ผบ.ตร.เชือดไม่ไว้หน้า

เด้งน้องชาย

ล้างบาง11ตร.นครปฐม

เซ่นคดีอุกฉกรรจ์เกิดซ้ำซาก

ลั่นส่งสัญญาณแรง‘เอาจริง’

คาดโทษ‘ผบช.-ผกก.’ภาค7

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่ง ตร.ที่ 293/2558 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2558 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ มีใจความว่า ด้วยในช่วงที่ผ่านมามีเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นครปฐมหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2558 และวันที่ 19 พ.ค. 2558ดังนั้นเพื่อให้การปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงให้ข้าราชการตำรวจ 11 นาย มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบ.ตร.มอบหมาย จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 2558 เป็นต้นไป โดยให้ไปรายงานตัวที่ ศปก.ตร.ก่อนเวลา 13.00 น.ของวันดังกล่าวให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร.หัวหน้าและพนักงานสืบสวนคดีอาญาสำคัญ ลงไปเร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดตามอำนาจหน้าที่โดยด่วน

สำหรับข้าราชการตำรวจจำนวน 11 นายดังกล่าว ประกอบด้วย1.พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม 2.พล.ต.ต.ประภากร ริ้วทอง ผบก.สส.ภ.7 3.พ.ต.อ.รัตนะ ปาลจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม 4.พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมืองนครปฐม 5.พ.ต.อ.อุดม เปี่ยมศักดิ์ ผกก.สส.จว.นครปฐม 6.พ.ต.ท.สุธี วรรณสูต รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครปฐม

7.พ.ต.ท.ภูวดิท คงเพ็ชร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครปฐม 8.พ.ต.ท.ครุพงษ์ แก้วสะอาด สวป.สภ.เมืองนครปฐม 9.พ.ต.ท.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล สว.ส.สภ.เมืองนครปฐม 10.พล.ต.ต.ทวิพงศ์ พงษ์สูงเนิน ผู้บังคับการสันติบาล 3 และ11.พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้กำกับ 5 กองบังคับการปราบปราม

ด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวถึงคำสั่งโยกย้ายดังกล่าวว่า ตนพิจารณาแล้วเห็นว่าในพื้นที่ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7( บช.ภ.7 )โดยเฉพาะ จ.นครปฐม และจังหวัดใกล้เคียงมีอาชญากรรมรุนแรง สะเทือนขวัญ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีการจับกุมต่างๆ โดยหน่วยงานภายนอกโดยเฉพาะฝ่ายปกครอง ทำให้เห็นว่าตำรวจในพื้นที่ ภ.จว.นครปฐม และบช.ภ.7 ที่มีส่วนรับผิดชอบอาจไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด หรืออาจละเลย หย่อนยาน ไม่ทำตามนโยบายที่ตนมอบไว้ เพื่อให้การทำคดีต่างๆ คลี่คลายจึงสั่งให้ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ในคดีที่เกิดขึ้นมาช่วยราชการ ศปก.ตร.ชั่วคราว และส่งชุดสืบสวนพิเศษที่มี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดเข้าไปคลี่คลายคดี ทราบว่าลงพื้นที่ จ.นครปฐมแล้ว

ผบ.ตร.ยังระบุว่า เพิ่มเติมว่า คดีแรกที่สะเทือนขวัญเป็นคดีแก๊งเด็กแว้นยิงวัยรุ่นต่อหน้าแม่ในร้านบะหมี่ก็ไม่สามารถจับกุมได้ จนตนต้องส่งชุดสืบสวนพิเศษลงไปจึงจับกุมได้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการยิงกันมีตำรวจสันติบาล 3 เสียชีวิต 1 นาย ประชาชนอีกหลายคนบาดเจ็บก็เกิดใน จ.นครปฐม เป็นคดีสะเทือนขวัญ ประชาชนให้ความสนใจ

และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมามีคดียิงกันตายเกิดขึ้น ตนได้รับข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่ส่งข้อมูลมาหลายช่องทางทั้งทางโทรศัพท์ และโซเชียลมีเดีย ทราบว่าสาเหตุจากการโกง หักหลัง เล่นการพนัน แสดงว่าในพื้นที่ จ.นครปฐม มีบ่อนการพนันจึงเกิดทะเลาะวิวาทถึงขั้นยิงกันเสียชีวิต บ่อนนี้ ตนเคยบอก พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 ไปแล้ว กำชับ ผบก.นครปฐมไปแล้วว่ามีบ่อนการพนันลักลอบเล่นอยู่ในหลายจังหวัด กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และนครปฐม เป็นหลัก

“สิ่งเหล่านี้ผมพยายามสื่อบอกตำรวจในพื้นที่มาตลอดให้สืบสวนจับกุมโดยไม่ต้องเกรงใจหรือเห็นแก่หน้าใคร แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการ กระทั่งเกิดเหตุรุนแรงยิงกันตาย เข้าใจว่าบริเวณใกล้บ่อนพนัน และสาเหตุเกิดจากโกงหักหลังในวงพนัน ถึงแม้ว่าขณะนี้มีผู้ต้องหาเข้ามอบตัวรับสารภาพว่าลงมือยิง แต่ผมยังไม่ปักใจ เพราะทุกครั้งที่ยิงกัน หรือขับรถชนใครเสียชีวิต สุดท้ายคนที่รับว่าลงมือจะเป็นคนใกล้ชิดที่ยอมรับผิดแทนนาย เพราะฉะนั้นในคดีนี้ผมจึงส่งชุดสืบสวนพิเศษลงไปคลี่คลายให้ลึกว่าผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวนั้นเป็นตัวจริง หรือรับสมอ้าง รับผิดแทน ผมให้เวลาทำเต็มที่ ไม่กำหนดเงื่อนเวลา คดีแบบนี้เร่งรีบไม่ได้” ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า จากนี้จะให้จเรตำรวจเข้าไปสืบสวนข้อเท็จจริงตำรวจทุกนายที่สั่งให้ช่วยราชการว่าเข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หรือมีผลประโยชน์ร่วม หากมีหลักฐานชัดเจนว่ามีส่วนช่วยเหลือ สนับสนุน มีผลประโยชน์ร่วมก็จะขออนุมัติย้ายออกจากพื้นที่ และสอบสวนทางวินัย หากพบผิดก็จะพิจารณาโทษตามความเหมาะสม ให้ความเป็นธรรม

“กรณี พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. ที่ผมสั่งมาช่วยราชการด้วย เป็นน้องชายของผมเอง แต่เมื่อพิจารณาตามคำสั่ง 234/2558 ก็ต้องร่วมรับผิดชอบ ไม่มีลูบหน้าปะจมูก ถ้าทำผิดต้องยอมรับผิด ทำไม่ดีต้องยอมรับว่าทำไม่ดี ไม่ใช่ว่านามสกุล พุ่มพันธุ์ม่วงแล้วยกเว้น ผมไม่มีข้อยกเว้น “ผบ.ตร.ระบุ และบอกว่าไม่ต้องโทรมาขอ

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า วันนี้ได้สั่งให้ตำรวจในสังกัด บช.ภ.7 ตั้งแต่ ผบช.จนถึง ผกก.ทุกนายมาประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพูดทำความเข้าใจ บอกนโยบายกับผู้ใต้บังคับบัญชา ว่าควรต้องปฏิบัติตัวปฏิบัติตนอย่างไร ไม่เพียงตำรวจในพื้นที่เท่านั้น ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย เช่นกองกำกับการสืบสวนสอบสวน หรือกองบังคับการปราบปราม ต้องร่วมรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า การเรียก ผกก.ขึ้นไปใน บช.ภ.7 มาประชุมด่วน เป็นการส่งสัญญาณแรงหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ถือว่าเป็นภาคแรกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เรียกมาทั้งภาคให้มารับรู้โดยทั่วกันว่าตนเอาจริง

“ผมส่งสัญญาณแรงอย่างนี้เลย ส่วนกรณีที่สั่ง ผบก.ส.3 มาช่วยราชการด้วยกัน เพราะลูกน้องถูกยิงเสียชีวิตทั้งคน ไม่มีรายงานผมเลย ผมไม่รู้เรื่อง ถามว่าทำถูกต้องหรือไม่ ทั้งที่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบ พิจารณาว่าการเสียชีวิตนั้นเกิดในหน้าที่หรือไม่ ต้องช่วยเหลืออย่างไร กลายเป็นถูกตำหนิว่าผู้บังคับบัญชาไม่ดูแลเหลียวแล ไม่ช่วยเหลือเรื่องสิทธิประโยชน์ ผบ.ตร.ถูกด่าอีก ไม่รายงานผม ผมรับไม่ได้”ผบ.ตร.กล่าว

ต่อมาเวลา 14.00 น. ผบ.ตร.ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้กำกับการขึ้นไป เข้ามาชี้แจงพร้อมกำชับตักเตือนถึงแนวทางในการทำงาน ณ ห้องประชุมศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานแรกที่ถูกเรียกเข้ามามอบนโยบายภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่พล.ต.อ.สมยศ เข้ามารับตำแหน่ง ผบ.ตร.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุรุนแรงในนครปฐม คือ วันที่ 10 พฤษภาคม มีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดถนนไผ่ลิ้นช้างหน้าหมู่บ้านอยู่เจริญ ม.8 ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม มีผู้เสียชีวิตคือ นายปิยะศักดิ์ เตียนสำรวย อายุ 29 ปี อยู่ ต.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม และ ส.ต.ต.สหชาติ ถึงสุข ผบ.หมู่ กก.1 บก.ส.3 (เสียชีวิตภายหลังขณะอยู่ที่ รพ.ได้ 2 วัน)

ส่วนวันที่ 19 พฤษภาคม มีเหตุยิงนายสมศักดิ์ หรือ มด แสงทอง อายุ 29 ปี อยู่ ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม เสี่ยค้าสุกรชำแหละ และเป็นเซียนพนันเสียชีวิตหน้าอาคารพาณิชย์ ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม(ตั้งเซียฮวด) โดยนายสมศักดิ์ หรือมด ถูกยิง คนร้ายได้ยิงต่อหน้าข้าราชการตำรวจชั้นประทวนสังกัด สภ.เมืองนครปฐม ที่กำลังนั่งเคลียร์ปัญหาบางอย่างกันอยู่