วันศุกร์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
บึ้มศาลพันการเมือง 2ผู้ต้องหาซัดทอดเพียบ ตร.ออกหมายจับเพิ่มอีก3

บึ้มศาลพันการเมือง 2ผู้ต้องหาซัดทอดเพียบ ตร.ออกหมายจับเพิ่มอีก3

วันจันทร์ ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

บึ้มศาลพันการเมือง

2ผู้ต้องหาซัดทอดเพียบ

ตร.ออกหมายจับเพิ่มอีก3

แฉเตรียมระเบิดหลายจุด

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายปาระเบิดเข้าไป ในบริเวณศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมานั้น ทางตำรวจทหารสามารถจับกุมคนร้ายได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 2 ราย คือ
นายยุทธนา เย็นภิญโญ ซึ่งได้รับบาดเจ็บ
จากการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ขณะนี้ถูกนำไปรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า อีกคนคือ นายมหาหิน ขุนทอง ขณะนี้อยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ทหารภายในกรมทหารราบที่11รักษาพระองค์(ร.11 รอ.) บางเขน ตามกฎอัยการศึกเป็นเวลา 7วัน เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ เนื่องจากการก่อเหตุครั้งนี้มีอาวุธสงครามอยู่ในความครอบครองและนำมาก่อเหตุสร้างสถานการณ์

ผบช.น.ชี้บึ้มโยงการเมือง


เที่ยงวันเดียวกัน พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.)เผยถึงสาเหตุการปาระเบิดหนนี้ว่า น่าจะเป็นการป่วนเมือง ส่วนจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกกี่คน ที่ร่วมขบวนการนี้ต้องรอดูหลักฐานก่อน

กระนั้นก็ตาม จากการสอบสวนของฝ่ายทหาร ทราบว่า ผู้ต้องหาได้ซัดทอดไปยังบุคคลที่ร่วมกันก่อเหตุ เชื่อว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ที่ทราบแน่ๆ ผู้ต้องหาได้ใช้ระเบิดสังหารชนิดขว้าง แบบ อาร์จีดี 5 ในการก่อเหตุ ซึ่งไม่ใช่ของทางราชการ

ประกาศจะไล่จับให้หมด

ผบช.น. กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบพฤติกรรม ล่วงหน้า ว่าจะมีกลุ่มก่อเหตุป่วนเมืองทำลายบ้านเมืองทำให้บ้านเมืองเสียหาย และทางผู้ต้องหาได้ขว้างระเบิด และได้ยิงต่อสู้ขัดขวางพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ไม่ต้องบอกหรอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจ แต่ก็มี 2

ฝ่ายนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ไปซุ่มโป่ง

“ถ้ามีอีกก็จะจับอีก จะจับให้หมด นอกจากนั้นยังมีประชาชนให้เบาะแส คุณสู้ประชาชนไม่ได้หรอก คุณทำไม่ดีไม่เรียบร้อย ประชาชนแจ้งมา ทางเราก็ซุ่ม คาดว่าน่าจะมีการก่อเหตุอีก แต่ครั้งนี้โดนแล้วน่าจะหยุด ไม่อย่างนั้นประชาชนก็นอนไม่หลับ “ ผบช.น.กล่าวทิ้งท้าย

เผยมือบึ้มเครือข่ายโกตี๋นปช.

มีรายงานแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุทาง ตำรวจและทหารได้รับการข่าวมาว่าจะมีการลงก่อเหตุสร้างสถานการณ์ที่หน้าศาลอาญารัชดาภิเษก จึงได้มีการจัดชุดติดตามหาข่าวจนทราบเป็นคนร้าย 2 รายนี้ คือ นายมหาหิน ขุนทอง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 12 ต.สวาท อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร และ นายยุทธนา เย็นภิญโญ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/11 หมู่ที่ 7 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยสืบทราบว่าทั้งคู่เป็นกลุ่มโกตี๋ แกนนนำฮาร์ดคอร์ นปช.จังหวัดปทุมธานี ซึ่งจะมีการก่อเหตุลักษณะใช้วัตถุระเบิดป่วนตามสถานที่ราชการหรือสถานที่แสดงสัญญาลักษณ์ทางการเมือง

เหิมต่อสู้ขัดขวางโดนยิงทรุด

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า คนร้ายได้ใช้เส้นทางถนนรัชดาขาออกมุ่งหน้าศาลอาญารัชดาภิเษก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 19.45 น. นายมหาหิน ที่เป็นผู้ขับจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า นูโว สีดำคาดน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน วงต 967 กทม. และมีนายยุทธนา เป็นผู้นั่งซ้อนท้าย ก็ได้ลงมือก่อเหตุ ซึ่งนายยุทธนาที่เป็นคนซ้อยได้ใช้มือขวาขว้างระเบิดชนิด อาร์จีดี-5 เข้าไปบริเวณลานจอดรถของศาลอาญารัชดาภิเษก ก่อนที่จะเร่งเครื่องหลบหนี

ทั้งนี้ขณะที่คนร้ายทั้งคู่ก่อเหตุก็มีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และจักรยานยนต์ 2 คัน ของทางเจ้าหน้าที่การข่าวได้ขับติดตามมาตั้งแต่ก่อนก่อเหตุ จึงได้ขับรถไล่สกัดจับ แต่คนร้ายก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ ซึ่งทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้อาวุธยิงป้องกันตัว จนทำให้ถูกคนร้ายได้รับบาดเจ็บและจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ ซึ่งนายมหาหินคนขั้บได้วิ่งหลบหนีไปในพิพิธภัณฑ์อัยการไทย ส่วนนายยุทธนาผู้ซ้อนท้ายถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัว 4 นัด ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวก่อนนำส่งรพ.พระมงกุฎฯ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดได้ติดตามเข้าไปจับกุมนายมหาหิน ได้ภายในด้านหลังพิพิภัณฑ์ดังกล่าว

ซื้อรถมาใช้ก่อเหตุโดยเฉพาะ

สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นคนร้าย 1 คน สวมเสื้อเชิตสีขาวแขนยาววิ่งหลบหนีชายฉกรรณ์เข้าไปในบริเวณด้านหลังของพิพิธภัณฑ์ ต่อมาก็ได้ยินเสียงปืนขึ้นหลายนัด ระหว่างที่ได้ยินเสียงปืนนั้น คนร้ายก็ได้ถอดเสื้อเชิตแขนยาวสีขาวพร้อมกับวัตถุบางอย่างโยนข้ามกำแพงซึ่งเป็นพื้นที่ป่าหญ้ารกร้าง จนเหลือแต่เสื้อยืดคอปกสีเลือดหมู ก่อนที่จะถูกชายฉกรรณ์จับกุมได้ที่ลานจอดรถของพิพิธภัณฑ์ แล้วนำตัวออกไปทางประตูทางเข้า

ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดทางชุดสืบสวนนครบาล ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ลงตรวจสอบจุดที่คนร้ายถูกจับกุม พบจักรยานยนต์ ที่คนใช้คนร้ายใช้ก่อเหตุล้มอยู่ ตรวจสอบภายในรถพบว่ามีเอกสารหลักฐานครอบครองรถซึ่งปรากฎชื่อ นายยุทธนา เป็นผู้ครอบครอง และคีย์การ์ดที่พักย่านจังหวัดปทุมธานี ระหว่างนั้นได้ทำการตรวจสอบประวัติครอบครองรถพบว่ามีการซื้อขายกันเป็นทอด ๆ แต่กครั้งสุดท้ายนายยุทธนาได้ซื้อรถมาจากคนในพื้นที่ย่านหนองจอก และซื้อได้ไม่ถึงเดือน จึงสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะซื้อรถมาไว้เพื่อก่อเหตุดังกล่าวเพียงอย่างเดียว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบด้านหลังของพิพิธภัณฑ์อัยการไทย ที่เป็นจุดจับกุมตัวนายมหาหิน ก็พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. และ ขนาด 11มม. จำนวนหนึ่งตกอยู่ นอกจากนี้เมื่อเข้าไปตรวจสอบในพื้นทีรกร้างตามคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ก็พบเสื้อเชิตสีขาวแแขนยาวที่คนร้ายโยนทิ้ง ใกล้เคียงกันยังพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .357 อีก 1 กระบอก พร้อมกับกระสุนปืนคาโม่จำนวน 4 นัด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานที่ได้ไปตรวจสอบ

พบเป็นระเบิดที่ใช้ในรัสเซีย

แหล่งข่ายฝ่ายเก็บกู้วัตถุระเบิดและกองพิสูจน์หลักฐาน เปิดเผยว่า ระเบิดชนิดอาจีดี-5 ผลิตขึ้นในประเทศรัสเซีย ซึ่งระยะหลังพบการใช้ระเบิดชนิดนี้มาก ที่คนร้ายในการถล่มกลุ่มผู้ชุมนุมของ กปปส.ส่วนการตรวจสอบแนววิถีการขว้างระเบิดพบว่า จากจุดที่คนร้ายขว้างกับจุดที่ระเบิดตกนั้นมีระยะห่างประมาณ 25เมตร ซึ่งถ้าเป็นการยืนขว้างจะไม่ได้ระยะใกล้ขนาดนี้ แต่ครั้งนี้คาดว่าคนร้ายน่าจะขว้างระเบิดในขณะที่รถยย.แล่นอยู่ เพื่อเป็นการเพิ่มแรงเหวี่ยงมากขึ้น และผู้ที่จะขว้างได้ระยะทำการต้องถูกฝึกมากจนชำนาญพอสมควร

เผยเล็งระเบิดป่วนอีก10จุด

ด้านเจ้าหน้าที่การข่าวเปิดเผยด้วยว่า หลังจากเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผานมา ทางการข่าวได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มผู้ไม่หวังดีทางการเมืองจะวางแผนลงมือก่อเหตุระเบิดป่วน 10จุดในพื้นที่กรุงเทพฯจึงได้วางกำลังเป็น 2ชุด โดยวางชุดเฝ้าติดตามกลุ่มผู้ที่จะก่อเหตุ และอีกชุดเฝ้าตามจุดสำคัญของกรุงเทพที่สืบทราบมาว่า คนร้ายจะก่อเหตุ นอกนากนี้ยังเชื่อว่า กลุ่มคนร้ายจะใช้วิธีการป่วนเมืองโดยการวางระเบิดหรือวิธีต่างๆ ที่จะทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องด้วยสถานการณ์บ้านเมืองและติดกฎอัยการศึกไม่สามารถก่อตั้งม็อบได้ จึงเลือกใช้วิธีดังกล่าวก่อเหตุแทน

เชื่อไม่พอใจศาลสั่งคุกแดง

ส่วนสาเหตุที่คนร้ายลงมือในครั้งนี้นั้น น่าจะเกิดจากความไม่พอใจในคำตัดสินของศาลพัทยา ที่ได้ตัดสินจำคุก 15 แกนนำเสื้อแดง กรณีเป็นแกนนำพากลุ่มคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 ซึ่งมีพนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 4 ปี ไม่รอลงอาญา

ผบ.ตร.เกาะติดสถานการณ์

ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เผยว่าเหตุการที่เกิดขึ้นแสดง แสดงให้เห็นว่ายังคงมีผู้ที่ต้องการก่อความไม่สงบและความรุนแรงภายในประเทศอยู่ ซึ่งตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.)และรัฐบาลพร้อมทั้งตนได้สั่งการให้ฝ่ายปฏิบัติเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยร่วมกับทหารให้ปฏิบัติหน้าที่แบบเข้มข้น เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะได้นำมาซึ่งความมั่นใจและความอุ่นใจของพี่น้องประชาชน

ขณะเดียวกัน ตำรวจทหารได้สนธิกำลังกันทำงานร่วมกันโดยจัดเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบวางกำลังในจุดที่สำคัญๆ เช่น สถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ ศูนย์การค้า สถานีขนส่ง สถานีถไฟ สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่เชิงสัญลักษณ์ตลอดจนจุดเสี่ยงต่างๆ เพื่อเป็นการป้องกันการก่อเหตุต่างๆเพื่อป้องกันไม่ให้มีก่อเหตุรุนแรงใดๆและเพื่อความไม่ประมาท เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความอุ่นใจและมีความปลอดภัยในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนสร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

สะกดรอยคนร้ายต่อเนื่อง

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกและโฆษก(คสช.) จากการปฏิบัติงานด้านการข่าวพบว่ายังมีความพยายามจากผู้ไม่หวังดีที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย ทาง พล.อ.ดุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. ได้ย้ำชัด ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และคสช.ที่ไม่ยอมให้มีการใช้ความรุนแรงต่อกันในทางสังคมไม่ว่าจะต่อบุคคล หรือสถานที่ก็ตามโดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง

ใช้จยย.พุ่งชนล้ม-เกิดปะทะ

ทั้งยังอธิบายเหตุการเพิ่มเติมว่า เมื่อคนร้ายขับขี่จักรยานยนต์มาขว้างระเบิดใส่ศาลอาญารัชดา ทันทีหลังจากก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ติดตามสะกดรอยอยู่ ได้ขับรถพุ่งชนรถจักรยานยนต์ผู้ก่อเหตุทั้งสองจนล้ม จากนั้นมีการขัดขืนและพยายามหลบนี้จนเกิดปะทะกันเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้ง 2 ราย

“ถือว่าเป็นการกระทำที่จงใจก่อความไม่สงบ ที่สำคัญ การกระทำเช่นนี้ มีการเตรียมการและวางแผน มาล่วงหน้า ลักษณะไม่กลัวเกรงกฎหมาย ข่มขู่คุกคามต่อชีวิตและทรัพย์สิน หวังให้เกิดความหวาดกลัว“ พ.อ.วินธัย กล่าว

นายกฯจี้จนท.เร่งตรวจสอบ

พอ.วินธัย ยัง กล่าวถึงเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่ บริเวณศาลอาญาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช. และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งตรวจสอบ และดำเนินการในทุกด้าน เพื่อสรุปและนำเข้าสู่การดำเนินคดีโดยเร็ว พร้อมแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีขอให้สังคม อย่าเร่งรัดการทำงานของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคง แต่ขอให้เป็นไปตามกระบวนการพิสูจน์พยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ปล่อยให้ตำรวจดำเนินการทางคดีอย่างเต็มที่ ในส่วนของรัฐบาลยังไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ในขณะนี้

เผยคนร้ายมีปืน2กระบอก

ด้าน พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการหน่วยเก็บกู้ และตรวจสอบวัตถุระเบิด บช.น.เปิดเผยว่า ในที่เกิดเหตุพบกระเดื่อง RGD 5 รหัส 57 ซึ่งเป็นเลขการผลิตระเบิดดังกล่าว และเมื่อนำมาเทียบกับเหตุการณ์ระเบิดช่วงที่มีชุมนุมทางการเมือง ที่ถนนบรรทัดทองพบว่าเหตุการณ์ที่บรรทัดทอง มีเลขรหัส48 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีความเชื่อมโยงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ขนาด9มม.และยังพบอาวุธปืน.357 บรรจุกระสุนได้6นัด ซึ่งถูกยิงไปแล้ว2นัด ตกอยู่ด้านหลัง อาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก จึงสันนิษฐานว่าคนร้ายมีอาวุธปืนอย่างน้อย 2กระบอก

ศาลเข้มรักษาความปลอดภัย

ขณะที่ นายบวรศักดิ์ ทวิพัฒน์ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานศาลยุติธรรมได้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการตรวจรถยนต์ และบุคคลที่เดินทางเข้ามาติดต่อราชการศาล โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ- ทหาร ร่วมตรวจค้นอาวุธและค้นหาวัตถุระเบิด ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลมากขึ้นกว่าเดิม

อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าวไม่ถือเป็นภาระสำหรับสำนักงานศาลยุติธรรม แต่เป็นการสร้างความอุ่นใจ และสร้างความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัย ให้แก่ผู้ที่เดินทางมาศาลมากกว่าเป็นการสร้างความลำบากใจ

นปช.ปัดเอี่ยวลอบปาบึ้มศาล

ด้าน นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีตสส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยและแกนนำนปช.กล่าวว่าเหตุการ ที่ผู้ไม่หวังดีปาระเบิดใส่ศาลที่รัชดา หนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายนปช.แน่นอนเพราะหากจะมีการเคลื่อนไหวคงเคลื่อนไหวไปนานแล้ว

ทั้งเชื่อว่า ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการสร้างสถานการณ์ของผู้ไม่หวังดีเพราะตอนนี้ตนมองว่ารัฐบาลปัจจุบันก็มีปัญหาหลายด้าน เช่น ปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาการปฏิรูปพระ หรือแม้กระทั้งการคงไว้ของกฎอัยการศึก อาจจะมีบางฝ่ายไม่พอใจก็เป็นได้ ส่วนจะมีการเชื่อโยงที่แกนนำนปช.ไม่ได้รับการประกันตัวที่ศาลพัทยาหรือไม่ เรื่องนี้คงไม่เกี่ยวข้องเพราะเรื่องก็เกิดมาตั้งหลายวันแล้ว และ ตอนนี้ทางแกนนำนปช.ได้รับการประกันตัวออกมาหมดแล้ว

เฟซบุ๊คมือบึ้มชื่นชอบยิ่งลักษณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเฟซบุ๊คของ นายยุทธนา เย็นภิญโญ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับ1ในผู้ต้องหาปาระเบิดหน้าศาลอาญา ระบุอาศัยอยู่ในกทม.เคยเรียนมัธยมวัดธาตุทอง สถานภาพแต่งงานแล้ว โดยได้ลงภาพขณะดื่มเหล้าด้วยใบหน้าเข้ม ทั้งยังแชร์อัลบั้มของYingluck Shinawatra และเขียนว่าถูกใจ ในภาพนายกฯยิ่งลักษณ์ ลงคะแนนเลือกตั้ง สว.ที่โรงเรียนคลองลำเจียก ถึง 4ภาพ ส่วนเฟสบุ๊คของมหาหิน ขุนทอง ซึ่งตรงกับชื่อผู้ต้องหาโยนระเบิดหน้าศาลอาญาอีกรายหนึ่ง ไม่ปรากฎว่าชื่นชอบนักการเมืองกลุ่มไหน นอกจากคำตัดพ้อในเรื่องความรัก

จ่อขอศาลออกหมายจับอีก5

ค่ำวันเดียวกัน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก สตช.เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีการลอบก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ 10จุด จึงวางกำลังเฝ้าระวัง โดยศาลอาญารัชดาเป็น 1 ใน 10 เป้าหมายของคนร้าย ซึ่งเหตุเมื่อคืนคนร้ายสั่งการผ่านทางแอปพิเคชั่นไลน์ โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่าเดียร์ ได้ค่าจ้างก่อเหตุ 2หมื่นบาทและคนร้ายยังสารภาพว่า เดิมจะเริ่มปฎิบัติการช่วงวันที่ 12-15มีนาคม อย่างไรก็ตามหลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบคือ แทปแล็ตของคนร้ายตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากขณะหลบหนีคนร้ายยิงปืนปะทะกับเจ้าหน้าที่ แต่รถจักรยานยนต์ล้มห่างจุดเกิดเหตุไม่มาก จึงทิ้งรถหลบหนีและทิ้งอาวุธปืน.38 ในพงหญ้าต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถยึดคืนได้แล้ว และจากการสืบสวนขยายผลคาดว่า จะออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องที่เป็นระดับปฎิบัติการณ์และอยู่เหนือผู้ต้องหาทั้ง 2คน ขึ้นไปได้รวม 5คน เป็นผู้ต้องหา 2คน ภรรยาผู้ต้องหา 2คนและอีก 1คน ยังหลบหนี ทำหน้าที่จัดหาระเบิดมาให้ผู้ต้องหาและมีหมายจับคดีความมั่นคง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

แพร่โฉม5ผู้ต้องหาบึ้มศาลอาญา ระบุบางคนหลบคำสั่งคสช.ที่ 68

ผู้ต้องหาแฉยิบคดีบึ้มศาลอาญา มีชื่อ'ชัยสิทธิ์-บิ๊กแจ๊ด'ในหลักฐาน

ตะลึง!!วางแผนบึ้มกทม.100จุด รับเสื้อแดงจ้าง-จับเพิ่ม2ตามล่า1

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เย้ยแก๊งด้อยค่า\'หมอยง\' แต่สุดท้ายเชียร์หมอคนไหนโดนคดีเรียบ เชื่อไม่หมดแค่นี้ เย้ยแก๊งด้อยค่า'หมอยง' แต่สุดท้ายเชียร์หมอคนไหนโดนคดีเรียบ เชื่อไม่หมดแค่นี้
  • \'รักชนก-สหัสวัต\'บุก\'ป.ป.ช.\' ยื่นสอบ\'สุชาติ\'ปมทุจริตซื้อตึก SKYY9 'รักชนก-สหัสวัต'บุก'ป.ป.ช.' ยื่นสอบ'สุชาติ'ปมทุจริตซื้อตึก SKYY9
  • เกาะติด\'ชั้น 14\' \'ทนายนกเขา\'ซัด รบ.มีส่วนร่วม เหตุเพิกเฉยคดี เกาะติด'ชั้น 14' 'ทนายนกเขา'ซัด รบ.มีส่วนร่วม เหตุเพิกเฉยคดี
  • เปิด 5 มาตรการ\'ฮุนเซน\'เอาคืน ไม่ง้อไทย หลังไม่ยอมเปิดด่านให้ เปิด 5 มาตรการ'ฮุนเซน'เอาคืน ไม่ง้อไทย หลังไม่ยอมเปิดด่านให้
  • ‘ชาญชัย’ยกคณะฟังศาลนัดไต่สวนคดีชั้น14 ยันไม่มีส่วนได้เสีย ‘ชาญชัย’ยกคณะฟังศาลนัดไต่สวนคดีชั้น14 ยันไม่มีส่วนได้เสีย
  • สะท้านทั้งบาง! จับตาดาบสองป.ป.ช.รอเชือดซ้ำม.157 ขรก.เอื้อ‘ป่วยทิพย์’ สะท้านทั้งบาง! จับตาดาบสองป.ป.ช.รอเชือดซ้ำม.157 ขรก.เอื้อ‘ป่วยทิพย์’
  •  

Breaking News

'สหพันธ์กุนขแมร์'สั่งแบนนักมวยไทยห้ามขึ้นชกในกัมพูชา เริ่มวันนี้

เย้ยแก๊งด้อยค่า'หมอยง' แต่สุดท้ายเชียร์หมอคนไหนโดนคดีเรียบ เชื่อไม่หมดแค่นี้

'รักชนก-สหัสวัต'บุก'ป.ป.ช.' ยื่นสอบ'สุชาติ'ปมทุจริตซื้อตึก SKYY9

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพฤหัสบดี 13 มิถุนายน 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved