วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
จับ‘หมอหยอง’ สารภาพหมิ่นสถาบัน-เรียกผลประโยชน์ โดนพร้อมเลขา-บิ๊กปอท.

จับ‘หมอหยอง’ สารภาพหมิ่นสถาบัน-เรียกผลประโยชน์ โดนพร้อมเลขา-บิ๊กปอท.

วันพฤหัสบดี ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

จับ‘หมอหยอง’

สารภาพหมิ่นสถาบัน-เรียกผลประโยชน์

โดนพร้อมเลขา-บิ๊กปอท. 

แฉพาดพิง8นายตำรวจ 

เพิ่งทำ2เดือนมีมากกว่า3 

สั่งให้ออก‘สารวัตรเอี๊ยด’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 21 ตุลาคม ที่ศาลทหารกรุงเทพ เขตพระนคร ได้มีบรรดาสื่อมวลชนจากทุกแขนง เดินทางมาปักหลักเฝ้ารอทำข่าว การควบคุมตัวผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือม.112 มาส่งศาลทหารกรุงเทพ ท่ามกลางมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย

ของเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารอย่างเข้มงวด โดยทำการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกบริเวณศาลทหารฯ ซึ่งในส่วนของสื่อมวลชนจะต้องติดบัตรแสดงตัวต้นสังกัดให้ชัดเจนตามข้อปฏิบัติมาตรการรักษาความปลอดภัยของกรมพระธรรมนูญด้วย


ต่อมา เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รอง ผบก.น.6 หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีหมิ่นสถาบันฯ พร้อม พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ นำเอกสารคำร้องมายื่นต่อศาลทหารกรุงเทพ เพื่อขอฝากขังผู้ที่ถูกหมายจับในฐานความผิดคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน พร้อมทั้งยื่นคำร้องขอศาลทหารกรุงเทพอนุมัติออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วยอีก1 คน

คุมตัว3ผู้ต้องหาฝากขังผัดแรก

กระทั่งเวลา 15.00 น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.บุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้นำตัวผู้ต้องหามายื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังผัดแรกที่ศาลทหาร กรมพระธรรมนูญ ภายใต้การควบคุมดูแลของตำรวจคอมมานโดจำนวน 10 นาย ทหาร 10 นาย พร้อมอาวุธครบมือ และตำรวจนอกเครื่องแบบอีก 15 นาย

“หมอหยอง”-ลูกน้องคนสนิท

โดยคดีนี้มีผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบไปด้วย 1.นายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ “หมอหยอง” หมอดูชื่อดัง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127/35 พหลโยธินปาร์ค ซ.พหลโยธิน 14 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารที่ 27/2558 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2558 ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ 2.นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรือ “อาท ชัตเตอร์มหาเทพ” อายุ 39 ปี คนสนิท และเลขาฯ ของหมอหยอง อยู่บ้านเลขที่ 26/66 ถ.สังขวิทย์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารที่ 28/2558 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2558 ข้อหา ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์

“สารวัตรเอี๊ยด”ร่วมขบวนการ

และ 3.พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือ“สารวัตรเอี๊ยด” สารวัตรกองกำกับการ1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(สว.กก.1 บก.ปอท.) อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่1 ห้อง 1914 คอนโดมิเนียมลาเมซอง ซ.พหลโยธิน 24 แขวงจอมพล เขตจตุจักร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารที่ 29/2558 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2558 ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในความครอบครอง มีและใช้ซึ่งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และตั้งวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมื่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์

หมอดูคนดังใบหน้าถอดสี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ พ.ต.ต.ปรากรม อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงสีดำ โกนศีรษะโล้น ขณะที่ นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงขายาวสีน้ำตาล และนายสุริยัน อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนยาว กางเกงสีดำ ศีรษะโล้น ใบหน้าถอดสี

นำตัวขึ้นรถส่งไปขังที่ มทบ.11

ต่อมาเวลา 16.20 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพได้นำรถควบคุมผู้ต้องหามาจอดเพื่อเตรียมขบวนบริเวณหน้าศาลทหาร ท่ามกลางการอารักขาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคอมมานโด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.1 จากนั้นไม่นาน พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด มาขึ้นรถของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดย พ.ต.ต.ปรากรม ได้เดินออกจากศาลเป็นคนแรก ก่อนนำตัวขึ้นรถตู้ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จากนั้นนายจิรวงศ์ ได้ถูกนำตัวออกมาก่อนขึ้นรถตู้ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จากนั้นนายสุริยันได้เดินออกมาก่อนถูกคุมตัวขึ้นรถควบคุมของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อนำตัวกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่11 (มทบ.11) ต่อไป

อ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์

สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตรวจพบว่า มีกลุ่มบุคคลร่วมกันกระทำความผิด โดยมีพฤติกรรมแอบอ้าง หรือแสดงออกในลักษณะต่างกรรมต่างวาระ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า มีความใกล้ชิดกับสถาบันเบื้องสูง และได้เรียกหรือรับผลประโยชน์จากการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งได้กระทำความผิดตามกฎหมายอื่นๆ หลายฐานความผิด ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบัน และความเสียหายอื่นๆ ในวงกว้าง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร ได้ใช้อำนาจคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 เรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูลและควบคุมตัวไว้ ซึ่งพบว่ามีมูลกระทำความผิดจริง จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย คสช. มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐาน หมื่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองศ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

ยันสืบแน่ชัดก่อนขอหมายจับ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งที่ 578 /2558 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2558 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้า และ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.เป็นรองหัวหน้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร ทำการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน จนเป็นที่แน่ชัดและเชื่อได้ว่ากลุ่มบุคคลที่ร่วมกระทำความผิด ประกอบด้วย นายสุริยัน นายจิรวงศ์ และ พ.ต.ต.ปรากรมจึงขออนุมัติศาลทหารกรุงเทพ และศาลอนุมัติออกหมายจับบุคคลดังกล่าว ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เล็งขยายผลหากพบความผิดเพิ่ม

ต่อมาในวันเดียวกันนี้ ซึ่งครบกำหนดการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหารได้ส่งบุคคลทั้ง 3 ให้กับพนักงานสอบสวน จึงได้แจ้งข้อหาและจับกุมดำเนินคดี จากการสอบสวนนายสุริยัน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือให้การปฏิเสธ หลังจากสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลทหารกรุงเทพ โดยหากปรากฏหลักฐานการกระทำความผิดในคดีอื่นๆ ก็จะได้สืบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

“ศรีวราห์”ชี้ยังมีข้อหาอื่นอีก

ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์ ยืนยันว่า การทำเรื่องขอฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมด มีหลักฐานตามสมควร ศาลจึงอนุมัติหมายจับ ส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวนสอบสวนขณะที่ข้อหาตามหมายจับนอกจากคดีหมิ่นเบื้องสูงแล้ว ยังมีข้อหาอื่นอีก โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะรวบรวมหลักฐานให้เร็วที่สุด เพื่อส่งให้อัยการทหารต่อไป

ให้การพาดพิง8ตร.บช.ก.

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้พาดพิง 8 นายตำรวจสังกัด บช.ก. ที่ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ ศปก.บช.ก. หรือไม่ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ตอบว่า ไม่ถึงกับเรียกว่าซัดทอด แต่มีการพาดพิงถึง ซึ่งหากหลักฐานถึงใครก็พร้อมจะดำเนินคดี ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ก่อนหน้านี้นายสุริยันมีบทบาทเป็นที่ปรึกษาฯ โครงการปั่นเพื่อพ่อ จะยุติบทบาทหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ตอบว่า ขณะนี้นายสุริยันเป็นผู้ต้องหาแล้ว ตนไม่ทราบว่าจะยุติบทบาทหรือไม่ ซึ่งเรื่องหมิ่นเบื้องสูงไม่ใช่เรื่องสมควรจะพูดสนุกปาก ตำรวจมีหน้าที่ทำตามกฎหมายและกฎระเบียบก็ดำเนินการไปแค่นั้น

ทำมานานเกิน2เดือน-มีมากกว่า3

“สำหรับเรื่องคดี ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ทำมาแล้วเกิน 1-2 เดือน แต่จะเป็นขบวนการหรือไม่ยังไม่ทราบ รายละเอียดอยู่ในหมายบอกได้แค่มีหลายคน ถ้าเห็นออกหมายอีกก็จำนวนเท่านั้น อาจจะมีอีกมากกว่า 3 คนขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ตอบไม่ได้ว่าส่วนใหญ่เป็นตำรวจหรือไม่ แต่ยืนยันว่าถ้าพาดพิงถึงใครประกอบกับมีหลักฐานจะดำเนินการ คดีแอบอ้างเบื้องสูงถือว่ามีความผิดร้ายแรง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจนกว่าจะสิ้นกระแส ส่วนจะเรียกพยานมาสอบสวนเพิ่มหรือไม่ ขึ้นอยู่กับมีหลักฐาน หากพาดพิงถึงก็ต้องทำตามกฎหมาย” ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าว

ให้“สารวัตรเอี๊ยด”ออกจากราชการ

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ระบุว่า ได้ลงนามในคำสั่งให้ พ.ต.ต.ปรากรม ออกจากราชการแล้ว ซึ่งต่อนี้ไปพนักงานสอบสวนจะขอรับตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม หากขยายผลพาดพิงถึงใครก็จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด โดยข้อมูลอยู่ในสำนวนการสอบสวนที่มี พล.ต.ท ศรีวราห์ เป็นคนกำกับดูแลสำนวน ส่วนตำรวจสังกัด บช.ก. 8 นาย ที่ถูกย้ายก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพื่อหาหลักฐานความเชื่อมโยงในคดีนี้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'มทภ.2\'ลั่น!อดทนถึงที่สุด ถ้าต้องใช้กำลังก็พร้อมรักษา\'แผ่นดินไทย\' 'มทภ.2'ลั่น!อดทนถึงที่สุด ถ้าต้องใช้กำลังก็พร้อมรักษา'แผ่นดินไทย'
  • นักวิชาการ มธ.แนะรัฐปรับการสื่อสารใหม่ ชี้บรรยากาศ‘ไทย-กัมพูชา’เข้าข่ายวิกฤตแล้ว นักวิชาการ มธ.แนะรัฐปรับการสื่อสารใหม่ ชี้บรรยากาศ‘ไทย-กัมพูชา’เข้าข่ายวิกฤตแล้ว
  • อนุสาวรีย์แห่งการโกง! ‘สรรเพชญ’ติดตามคืบหน้า‘อควาเรียมหอยสังข์’ อนุสาวรีย์แห่งการโกง! ‘สรรเพชญ’ติดตามคืบหน้า‘อควาเรียมหอยสังข์’
  • ‘อนุทิน’ว่าใคร? จะกล่าวหาให้ร้ายผู้อื่น ตัวเองก็ต้องไร้มลทิน ‘อนุทิน’ว่าใคร? จะกล่าวหาให้ร้ายผู้อื่น ตัวเองก็ต้องไร้มลทิน
  • ทบ.โต้ทันควัน! เหตุปะทะ‘ช่องบก’ทหารกัมพูชายิงก่อน ทบ.โต้ทันควัน! เหตุปะทะ‘ช่องบก’ทหารกัมพูชายิงก่อน
  • \'เนชั่น\'แจงไม่มีสั่งพักงาน-ตัดเงินเดือนนักข่าวที่สัมภาษณ์นายกฯ 'เนชั่น'แจงไม่มีสั่งพักงาน-ตัดเงินเดือนนักข่าวที่สัมภาษณ์นายกฯ
  •  

Breaking News

โหร‘AI’ไขดวงชะตา! ‘ChatGPT’ที่พึ่ง‘ไทยสายมู’ยุคดิจิทัล

อนุสาวรีย์แห่งการโกง! ‘สรรเพชญ’ติดตามคืบหน้า‘อควาเรียมหอยสังข์’

'มทภ.2'ลั่น!อดทนถึงที่สุด ถ้าต้องใช้กำลังก็พร้อมรักษา'แผ่นดินไทย'

นักวิชาการ มธ.แนะรัฐปรับการสื่อสารใหม่ ชี้บรรยากาศ‘ไทย-กัมพูชา’เข้าข่ายวิกฤตแล้ว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved