วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
‘กรมชลประทาน’เผยระดับน้ำ‘คลองอู่ตะเภา หาดใหญ่’เริ่มลดลงกว่า 1 เมตรเท่าระดับตลิ่ง ย้ำไม่ต้องตื่นตระหนกข่าว‘แก้มลิง’ในเทศบาลเมืองคอหงส์ล้น ปริมาณน้ำที่จะไหลมาถึง‘เทศบาลนครหาดใหญ่’ไม่ได้มากจนน่ากังวล ขณะนี้น้ำออกทะเลได้ดีขึ้น ยืนยัน 1 สัปดาห์เข้าสู่ภาวะปกติ
26 พฤศจิกายน 2568 นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน กล่าวว่า ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาที่ไหลผ่านเทศบาลนครหาดใหญ่ลดลงต่อเนื่อง โดยวานนี้ระดับน้ำสูงสุดเมื่อเวลา 11.00 น. จากนั้นได้ลดลงตามลำดับ จาก 9.97 เมตร รกท. วัดเมื่อเวลา 08.00 น. เช้านี้ (26 พ.ย.68) เหลือ 8.82 เมตร รทก. ลดลงไป 1.15 เมตร คาดการณ์ว่าเช้าพรุ่งนี้ (27 พ.ย.68) จะเข้าสู่ระดับตลิ่ง แต่จะต้องรอจนกว่าน้ำลดต่ำกว่าปากท่อระบายน้ำจึงจะติดตั้งเครื่องสูบน้ำได้ ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้แล้ว โดยในวันที่ 28 พ.ย. ระดับน้ำจะลดลงจนต่ำกว่าปากท่อระบายน้ำแน่นอน จึงพร้อมติดตั้งทันทีเพื่อเร่งระบายน้ำออกทะเล มั่นใจว่า หากไม่มีฝนมาเพิ่ม สถานการณ์น้ำในอำเภอหาดใหญ่จะเข้าสู่ภาวะปกติในสัปดาห์
ส่วนที่มีการแชร์ข้อมูลว่า “แก้มลิงรับน้ำในเทศบาลเมืองคอหงส์ล้น น้ำมหาศาล กำลังไหลเข้าหาดใหญ่ รอบนี้เร็วและแรงมาก เตรียมรับมือรอบใหม่” ขอชี้แจงว่า ปริมาณน้ำจากที่ล้นแก้มลิงและกำลังไหลลงมาในเทศบาลนครหาดใหญ่นั้น ไม่ได้มากจนน่ากังวล ดังนั้นประชาชนไม่ต้องตระหนกว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหาดใหญ่จะรุนแรงขึ้น ขณะนี้น้ำในคลองร. 1 ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำในระบบชลประทานไหลได้สะดวกขึ้น จะส่งผลให้น้ำที่ท่วมขังอยู่ทยอยลดลง แต่ต้องระวังกระแสน้ำที่ไหลแรง
ขณะที่การคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่า ปริมาณฝนเริ่มลดลงแล้ว อีกทั้งพายุโซนร้อน “โคโตะ” จะไม่ทำให้ฝนภาคใต้เพิ่มขึ้น จะทำให้ช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีของการระบายน้ำ แต่กรมชลประทานยังคงติดตามทั้งสถานการณ์น้ำฝนและน้ำท่าตลอด 24 ชั่วโมงและจะเร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาผลกระทบให้เร็วที่สุด
ด้าน รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต และรองประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก สถานการณ์น้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาระบุว่า คำพูดจากผู้ที่ยังติดค้างประมาณ 150,000 คน ในหาดใหญ่ จากข้อมูลการปักหมุดของ GISTDA "พวกเราไมต้องการข้าวกล่อง แต่ช่วยพาเราออกไปได้ไหม" เป็นการแสดงออกถึงความอดทน อดกลั้นทั้งน้ำตาถึงสิ่งที่พ่อแม่พี่น้องสะท้อนออกมาให้สังคมได้รับทราบ ไม่มีน้ำใช้ ไม่มีไฟฟ้า การสื่อสารถูกตัดขาด ไม่มีเครื่องนุ่งห่ม สภาพอากาศเริ่มเย็นลง สภาพร่างกายและจิตใจเริ่มบอบช้ำ โปรดเถอะทุกท่านที่มีกำลัง หน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบ
มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติปรับตัวเป็นศูนย์ประสานงานความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ทุกคนหมดแรง ท้อใจ หมดสภาพ ไม่สามารถจะตอบประชาชนได้ การติดต่อสื่อสารลำบากมาก แต่พวกเราต้องทำเพราะ ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไม่มีพรมแดน
จากข้อมูลกรมชลประทาน ระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากเมื่อวานนี้ประมาณ 1 เมตร จึงคาดว่าวันที่ 28 พฤศจิกายน จะลดลงต่ำกว่าคันกั้นน้ำ ดังนั้นการระบายน้ำจากพื้นที่ลุ่มต่ำ จำเป็นต้องใช้เครื่องสูบน้ำ ระดับน้ำทะเลกำลังลดลงจนถึงวันที่ 3 ธันวาคม จากนั้นจะสูงขึ้น 4-11 ธันวาคม (การระบายน้ำโดยธรรมชาติจะทำได้ยากขึ้น) ปริมาณฝนใน 1 สัปดาห์ข้างหน้าจะไม่มีฝนหนักลงมาเติม สถานการณ์จึงน่าจะเริ่มคลี่คลายภายในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม ยกเว้นพื้นที่ลุ่มต่ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี