จับตาพายุลูกใหม่
อุตุฯเตือนฝนหนัก
ภาคใต้-กทม.รับมือ
กรุงเก่าน้ำท่วมเพิ่ม
กรมอุตุฯ เตือน พายุลูกใหม่ เคลื่อนลงทะเลจีนใต้ 18-19 ตุลาคม ภาคใต้มีฝนตกหนัก- กทม.ตกร้อยละ 40 เขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการระบายน้ำ เตือน 4 จังหวัดท้ายเขื่อนฯ รับมือ ขณะที่กรุงเก่าท่วมแล้ว 12 อำเภอ กระทบ 5 หมื่นครัวเรือน ด้าน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าหลาก ซัดกล่องเกเบี้ยน เตรียมใช้ป้องกันน้ำกัดเซาะ เสียหายทั้งหมด
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ว่าประเทศไทยตอนบนมียังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขังในระยะนี้
สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
อนึ่ง พายุดีเปรสชัน บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น คาดว่าจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ช่วงวันที่ 18–19 ตุลาคม 2568
ส่วนพยากรณ์อากาศรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ตาก กำแพงเพชร และสุโขทัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร ขณะที่ กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณ จ.พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
ที่ จ.ชัยนาท ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ว่าจากการตรวจสอบน้ำเหนือที่ไหลผ่านเขื่อนฯ ที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากฝนที่ตกหนักตอนบน วัดได้ 2,776 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ระดับน้ำเหนือยกตัวขึ้น 47 เซนติเมตร ในรอบ 24 ชั่วโมง วัดได้ 16.81 ม.รทก.
ทั้งนี้ เขื่อนเจ้าพระยา ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 2,300 ลบ.ม./วินาที ขึ้นไปที่เกณฑ์ 2,400 ลบ.ม./วินาที เพื่อรองรับมวลน้ำเหนือระลอกใหม่ โดยระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น 23 เซนติเมตร ใน 24 ชั่วโมง วัดได้ 15.70 ม.รทก.มีผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา ลงไป จ.สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะยกตัวขึ้น 10-30 เซนติเมตรใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า จึงเตือนพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อน ยังไม่ควรย้ายของลงจากที่สูง และควรติดตามประกาศจากทางการอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ต.ตลุก ซึ่งอยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีบ้านเรือนประชาชนนอกคันกั้นน้ำ ถูกน้ำท่วมขังนานกว่า 1 เดือน โดยชาวบ้านระบุว่าวันเดียวกันนี้ น้ำขึ้นเร็วมาก ส่วนระดับน้ำสูงตั้งแต่ 30-150 เซนติเมตร ยังต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกต่อไป ส่วนที่จุดอพยพทางหลวงชนบทชัยนาท 3018 คันคลองมหาราช มีชาวบ้านได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 3 ตำบล ได้แก่ ต.ตลุก ต.หาดอาษา และ ต.โพนางดำออก มาสร้างเพิกพักชั่วคราวกว่า 400 ครอบครัว ขณะที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยนาท ระบุว่า จ.ชัยนาท มีพื้นที่น้ำท่วม 1 อำเภอ คือ อ.สรรพยา ซึ่งอยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รวม 5 ตำบล 25 หมู่บ้าน 1,759 ครัวเรือน มีผู้ประสบภัยทั้งสิ้น 4,750 คน
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สถานการณ์น้ำท่วมยังรุนแรงและขยายวงกว้าง หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มการระบายน้ำ โยดส่งผลให้หลายอำเภอระดับน้ำเพิ่มสูงและเอ่อล้นท่วมชุมชน มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 12 อำเภอ 150 ตำบล 907 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 51,235 ครัวเรือน โดยเฉพาะ อ.เสนา หลายพื้นที่มีระดับน้ำสูงจนต้องใช้เรือสัญจรและเริ่มขาดแคลนสิ่งของจำเป็น
วันเดียวกัน นายทวีวัฒน์ วิสิฎสิริ นายก อบต.ป่าแป๋ จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ได้ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาอุทกภัยที่หย่อมบ้านห้วยงู บ้านห้วยหนองหวาย หมู่ 10 ต.ป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง โดยตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรและการวางกล่องเกเบี้ยนป้องกันน้ำกัดเซาะตลิ่ง แต่ระหว่างนั้นเกิดมีน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ต้องรีบเคลื่อนย้ายเครื่องจักร ก่อนที่น้ำป่าจะพัดพากล่องเกเบี้ยน เสียหายทั้งหมด
ด้านนายศักดิ์ดา เหมเปา ผู้ใหญ่บ้านห้วยงู ได้รายงานสถานการณ์ให้ฝ่ายปกครอง อ.แม่สะเรียง ทราบ โดยระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเหตุต่อเนื่องจากเหตุน้ำป่าไหลหลากก่อนหน้านี้ โดย อบต.ป่าแป๋ ส่งรถแบคโฮ 2 คัน มาปรับถนนตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา จากนั้นวันที่ 3 ตุลาคม ก็เกิดน้ำป่าหลากต่อเนื่องขึ้นอีก จึงมีการอนุมัติกล่องเกเบี้ยน 36 กล่อง เพื่อป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง แต่กลับมีน้ำป่าหลากและซัดเอากล่องทั้งหมดเสียหายดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าเส้นทางหย่อมบ้านห้วยงู ได้รับความเสียหาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี