ปลดล็อกนกปรอดหัวโขน ออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีการประชุมคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ครั้งที่ 2/2568 โดยมีวาระการพิจารณาสถานภาพตามกฎหมายของ ‘นกปรอดหัวโขน’ หรือ นกกรงหัวจุก ว่าจะถูกปลดออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองหรือไม่

   โดยที่ประชุมมีมติปลดนกปลอดหัวโขนออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง หลังจากที่คณะทำงานได้มีการศึกษาและมีข้อมูลที่เพียงพอมาประกอบการพิจารณา

การสำรวจพบว่าประชากรนกปรอดหัวโขนในธรรมชาติมีการกระจายตัวสูงทั่วประเทศ โดยประชากรนกในธรรมชาติมี 44,421 ตัว กระจายในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติสูงถึง ร้อยละ 51 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าสถานภาพของนกมีปริมาณเพียงพอต่อการดำรงเผ่าพันธุ์ในธรรมชาติ และแนวโน้มคดีการลักลอบล่าก็ไม่เพิ่มขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ถอดชื่อนกปรอดหัวโขนออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง และส่งเสริมให้การเพาะเลี้ยง และสนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้แก่ผู้เพาะเลี้ยง พัฒนาไปสู่การเป็นสัตว์เศรษฐกิจในอนาคต

เดิมนกปรอดหัวโขน อยู่ในบัญชีรายชื่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ซึ่งเป็นบทบัญญัติเกี่ยวข้องกับการห้าม "ค้า" สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในบทบัญญัติของมาตรานี้ครอบคลุมถึงผู้บริโภคด้วย หากสั่งอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อหรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองมาบริโภคโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถือว่ามีความผิดฐาน "มีไว้ในครอบครอง" ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากภายหลังมีการถอดออกจากบัญชีดังกล่าวแล้ว จะทำให้สามารถเพาะเลี้ยงได้ และสามารถส่งเสริมการเพาะเลี้ยงได้ในวงกว้าง

อย่างไรก็ดีแม้จะปลดล็อคออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองก็ตาม การล่าในเขตอุทยานหรือพื้นที่หวงห้ามนั้นมีความผิดทางกฎหมายเช่นเดิม

037