สนศ.ยันไม่ยุบรร.กทม.จากเหตุนร.น้อย แต่จะปรับให้เข้ากับพิ้นที่

สนศ.ยันไม่ยุบรร.กทม.จากเหตุนร.น้อย แต่จะปรับให้เข้ากับพิ้นที่

วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 07.44 น.

รร.กทม.ไม่ยุบ! แต่จะปรับให้ตรงบริบทความต้องการพื้นที่ เร่งศึกษา เล็งทำอนุบาลทั้งโรง/รร.ดนตรี/ดูผู้สูงอายุ-ฝึกอาชีพ / เอาจริง ตามเด็กหลุดนอกระบบเข้าสู่ระบบการศึกษาหรือฝึกอาชีพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดการโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครในภาวะปัจจุบัน จากกรณีมีเด็กนักเรียนน้อยลง จะต้องยุบโรงเรียนบางแห่งหรือไม่ ว่า โรงเรียนกทม.ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่วัด การที่จะไปยุบทำอะไรจำเป็นต้องมีการศึกษา ซึ่งสำนักการศึกษาได้จับมือกับสภาการศึกษา และมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ช่วยกันศึกษาบริบทของโรงเรียนกทม.ในแต่ละพื้นที่ที่มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนประชากร ผู้ปกครอง รวมถึงเรื่องกายภาพของโรงเรียนบางแห่งที่มีพื้นที่ใหญ่เกินแต่เด็กนักเรียนน้อย ซึ่งสำนักการศึกษาได้ส่งข้อมูลให้ทางสภาการศึกษาวิเคราะห์เสร็จแล้ว


โดยเรามีการวิเคราะห์ว่าโรงเรียนกทม.มีความโดดเด่นเรื่องอะไรบ้าง เช่นเรื่องอนุบาล เรากำลังรับเด็กเพิ่มเพื่อจะรับเด็กที่หลุดจากนอกระบบเข้ามาอยู่ในโรงเรียน ให้มีกระบวนการพัฒนาการเรียนการสอน มีแนวคิดหลายแนวทาง เช่น อาจจะทำเรื่องอนุบาลอย่างเดียวให้เป็นอนุบาลทั้งโรงซึ่งต้องดูว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ หรืออาจทำเป็นโรงเรียนที่โดดเด่นด้านดนตรีอย่างเดียว หรือจะดูเรื่องผู้สูงอายุ การฝึกอาชีพ ควบคู่ไปกับการเรียนการสอนปกติ เด็กมาเรียน ครูมาสอน ผู้ปกครองก็มาฝึกอาชีพได้ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในกระบวนการคิด เราไม่ได้จะยุบโรงเรียน แต่อาจจะต้องจัดรูปแบบใหม่ให้เข้ากับลักษณะตรงความต้องการในแต่ละพื้นที่ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่

ทั้งนี้ ในส่วนของการติดตามเด็กหลุดระบบการศึกษาในพื้นที่กรุงเทพฯ กทม. ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา หรือได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้ตามศักยภาพ (Thailand Zero Dropout) เมื่อวันที่  28 มิ.ย. 67 ร่วมกับ 11 หน่วยงานเกี่ยวข้อง และได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Thailand Zero Dropout) กทม. ให้ 50 เขต บูรณาการในเขตพื้นที่ปกครอง ค้นหา ติดตาม และให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ไม่มีชื่อในระบบการศึกษาในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งสำนักการศึกษาได้รายงานผลการติดตามเด็กหลุดระบบการศึกษาในพื้นที่กรุงเทพฯ ในที่ประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกทม. เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ดำเนินการติดตามแล้ว จำนวน 66,327 คน หรือร้อยละ 71.49 จากจำนวนเด็กสัญชาติไทย จำนวน 92,775 คน หรือร้อยละ 100 ทำให้เด็กนอกระบบที่ยังไม่ได้ติดตาม คงเหลือ 26,448 หรือ ร้อยละ 28.51

โดยมีกระบวนการติดตาม 1. ตรวจสอบข้อมูลสถานะการศึกษาของเด็กและเยาวชนเพื่อค้นหาเด็กหลุดระบบการศึกษาในพื้นที่ 2. สำรวจ บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานหรืออาสาสมัคร ค้นหาเด็กหลุดระบบการศึกษา แบ่งแขวง/หมู่บ้านในการดำเนินการ ผู้สำรวจจะค้นหาและคัดกรอง โดยใช้แอปพลิเคชันยืนยันด้วย GPS 3. การช่วยเหลือและติดตาม โดยผู้จัดการรายกรณี (CM : Case Manager) จะรับเคส คัดกรอง ส่งต่อเข้าระบบการศึกษาในระบบ สถานศึกษาสังกัด สกร. บ้านเรียน เป็นต้น หรือพัฒนาอาชีพ (รร.ฝึกอาชีพ) หรือหลักสูตรระยะสั้น โดยผู้จัดการรายกรณี (CM) จะติดตาม รอบ 3 เดือนหรือรอบ 6 เดือน

037

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top