‘สุรินทร์’ปะทะหนัก ‘เขมร’จ้องประชิด‘ปราสาทตาเมือนธม’ ชาวบ้านเฝ้าระวัง‘โดรน-สายลับ’

ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์ รายงานสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.68 ตลอดทั้งวัน ไทยกับกัมพูชาได้มีการปะทะกันต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงเย็น มีการยิงปะทะกันด้วยปืนใหญ่ตอบโต้กันไปมาอย่างหนักหน่วง ฝั่งกัมพูชาได้ระดมยิง BM-21 เข้ามายังฝั่งไทย 5-6 ชุด ซึ่งการปะทะหนักกว่าช่วงที่ผ่านมา BM-21 ฝั่งกัมพูชาหลายลูกเข้ามาได้ตกในเขตพื้นที่พลเรือน โดยเฉพาะสวนยางพารา ป่ามันสำปะหลัง บางส่วนตกในป่าอ้อยทำให้เกิดไฟลุกไหม้

ขณะที่ช่วงค่ำฝั่งไทยพบความเคลื่อนไหวของกำลังทหารฝั่งกัมพูชาที่พยายามจะเข้ามาประชิดชายแดนบริเวณด้านปราสาทตาเมือนธม จึงได้มีการระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่เพื่อเป็นการกดดันแนวรบกองกำลังกัมพูชาที่จะเข้ามา มองเห็นดวงไฟลูกกระสุนปืนใหญ่มุ่งหน้าไปทางปราสาทตาเมือนธมอย่างชัดเจน จนถึงเวลา 18.30 น. วันที่ 22 ธ.ค.68 เสียงปืนใหญ่ฝั่งไทยจึงเงียบเสียงลง

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงได้นำผ้ามาคลุมหลอดไฟส่องสว่างโซล่าเซลล์นอกบ้าน เพื่อพรางแสงให้เหลือน้อยที่สุด ป้องกันตกเป็นเป้าโดรนพลีชีพของกัมพูชา นอกจากนี้ในพื้น อ.พนมดงรัก ได้มีการปิดไฟส่องสว่างบนถนนตามหมู่บ้าน และถนนสายหลัก 224 ตลอดเส้นทางอีกด้วย ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่เป็นไปอย่างตึงเครียด ต้องเฝ้าระวังต่อสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา

ด้านนายอภิรักษ์ อนุทูล ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ต.ตาเมียง ซึ่งมีพื้นที่ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม กล่าวว่า เรื่องสำคัญขณะนี้ต้องเฝ้าระวัง คือ บุคคลแปลกหน้าที่จะเข้ามาในพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยตอนนี้กัมพูชามีความพยายามที่จะเข้ามาประชิดชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธม ไปจนถึงช่องกร่าง และเนิน 350 ซึ่งต้องขอความร่วมมือผู้อพยพที่อยู่ยังศูนย์พักพิง ตอนนี้สถานการณ์ชายแดนยังตึงเครียด และต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ยังไม่ให้พ่อแม่พี่น้องกลับเข้ามาในพื้นที่  ///-005