วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568
PM2.5กทม.พุ่ง
‘บางรัก’สูงสุดเกินเกณฑ์
รบ.เตือนปชช.ใส่แมสก์
ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งเกินค่ามาตรฐานแทบทุกเขตในกทม. เขตบางรักสูงสุด 55.3 มคก./ลบ.ม. ด้านรัฐบาล เริ่มแจ้งเตือนอันตราย PM2.5 ผ่าน Cell Broadcast แล้วหลังฝุ่นพิษอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ระดับสีส้มมีผลกระทบถึง 2 ธันวาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2568 เวลา 07:00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 45 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยค่ามาตรฐานอยู่ที่ 37.5 มคก./ลบ.ม. ซึ่งมี 12 อันดับ ของค่าฝุ่น PM 2.5 เขต สูงสุดในกรุงเทพมหานคร ได้แก่
1 เขตบางรัก 55.3 มคก./ลบ.ม. 2 เขตสาทร 54.6 มคก./ลบ.ม. 3 เขตลาดกระบัง 54.6 มคก./ลบ.ม.
4 เขตหนองแขม 53 มคก./ลบ.ม. 5 เขตราชเทวี 52.4 มคก./ลบ.ม. 6 เขตปทุมวัน 51.9 มคก./ลบ.ม.
7 เขตตลิ่งชัน 51.4 มคก./ลบ.ม. 8 เขตคลองสามวา 50.3 มคก./ลบ.ม. 9 เขตทวีวัฒนา 50.3 มคก./ลบ.ม.
10 เขตบางคอแหลม 50 มคก./ลบ.ม. 11 เขตบางพลัด 49.7 มคก./ลบ.ม. 12 เขตภาษีเจริญ 49.2 มคก./ลบ.ม.
กรุงเทพเหนือ 41 - 48.9 มคก./ลบ.ม. ภาพรวม อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ กรุงเทพตะวันออก 36.2 - 54.6 มคก./ลบ.ม. ภาพรวม อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ กรุงเทพกลาง 35.6 - 52.4 มคก./ลบ.ม. ภาพรวม อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ กรุงเทพใต้ 28.3 - 55.3 มคก./ลบ.ม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ กรุงธนเหนือ 42.8 - 51.4 มคก./ลบ.ม. ภาพรวม อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ กรุงธนใต้ 42.2 - 53 มคก./ลบ.ม. ภาพรวม อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีระดับ สีส้ม
ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศฯมีข้อแนะนำสุขภาพ คุณภาพอากาศระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมากควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เริ่มใช้งานระบบ Cell Broadcast ส่งข้อความแจ้งเตือนฝุ่น PM2.5 สูงไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงทันที เพื่อให้สามารถป้องกันสุขภาพได้ทันท่วงที ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานของ ทส. ใช้เทคโนโลยีช่วยลดผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน
รองโฆษกฯกล่าวต่อว่า สถานการณ์ PM2.5 มีแนวโน้มสะสมต่อเนื่องถึงวันที่ 2 ธันวาคม จากอิทธิพลสภาพอากาศปิด มวลอากาศเย็นจากจีน และลมอ่อนที่ทำให้การระบายอากาศไม่ดี ขณะที่การตรวจพบ Hotspots เพิ่มขึ้นในภาคกลาง ภาคอีสาน และพื้นที่ทิศเหนือ–อีสานของกรุงเทพฯ ทำให้เศษควันจากการเผาในบางพื้นที่สามารถลอยสะสมในเขตเมืองได้มากขึ้น
ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หลายจุดตรวจถึงเกณฑ์สีส้ม – เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพบค่าฝุ่นสูงในช่วงเช้าเป็นพิเศษ และอาจเพิ่มขึ้นเป็นระยะหากสภาพอากาศยังไม่เอื้อให้เกิดการกระจายตัวของมวลฝุ่น จึงขอแนะนำประชาชนทั่วไปสวมหน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร และลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหัวใจ–ทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกอาคาร หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ และขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงกิจกรรมการเผาทุกประเภทในช่วงนี้
“หากสภาพลมเปลี่ยนและการระบายอากาศดีขึ้น คาดว่าในช่วง 3–5 ธันวาคม ระดับฝุ่นจะมีแนวโน้มลดลง พร้อมย้ำว่ารัฐบาล–ทส. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งดำเนินมาตรการควบคุมมลพิษเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนอย่างต่อเนื่อง”รองโฆษกรัฐบาลกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี