วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
จากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของกำลังพลและพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ตลอดแนวชายแดน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพระราชทานความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและเป็นรูปธรรม ดังพระประสงค์ในการจัดตั้ง “กองทุนหทัยทิพย์” ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ โดยทรงดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารกองทุนฯ และทรงเป็นประธานเปิดโครงการกองทุนหทัยทิพย์ ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์อย่างเป็นทางการ พร้อมพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวนเงิน 1,000,000 บาท ให้แก่กองทุนฯ เพื่อเป็นทุนตั้งต้นในการดำเนินกิจกรรม หรือโครงการสาธารณประโยชน์ด้านต่าง ๆ เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568 ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และได้พระราชทานเพิ่มเติมอีก 20,000,000 บาทในโอกาสต่อมา
.jpg)
ด้วยทรงห่วงใยในความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของกำลังพลและประชาชนที่อาศัยอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในชายแดนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทรงมีพระกรุณาธิคุณสนับสนุนด้านงบประมาณจากการระดมทุนผ่าน “กองทุนหทัยทิพย์” ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ รวมเป็นจำนวนเงิน 121,089,300 บาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการก่อสร้างสิ่งป้องกันภัยต่าง ๆ ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยโครงการก่อสร้างฯ จากการสนับสนุนของกองทุนหทัยทิพย์ ภายใต้การกำกับดูแลของ 2 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) และกองทัพบก (ทบ.) ซึ่งมีภารกิจที่ต้องดำเนินการก่อสร้างอย่างเร่งด่วน อาทิ การสร้างถนนตรวจการณ์ การสร้างรั้วชายแดน และการก่อสร้างที่มั่นกำบัง (บังเกอร์) และหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน โดยมีรายละเอียดผลการดำเนินงาน ดังนี้
1. การสร้างถนนตรวจการณ์และรั้วชายแดน ระยะทางรวม 8 กิโลเมตร
2. การก่อสร้างที่มั่นกำบัง (บังเกอร์) ในพื้นที่เสี่ยงภัยทุกจังหวัด รวมทั้งสิ้น 428 แห่ง
3. การก่อสร้างหลุมหลบภัยสำหรับประชาชนขนาดความจุ 40 คน และ 60 คน
ในพื้นที่เสี่ยงภัยทุกจังหวัด รวมทั้งสิ้น 41 แห่ง
.jpg)
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่บริเวณชายแดนที่ผ่านมา หลุมหลบภัยและที่มั่นกำบัง (บังเกอร์) จากกองทุนหทัยทิพย์ ที่สร้างในจังหวัดชายแดนทั้ง 7 จังหวัด ทำให้เกิดความปลอดภัยแก่กำลังพลแนวหน้าเป็นอย่างมาก และยังเป็นประโยชน์แก่ชุมชนในพื้นที่ แม้ประชาชนส่วนหนึ่งจะอพยพไปยังศูนย์พักพิงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ยังต้องอยู่ดูแลทรัพย์สินและความปลอดภัยของพื้นที่ หลุมหลบภัยจากกองทุนหทัยทิพย์ จึงมีบทบาทสำคัญในการยกระดับความปลอดภัย และเป็นที่พึ่งสำคัญของประชาชน เมื่อเกิดเหตุภัยคุกคามตามแนวชายแดน นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงเล็งเห็นถึงความเดือดร้อน และความจำเป็นของประชาชนในพื้นที่ชายแดนอย่างแท้จริง การก่อสร้างหลุมหลบภัยดังกล่าวจึงไม่เพียงเป็นโครงสร้างด้านความมั่นคง หากแต่เป็นที่พึ่งและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
.jpg)
กองทุนหทัยทิพย์ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อการบรรเทาทุกข์ และสร้างประโยชน์สุขสู่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง ผู้ประสงค์ร่วมบริจาคสามารถสมทบทุนผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขาหลักสี่พลาซ่า ชื่อบัญชี เงินกองทุนหทัยทิพย์ ประเภทบัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 229-3-03266-6 และประเภทบัญชีสะสมทรัพย์ เลขที่บัญชี 229-4-29977-7 หรือสแกน QR Code ผ่านระบบ e-Donation ทั้งนี้ เงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : กองทุนหทัยทิพย์ LINE Official @hataitipfund หรือ สำนักงานกองทุนหทัยทิพย์ ชั้น 1 อาคารวิจัยเคมี สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โทร. 0-2553-8616-19 ในวันและเวลาทำการ
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี