วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ล็อกตัว‘เจ๊ลัด’อดีตเมีย‘กำนันลี’ เป็น‘ไส้ศึก’-กอ.รมน.รวบ‘สายลับเขมร’ที่อุบลฯ-สุรินทร์
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ภายใต้กองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) กองทัพภาคที่ 1 ปฏิบัติการเชิงรุกเข้าควบคุมตัว “เจ๊ลัด” หรือนางทองลัด อดีตภรรยา “กำนันลี” ชาวกัมพูชา ภายในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว หลังสืบทราบว่ามีพฤติการณ์ต้องสงสัย ลอบส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวของฝ่ายไทยให้ทางการกัมพูชา ในช่วงสถานการณ์ชายแดนตึงเครียดต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นและ ยึดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งคาดว่าใช้เป็นอุปกรณ์สื่อสารหลักในการส่งข้อมูล โดยจะถูกส่งต่อให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทำการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก รวมถึงหลักฐานการติดต่อที่อาจเชื่อมโยงกับขบวนการต่างชาติ
รายงานระบุว่า ระหว่างการจับกุม “เจ๊ลัด” ไม่ได้ขัดขืน ก่อนถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของหน่วยงานความมั่นคงทันทีตามกฎอัยการศึก เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบแรงจูงใจ เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อความมั่นคงของไทย
ด้านกองกำลังบูรพาเน้นย้ำว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลทางทหาร ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน คาดว่าจะมีการแถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้
ขณะที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แจ้งเตือนประชาชนถึงสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ภายหลังหน่วยทหารและฝ่ายความมั่นคงในหลายจังหวัดได้ตรวจพบและควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยหลายเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ภายในช่วงวันที่ 8–9 ธันวาคม 2568 ทั้งใน จ.อุบลราชธานีและสุรินทร์
จากการปฏิบัติในพื้นที่ หน่วยทหารพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในหลายรูปแบบ ได้แก่
• บุคคลที่มีพฤติกรรมผิดปกติใกล้เขตฐานปฏิบัติการของทหาร
• ผู้ต้องสงสัยที่ครอบครองโทรศัพท์มือถือจำนวนมากหรือสิ่งของจากประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่สามารถชี้แจงแหล่งที่มาได้
• บุคคลต่างด้าวที่ไม่สามารถอธิบายเส้นทางการเดินทางหรือวัตถุประสงค์ในการเข้าพื้นที่ได้ชัดเจน
ทุกกรณีได้ถูกควบคุมตัวเข้ากระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้านความมั่นคงแล้ว เพื่อประเมินความเกี่ยวข้องกับการสอดแนม การขนส่งข้อมูล หรือกิจกรรมที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
เหตุการณ์ตรวจพบหลายครั้งในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน สะท้อนถึง แนวโน้มความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์และมีหน่วยทหารปฏิบัติภารกิจสำคัญด้านความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ต่อเรื่องนี้
พลเอก ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เลขาธิการ กอ.รมน. ได้สั่งการเร่งด่วน ให้หน่วยในพื้นที่เพิ่มระดับการเฝ้าระวังและตรวจตราเป้าหมายสำคัญคือการป้องกันไม่ให้บุคคลหรือกลุ่มที่มีเจตนาไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนหรือสอดแนมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ พร้อมทั้งกำชับให้มีการประสานงานใกล้ชิดระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนในพื้นที่
กอ.รมน. ขอเน้นย้ำและขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน ให้ช่วยกันสังเกตความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ และแจ้งเบาะแสทันที หากพบ
• บุคคลแปลกหน้าที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย
• การถ่ายภาพหรือบันทึกข้อมูลในพื้นที่หวงห้ามหรือติดกับฐานทหาร
• การเดินสำรวจเส้นทางหรือซักถามข้อมูลเกี่ยวกับกำลังพลและตำแหน่งทางยุทธศาสตร์
• ยานพาหนะที่มีลักษณะผิดสังเกต ไม่คุ้นเคย หรือทะเบียนไม่ตรงพื้นที่
ประชาชนสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือผู้นำชุมชนได้โดยทันที เพื่อให้หน่วยงานสามารถเข้าตรวจสอบและจัดการได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในพื้นที่
กอ.รมน. ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ทุกหน่วยยังคงปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มงวด รอบคอบและต่อเนื่อง เพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าแก่สาธารณชนอย่างสม่ำเสมอ 1374 สายด่วน กอ.รมน. โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี