'ทภ.2'ประเมิน 10 แนวรบ'กัมพูชา' ปรับรูปแบบ'ถอย-ตรึงกำลัง' คาดฮึดต้านทานไทยระลอกสุดท้าย

'ทภ.2'ประเมิน 10 แนวรบ'กัมพูชา' ปรับรูปแบบ'ถอย-ตรึงกำลัง' คาดฮึดต้านทานไทยระลอกสุดท้าย

วันอังคาร ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.30 น.

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2568 (เวลา 11.00 น.) ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ในภาพรวมในห้วง 8 วันที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงกดดันจากการปฏิบัติของฝ่ายเราในหลายพื้นที่สำคัญ โดยมีแนวโน้มการปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายเราในห้วงเวลา ดังนี้

1.พื้นที่ช่องบก : ฝ่ายกัมพูชาเร่งเสริมความแข็งแรงของที่มั่น ปรับกำลังเข้าสู่การตั้งรับเต็มรูปแบบ มีเป้าหมายชัดเจนในการยึดตรึงกำลังฝ่ายเรา และชะลอการรุกให้ได้นานที่สุด


2.พื้นที่ช่องอานม้า : ฝ่ายกัมพูชาประสบปัญหาการบังคับบัญชาอย่างรุนแรง สถานการณ์บีบคั้นจนมีแนวโน้มต้องถอนตัวไปยังแนวต้านทานที่ 2 มิฉะนั้นอาจถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์

3.พื้นที่สัตตะโสม - โดนตรวล - ซำแต : ฝ่ายกัมพูชาใช้การยิงสนับสนุนแบบ “ยิงแล้วย้ายฐาน” เพื่อลดความเสี่ยงจากการยิงโต้ตอบของฝ่ายเรา สะท้อนถึงความพยายามเอาตัวรอดท่ามกลางการครองอำนาจการยิงของฝ่ายเรา

4.พื้นที่พระวิหาร - ห้วยตามาเรีย : ฝ่ายกัมพูชาจำกัดการเคลื่อนไหว ซ่อนพรางกำลังและยุทโธปกรณ์อย่างเข้มงวด เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและการทำลายจากอำนาจการยิงของฝ่ายเรา

5.พื้นที่ภูมะเขือ : จุดตรวจการณ์สำคัญแห่งนี้ถูกฝ่ายกัมพูชาระดมยิงกดดันอย่างต่อเนื่องเพื่อจำกัดการตรวจการณ์และการชี้เป้าของฝ่ายเรา

6.พื้นที่ช่องจอม - ช่องระยี - ปลดต่าง : เส้นทางส่งกำลังบำรุงของฝ่ายกัมพูชาถูกตัดขาดอย่างมีนัยสำคัญ พื้นที่ส่วนหลังเริ่มมีความเสี่ยง ซึ่งถือเป็นปัจจัยวิกฤตต่อการดำรงกำลังในพื้นที่แนวหน้า

7.พื้นที่ช่องคนา : ฝ่ายกัมพูชาพยายามรวมอำนาจการยิงด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เพื่อยิงรบกวน แต่การปฏิบัติดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกตรวจจับและทำลาย ของฝ่ายเรา

8.พื้นที่ปราสาทตาควาย - เนิน 350 : ฝ่ายกัมพูชามีแนวโน้มดำรงการรบแบบหน่วงเวลา ใช้ที่มั่นดัดแปลงแข็งแรงและยุทธวิธีซุ่มโจมตี เพื่อยึดตรึงกำลังฝ่ายเราและซื้อเวลา

9.พื้นที่ช่องกร่าง : ฝ่ายกัมพูชายิงฉากป้องกันตามคำขอ เพื่อขัดขวางการรุกของฝ่ายเรา เมื่อเข้าสู่พื้นที่สังหาร ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมาฝ่ายเราได้รับความสูญเสีย

10.พื้นที่ปราสาทตาเมือน : ฝ่ายกัมพูชาสูญเสียขีดความสามารถในการรบอย่างชัดเจน จากการขาดแคลนอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด และยานเกราะ มีแนวโน้มต้องถอนตัว หรืออาจเลือกต้านทานเป็นระลอกสุดท้าย เพื่อรักษาเกียรติภูมิของหน่วย

แจ้งเตือนประชาชนหากพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายซากโดรน และวัตถุที่ตกจากโดรนห้ามเข้าใกล้โดยเด็ดขาด เพราะพบว่ามีการดัดแปลงเป็นระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งสามารถทำงานได้ทั้งจากถูกแรงกระทบ และสั่งระเบิดจากระยะไกลรวมทั้งระบบไฟฟ้าสถิตในพื้นที่ จนทำให้เกิดการระเบิดหากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหรือสายด่วนความมั่นคง 1374 เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

กองทัพภาคที่ 2 ขอยืนยันว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข้อมูลจากทางราชการ และเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่อไป

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top