ค้น‘ปอเนาะ’ส่อโกง
สูญปีละกว่า700ล้าน
ส่งเลี้ยงหัวโจกป่วนใต้
ล้างสมองนร.แนวร่วม
งัด‘กม.ฟอกเงิน’เชือด
แม่ทัพภาค 4 ตั้งโต๊ะแถลง กางหลักฐานแฉโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามบางแห่งมีพฤติกรรมทุจริตงบอุดหนุนการศึกษา จ.ปัตตานี มูลค่าความเสียหายปีละกว่า 700 ล้าน แฉพฤติการณ์อำพรางด้วยรายชื่อบุคลากรทางการศึกษาที่คุณวุฒิไม่ชัดเจน ขณะที่ภรรยาโต๊ะครูแจงที่มาของเงินที่เจ้าหน้าที่ยึดนับล้านบาท เป็นเงินฝากของชาวบ้าน
ความคืบหน้าหลังทหารสนธิกำลังปิดล้อมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจสอบบัญชีการเงินของโรงเรียนฯและตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวโยงกับเหตุไม่สงบในพื้นที่ ตามที่การข่าวแจ้ง และสมาชิกแนวร่วมซัดทอดมา
มทภ.4แฉทุจริตงบอุดหนุนรร.ใต้
เมื่อวันที่ 3 เมษายน พล.ท. ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 แถลงว่า จากการตรวจสอบโรงเรียนเอกชนในจ.ปัตตานี พบหลักฐานน่าเชื่อได้ว่าโรงเรียนบางแห่งมีพฤติกรรมทุจริตงบประมาณอุดหนุนโรงเรียนในจ.ปัตตานี มูลค่าความเสียหายปีละไม่น้อยกว่า 700 ล้านบาท ทำให้เยาวชนเสียโอกาสทางการศึกษา หรือเสียประโยชน์อันพึงได้ ประมาณ ปีละ 101,000 คน จากนักเรียนทั้งหมด 165,072 คน มีครูที่ได้รับสนับสนุนงบประมาณจากรัฐเป็นค่าตอบแทนรายเดือน เสียประโยชน์อันพึงได้ ประมาณ 4,000 คน
ถูกเบียดบังสูญปีละ760ล้าน
ทั้งนี้ ประมาณการจากหลักฐานที่ปรากฏและสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง พบว่า งบประมาณรัฐถูกใช้จริงเพียงร้อยละ 40 มีการทุจริตประมาณ ร้อยละ 60 จากเงินอุดหนุนการศึกษาของจังหวัดปัตตานี ปีละประมาณ 1260 ล้านบาท ถูกเบียดบังไปเพื่อประโยชน์โดยทุจริตประมาณปีละ 760 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งน่าเชื่อว่าอำพรางด้วยรายชื่อของบุคคลากรทางการศึกษาซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีคุณวุฒิด้านใดและเหมาะสมอย่างไร
บางรร.หนุนก่อเหตุ-ล้างสมองเด็ก
พล.ท.ปิยะวัฒน์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าโรงเรียนบางแห่งมีพฤติกรรมให้การสนับสนุนการก่อเหตุรุนแรง พฤติกรรมของบุคคลากรทางการศึกษาบางคนบิดเบือนปลูกฝังความคิดความเชื่อแนวทางรุนแรงปลูกจิตสำนึกเกลียดชังรัฐและปลูกฝังความคิดแบ่งแยกระหว่างประชาชน ต่างศาสนา ให้นักเรียน แล้วคัดเลือกนักเรียน ไปพัฒนาต่อยอดเป็นสมาชิกปฏิบัติการของ ผู้ก่อเหตุรุนแรง
ค้นเจอเอกสารปลุกระดม-ถังแก๊ส
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นโรงเรียน 5-6 แห่งในจ.ปัตตานี เป็นการขายผลจากเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา โดยทหารฉก.ปัตตานี เข้าตรวจสอบในโรงเรียนบากงพิทยา บ้านบากง ต.บางเขา อ.หนองจิก พบเอกสารปลุกระดมมวลชน ถังดับเพลิงและถังแก๊สปิกนิก เก็บไว้ในลักษณะอำพรางซุกซ่อน วัตถุประสงค์น่าสงสัย และตรวจพบหลักฐานทุจริตงบอุดหนุนการศึกษาของรัฐ การให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อำพรางเป็นบุคลากรทางการศึกษาอยู่ในโรงเรียน บัญชีรายนักเรียนที่ไม่ตรงกับจำนวนที่เข้าเรียนจริง เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีนักเรียนที่ไม่ได้เข้าเรียนจริงจำนวนหนึ่ง ในจำนวนนี้ พิสูจน์แล้วยืนยันว่าไม่ได้เข้าเรียน 3 คน ที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พิรุธซื้อหนังสือเรียน-หักค่าเสี่ยงภัย
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวด้วยว่า จากการตรวจค้น ยังพบ ใบเสร็จรับเงินที่จัดซื้อหนังสือเรียน ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง สอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนที่เกี่ยวข้องยอมรับว่า จัดซื้อจริงเพียง ร้อยละ 20 ส่วนที่เหลือให้ร้านค้าเขียนใบเสร็จเต็มจำนวนเพื่อให้ได้ประโยชน์จากส่วนต่าง มีการจ่ายค่าตอบแทนครูน้อยกว่าที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด โดยอ้างเป็นความสมัครใจของครู เพื่อนำเงินส่วนต่างมาเฉลี่ยจ่ายให้บุคคลอื่นที่ไม่ได้บรรจุตามวุฒิ นอกจากนี้ ยังจ่ายค่าเสี่ยงภัยครู น้อยกว่าที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดรายละ2,500 บาทต่อเดือน แต่โรงเรียนจ่ายให้เพียง 1000-1500 บาท โดยอ้างว่าต้องนำมาเฉลี่ยให้ครูที่ไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ซึ่งผิดวัตถุประสงค์แห่งรัฐ และทำให้ครูมีขวัญกำลังใจตกต่ำ
พบจ่ายเงินรายเดือนให้แกนนำป่วน
ส่วนพฤติกรรมการให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรงนั้น พล.ท.ปิยะวัฒน์เปิดเผยว่า พบโรงเรียนบากงพิทยาจ่ายเงินรายเดือนให้นายซาการียา หัดสมัด ซึ่งเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงและเป็นผู้ก่อเหตุร้ายหลายคดี เช่น เผาหัวจ่ายน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ดอนยาง ก่อเหตุ กราดยิงบ้านเรือราษฎรที่ริมถนนหมายเลข 43 แยกดอนยาง อำเภอหนองจิกเป็นเหตุให้ราษฎรบาดเจ็บ 8 ราย ต่อมาถูกจับกุมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ปัจจุบันถูกควบคุมตัวในเรือนจำอยู่ระหว่างดำเนินคดี โดยจ่ายให้ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ พบพฤติกรรมอำพรางในการสนับสนุนเงินผ่านบุคคลากรทางการศึกษา ที่เป็นเครือญาติของนายเมาลานา สาเมาะ แกนนำสั่งการก่อเหตุรุนแรงในต.ท่ากำชำ และนายอับดุลสะตอปา สุหลง แกนนำสั่งการก่อเหตุรุนแรงในต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี สำหรับนายเมาลานา สาเมาะนั้น เป็นบุคคลที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)ขึ้นบัญชีประกาศรายชื่อเป็นบุคคลที่ถูกกำหนดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และน่าเชื่อว่ามีการให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรงรายอื่นอีกหลายคนโดยทำธุรกรรมอำพรางผ่านผู้ถูกแอบอ้างเป็นบุคคลากรทางการศึกษาบางคนในโรงเรียน
จี้รายงานตัวฮึ่มขัดขืนเจอแพ่ง-อาญา
“ถ้าบุคคลใดให้การสนับสนุนกับบุคคลที่ป.ป.งประกาศขึ้นบัญชีว้า ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงขอแจ้งให้บุคคลที่รู้ หรือสงสัยว่าตนเองถูกใช้จ้างวานให้ทำการใดอันเป็นการสนับสนุนการก่อเหตุรุนแรงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ขอให้มารายงานตัวกับหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ เพื่อจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ถ้าไม่มารายงานตัวอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย อาจมีผลให้ถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญาและอาจจะถูกยึดทรัพย์อีกด้วย” แม่ทัพภาคที่4กล่าว และว่า คณะทำงานเฉพาะกิจ ฉก.ปัตตานี ทำรายงานถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีกระบวนการตรวจสอบ และควบคุมมาตรฐานการเรียนการสอน ดูแลครูผู้สอนทั้งครูที่มีวุฒิตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดและบุคคลากรทางการศึกษาที่มีวุฒิต่ำกว่ากำหนดอย่างทั่วถึงต่อไปแล้ว
ผงะโกงเงินอุดหนุนรร.นับร้อยแห่ง
ด้านพล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานีกล่าวถึงการเข้าตรวจค้นโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมาว่า จากการตรวจค้นยึดเงินสด 1,227,980 บาท และเอกสารหลายรายการ มาตรวจสอบว่ามีการทุจริตงบอุดหนุนโรงเรียนหรือไม่ และกำลังตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหรือไม่ ทั้งนี้ จากภาพรวมตรวจค้นโรงเรียน 5-6 โรงในจ.ปัตตานี ควบคุมตัวนายมูหัมมัดนาสีรูดดิน เล๊ะนุ๊ นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนปัตตานี และเชิญตัวเจ้าหน้าที่สำนักงานการศึกษาเอกชน (สช.)และที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
“สำหรับการทุจริตเงินอุดหนุนของโรงเรียนเอกชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานเป็นสิบๆปี แต่ไม่มีมีหน่วยงานไหนกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะสำนักงานการศึกษาเอกชน (สช.)ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง แต่ไม่กล้าตรวจสอบ ทั้งการเงิน การบริหาร และการเรียนการสอน ทำให้โรงเรียนบางแห่งทำบัญชีผี โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่มีมากกว่า 200 โรงมีการตรวจสอบพบโรงเรียนที่เข้าข่ายทุจริตแล้วไม่ต่ำกว่า 100 โรงเรียน”พล.ต.จตุพรกล่าว
ผอ.รร.โต้ไม่เกี่ยวกลุ่มป่วนใต้
ด้านนายมูฮำหมัด หะยีเต๊ะผู้อำนวยการโรงเรียนประสานวิทยามูลนิธิ หนึ่งในโรงเรียนที่ถูกทหารเข้าตรวจสอบเปิดเผยว่า ตนยืนยันว่าไม่มีความคิดเกี่ยวข้องกับขบวนการอย่างที่ถูกกล่าวหา รู้สึกงง กับข่าวที่ออกมา พร้อมชี้แจงทุกเรื่อง และขอความเป็นธรรมกับโรงเรียนและตนด้วย นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่าวันที่เจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้น ได้ยึดเอกสารทางการเงิน บัญชีครู พร้อมยึดโฉนดที่ดินของพ่อ และของชาวบ้านที่เอามาฝากไว้ 60 ใบ ก่อนไปค้นที่บ้านแม่และยึดเงินซึ่งเก็บไว้ในกระเป๋า ในจำนวนเงินนั้น เป็นเงินคนแก่ที่มาพักที่ปอเนาะ เงินส่วนตัวของแม่ตนและญาติ
เมียโต๊ะครูแจงที่มาเงินชาวบ้านฝากไว้
ขณะที่นางฮามีดะห์ หะยีเต๊ะ (มามาดะห์) ภรรยาอดีตโต๊ะครูอับดุลกอเดร์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เงินที่เจ้าหน้าที่ยึดไปตรวจสอบนั้น เก็บรวบรวมมาหลายส่วน ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากของชาวบ้านในละแวกโรงเรียน ซึ่งมีความผูกพันกับครอบครัวโต๊ะครู ที่เป็นที่ไว้วางใจของชาวบ้านจึงมักจะนำเงินมาฝากไว้ ถึงแม้บาบออับดุลกอเดร์หรือโต๊ะครูได้เสียแล้วก็ตาม พวกเขาก็ยังผูกพันและเชื่อใจกันอยู่ ส่วนใหญ่ก็เป็นเงินไว้เพื่อฌาปนกิจศพรายละประมาณ 2 หมื่นบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินของญาติ เมื่อทราบข่าวว่าถูกเจ้าหน้าที่ยึดไว้ตรวจสอบจึงล้มป่วยทันที เพราะตกใจกลัวจะไม่ได้คืน ขณะนี้อยากได้เงินส่วนนั้นและโฉนดที่ดินกลับมาโดยเร็วจะได้ส่งมอบคืนให้เจ้าของต่อไป อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ตนพยายามชี้แจงที่มาของเงินแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จะยึดอย่างเดียว ไม่เชื่อใจชาวบ้านผู้บริสุทธิ์เลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี