26 ม.ค.61 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่สนช.ผ่านกฎหมายเลือกตั้งส.ส.ให้มีมหรสพในการการหาเสียงว่า  ฟังเหตุผลของ สนช. ในการอภิปรายว่าที่ควรมีมหรสพ เพราะต้องการเปิดมิติใหม่ของการเลือกตั้ง ให้เป็นการเลือกตั้งที่ครื้นเครง  ประชาชนจะได้มาสนใจมาฟังการปราศรัยหาเสียง พรรคเล็กพรรคใหม่ที่ไม่มีตัวไฮปาร์คเด็ดๆ จะได้เกิด มีโอกาสได้คนมาฟังการปราศรัยบ้าง พร้อมบอกว่า ค่าใช้จ่ายในการจัดเป็นตัวควบคุม จ่ายได้ไม่เกิน 20เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายในการหาเสียง  หรือหากคิดจากกรอบเดิม คนละ 1.5 ล้าน  ก็ตกไม่เกิน 300,000 บาท ต่อผู้สมัครหนึ่งราย  และให้ กกต.ไปกำหนดกรอบกติกาในการดำเนินการ เช่น กำหนดราคากลางของศิลปินหรือมหรสพ เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ 

"พรรคใหญ่และพรรคที่มีคอนเนคชั่น ย่อมได้เปรียบพรรคเล็ก พรรคใหญ่ย่อมส่งผู้สมัครได้มากกว่า ทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อดีไม่ดียอมจ่ายตังค์ค่าสมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อครบ 150 คน ก็แค่ล้านห้า เพื่อให้ได้ใช้กรอบวงเงินในการหาเสียงเพิ่มอีก 225 ล้านบาท จะจ้างวงดนตรีหมอลำ หมอลำซิ่ง หนังตะลุง ไปจนถึงวงร็อกสตาร์ชั้นนำของไทยก็ไม่ยาก เช่น เดียวกับพรรคที่มีคอนเนคชั่น  มีบริษัทศิลปินในสังกัด  สามารถให้ราคาถูก  จองคิวแสดงยาวแก่พรรคที่ตนสนับสนุน  และ บอกราคาแพงแสนแพง หรือบอกคิวไม่ว่างแก่พรรคคู่แข่ง" นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า ในส่วน กกต. มีขีดความสามารถในกำหนดกติกาให้เกิดความเป็นธรรมได้หรือไม่ พูดแล้วดูง่ายและเชื่อในความสามารถของ กกต. แต่แค่การจัดรายการมหรสพก็ยุ่งแล้ว กลองยาว สิงโต หมอลำ หมอลำซิ่ง หนังตะลุง หนังใหญ่ หนังกลางแปลง ดนตรีลูกทุ่ง ลูกกรุง ศิลปินดารา ตลก ละครใบ้ ละครร้อง  ฉายภาพยนตร์ตามโรง  คอนเสิร์ต มินิคอนเสิร์ต  รายการประกวดร้องเพลง รายการเกมส์โชว์  ดนตรีหนึ่งชิ้น สองชิ้น ไปจนถึงวงซิมโฟนีออเคสตร้า ฯลฯ มากมายจนบรรยายไม่ไหว 

นายสมชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในแต่ละประเภทใครเป็นศิลปินอยู่ที่ไหน มีราคารับจ้างที่คงที่ไหม คำตอบ  คือไม่มี  แล้วแต่ความพึงพอใจ  คู่ขวัญ ณเดช ญาญ่า อาจจะรับงานฟรีก็ได้หากเป็นญาติสนิทมิตรสหาย  แต่อาจเรียกเป็นแสนเป็นล้านก็ได้สำหรับอีเว้นท์ใหญ่ๆ กกต.ใหม่งานงอกแน่นอน  การเลือกตั้งกำลังย้อนยุคสู่ยุคฉายหนังกลางแปลงในอดีต เลือกตั้งครื้นเครง  ประชาชนชื่นใจ พรรคใหญ่อมยิ้ม