3 ก.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติรับหลักการจัดตั้งกระทรวงใหม่ โดยทาง ก.พ.ร.เสนอชื่อ กระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม ซึ่งจะดึงสถาบันวิจัยมาร่วม เฉพาะส่วนที่สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์เดิม 11 แห่ง มีสถานะทั้งองค์การมหาชน และรัฐวิสาหกิจ สำหรับสถาบันอุมศึกษาก็ของรัฐ 84 แห่ง และอยู่ในกำกับเอกชนอีก 73 แห่ง เพื่อสร้างบุคลากร บัณฑิตและมหาบัณฑิตที่ตรงกับความต้องการของประเทศ และผลิตงานวิจัย องค์ความรู้ในอุตสาหกรรมใหม่ เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และอวกาศการบิน
นายทศพร กล่าวว่า ทั้งนี้ มีการกำหนดแผนจัดตั้งกระทรวงฯ ไว้ 2 ระยะ คือ 1.เสนอร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ย.61 และ 2.ในส่วนคณะทำงานจะมีรัฐมนตรีที่ ครม.มอบหมาย หน่วยงานกลางต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดทำรายละเอียดของตัวโครงสร้าง อัตรากำลัง ระบบงานที่จะต้องเชื่อมโยงกัน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในเดือน ม.ค.62 เช่นเดียวกัน ดังนั้น เดือน ก.พ.62 จะได้เห็นโฉมหน้าของกระทรวงใหม่
"ประเด็นที่มีการถกใน ครม.คือ กระทรวงนี้จะต้องช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่อุดมศึกษาเพื่ออุดมศึกษา แต่จะเป็นอุดมศึกษาที่ตอบโจทย์การพัฒนาของประเทศ จึงอยากให้มหาวิทยาลัยเป็นกลไก ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ประเทศไทยแข็งแรงขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ในส่วนของชื่อกระทรวงก็มีการถกกันในที่ประชุมครม.เช่นเดียวกัน หลายท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่าอยากให้ชื่อกระทรวงนี้สื่อให้ชัดว่าเป็นกระทรวงที่จะต้องคิดค้น เน้นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดังนั้น ครม.จึงบอกว่าเรายังมีเวลาระหว่างยกร่างกฎหมาย ก็อาจจะรับฟังความคิดเห็นว่าชื่อไหนจะมีความเหมาะสมที่สุด" นายทศพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี