ปิดผลสอบสมบัติ5รมต.
โยงจํานําข้าว
ชงปปช.ชุดใหญ่ต้นกพ.
เร่งสอบแคชเชียร์เช็ค9หมื่นล.
เอี่ยวจีทูจีเก๊ลอตแรกหรือไม่
พท.ท่องคาถาโต้ช่วยชาวนา
เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี 5 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าในการตรวจสอบใกล้จะสรุปคดีแล้ว โดยมี 2 ราย ที่ตรวจสอบเสร็จแล้วประมาณ 90% และอีก 3 ราย ที่ตรวจสอบแล้วประมาณ 70-80% โดยที่ผ่านมามีการเรียกพยานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทำนิติกรรมของรัฐมนตรีทั้ง 5 ราย มาให้ข้อมูลข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าภายในเดือนมกราคมจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบอยู่ ซึ่งภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้คาดว่าจะสามารถสรุปคดีดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้
ส่วนพบความผิดปกติของทรัพย์สินหรือไม่นั้น นายณรงค์กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบ บอกไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างต้องมีคำตอบ หากเขาทำไม่ถูกเราก็มีคำตอบ หากเขาทำถูกต้องเราก็มีคำตอบ
ขณะที่แหล่งข่าวจากคณะคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)รอบสอง กับบริษัทจากประเทศจีน 4 แห่งโดยมิชอบ ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และนางปราณี ศิริพันธ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้อนุกรรมการไต่สวนฯพบว่าไม่ได้มีการขายข้าวส่งออกต่างประเทศจริง แต่กลับมีการซื้อขายข้าวภายในประเทศไทย โดยเป็นแคชเชียร์เช็ค 1,822 ใบ วงเงินกว่า 96,390 ล้านบาทนั้น คณะอนุกรรมการไต่สวนฯตรวจสอบแคชเชียร์เช็คทั้งหมดแล้ว แต่กำลังตรวจสอบแคชเชียร์เช็คทีละรายการเพื่อดูที่มาที่ไปให้ชัดเจนรอบคอบที่สุด ตอนนี้ก็ยังตอบไม่ได้ว่าแคชเชียร์เช็คดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีรอบแรกหรือไม่ หากพบความเกี่ยวโยงจะสั่งอายัดแคชเชียร์เช็คดังกล่าว
ด้านนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะเริ่มไต่สวนตามที่ป.ป.ช.กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 15 มกราคม กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการแทรกแซงตลาดข้าวเปลือกเพื่อช่วยชาวนา เป็นนโยบายสาธารณะทางเศรษฐกิจตามมาตรา 84 (8) ของรัฐธรรมนูญ 2550 ดังนั้น การตั้งราคารับจำนำสูงกว่าตลาดจึงเป็นความตั้งใจ แต่การระบายหรือขายต้องเป็นไปตามราคาตลาดที่อาจสูงหรือต่ำกว่าราคาที่รับจำนำมา ซึ่งไม่ใช่เรื่องกำไรขาดทุนตามที่หลายฝ่ายพยายามบิดเบือน แต่อาจมีผลต่อรายรับ รายจ่ายหรือเงินทุนหมุนเวียนของโครงการ
นายวัฒนายังระบุอีกว่า นโยบายเศรษฐกิจทุกโครงการต้องมีค่าใช้จ่ายจะมากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดโครงการ ส่วนจะคุ้มค่าหรือไม่ มักมีความเห็นต่างกันเสมอ เช่นเดียวกับนโยบายเศรษฐกิจ เช่น โครงการเช็คช่วยชาติของรัฐบาลอภิสิทธิ์ หรือโครงการช็อปปิ้งเพื่อชาติของรัฐบาลนี้ ความเห็นที่เป็นนโยบายจึงมักอยู่ในกระบวนการนำเสนอต่อประชาชนในรูปแบบการหาเสียง เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้เลือกมากกว่าตัดสินว่าผิดหรือถูก ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ โครงการที่มุ่งช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยก็ไม่เคยถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายมาก่อน
ส่วนข้อกล่าวหาว่ามีความเสียหายหรือเกิดการทุจริต เช่น มีการสวมสิทธิ์ การเก็บรักษา ข้าวเสื่อมสภาพ หรือมีการทุจริตในการระบาย เป็นข้อกล่าวหาด้านปฏิบัติการ ไม่ใช่ความผิดพลาดในการกำหนดนโยบาย เมื่อมีคนทักท้วงรัฐบาลใช้มาตรการตามที่จำเป็นเพื่อป้องกันความเสียหาย หรือทุจริตแทนการยกเลิกโครงการ ทั้งนี้โครงการที่เป็นนโยบายเศรษฐกิจต้องพิจารณาเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่เกิดในภาพรวม ไม่อาจพิจารณาความคุ้มค่าหรือความเสียหายของโครงการที่ค่าใช้จ่ายของรัฐตามลำพัง อีกทั้ง การใช้งบอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลัง รัฐบาลดูแลให้รายจ่ายสาธารณะและข้อผูกพันทางการเงินของรัฐบาลทั้งปัจจุบันและอนาคต ให้อยู่ในระดับเหมาะสมกับขีดความสามารถหารายได้ของรัฐบาล ไม่ได้มีผลขาดทุนสูง หรือก่อหนี้อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี