝังเด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม. ให้รังเกียจการโกง 5.การผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองต้นแบบด้านความโปร่งใส โดยระบุว่า มาตรการเหล่านี้ “ตอบโจทย์ครบถ้วนและเป็นประโยชน์ต่อ กทม. อย่างยิ่ง” ขณะเดียวกัน กทม. ยังนำข้อเสนอไปต่อยอด เช่น การขยาย “ใบอนุญาตยิ้ม” ให้ครอบคลุมแบบก่อสร้างทุกประเภทที่มีพื้นที่ไม่เกิน 2,000 ตร.ม. เพื่อให้ประชาชนยื่นขออนุญาตออนไลน์ได้รวดเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงการทุจริตในขั้นตอนต่าง ๆ
“คำว่าเมืองโปร่งใส เป็นเรื่องสำคัญ เราจะพูดเรื่องเมืองยั่งยืนต่างๆ แต่ถ้าไม่โปร่งใส ไม่มีทางยั่งยืนได้ ไม่มีทางจะเป็นเมืองฉลาดได้ ไม่มีทางที่เป็นเมืองน่าอยู่ได้ ความโปร่งใสจะเกิดขึ้นจริงได้ ต้องมาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ประชาชนคือผู้เผชิญผลกระทบโดยตรง ทั้งจากการบริการรัฐที่ล่าช้า ความไม่เป็นธรรม หรือภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หากทุกคนช่วยกันเป็น ‘Active Citizen’ แจ้งเบาะแส ข้อเสนอแนะ หรือปัญหาที่พบผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของ กทม. เช่น Traffy Fondue ก็จะทำให้เราดำเนินการแก้ไขได้ตรงจุด กทม. ยืนยันว่าจะรับทุกเรื่องที่ประชาชนแจ้งอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเรื่องทุจริตซึ่งมีช่องทางเฉพาะให้แจ้งแบบไม่เปิดเผยชื่อเพื่อความปลอดภัย“ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
037
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี