เผยคดีเสื้อแดงปล้นปืนปี’53

ได้คืนไม่ครบ

หวั่นนำไปก่อเหตุซ้ำรอย

ทบ.ชี้ทหารถูกกระทำไม่คืบ

ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

18 นปช.ให้การศาลทหาร

โฆษก ทบ.ยัน กองทัพยังติดตามคดีเหตุชุมนุมปี’53 ระบุคดีทหารถูกกระทำคืบหน้าน้อย แถมปืนอาวุธสงครามถูกปล้น ได้กลับคืนไม่ครบ หวั่นนำไปก่อเหตุความรุนแรงซ้ำอีก วอนให้ความเป็นธรรม อัยการทหารสอบคำให้การ18นปช. ทุกคนปฎิเสธทุกข้อหา ขัดคำสั่ง คสช.เปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ

เมื่อวันที่ 21กันยายน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.)กล่าวถึงกรณีกลุ่มพลเมืองโต้กลับ นางพะเยาว์ อัคฮาด หรือแม่น้องเกด นายณัฐภัทร อัคฮาด ลูกชายทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เดินเท้าไปทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประวิตร วงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจสอบกรณีมีนายทหารยศนายพลไปบุกอัยการ เพื่อสั่งให้ยุติการดำเนินคดีกับทหารกรณีสลายการชุมนุมปี2553ว่ากรณีคดีความเหตุการณ์ปี2553 กองทัพบก ติดตามความความคืบหน้าคดีมาตลอดไม่ได้ชะลอ หรือทำให้เกิดความล้าช้า โดยทางคณะทำงานติดตามทางคดีของกองทัพบกมีการติดตามเรื่องคดีต่างๆอยู่เป็นระยะแต่เพื่อรักษาบรรยากาศบ้านเมือง การให้ข้อมูลในช่วงที่ผ่านมา จึงต้องใช้ความระมัดระวังเพราะห่วงความรู้สึกผู้ได้รับผลกระทบ

“ปัจจุบันเรื่องคดีนั้น เชื่อว่าหลายคดีที่มีองค์ประกอบพอเพียงที่จะดำเนินการทางคดีได้ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในกระบวนการแล้ว ส่วนคดีที่เจ้าหน้าที่ทหารเป็นผู้ถูกกระทำก็มีความคืบหน้าน้อยซึ่งคณะทำงานติดตามทางคดีของกองทัพบกยังติดตามอย่างใกล้ชิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน”พ.อ.วินธัย ย้ำ

โฆษก ทบ.กล่าวอีกว่า ส่วนข้อห่วงใยคือการติดตามอาวุธปืนราชการที่หาย เมื่อครั้งถูกปล้นและยึดไปเมื่อปี2553ปัจจุบันยังคงพยายามเร่งรัดหาคืนแม้ว่าในช่วงปลายปี 2557เจ้าหน้าที่สามารถยึดอาวุธสงครามบางส่วนได้ พร้อมออกมาตรการให้ใครก็ตามที่ครอบครองอาวุธสงครามนำส่งมอบให้ทางการ มียอดรวมมากหลายหมื่นกระบอก แต่ทั้งนี้ ในส่วนอาวุธปืนของกองทัพบก ที่ถูกปล้นยึดหายไปคราวนั้นก็ยังตามหากลับมาได้คืนไม่ครบ ทางคณะทำงานติดตามทางคดีของกองทัพบกจึงต้องให้ความสำคัญ พร้อมเร่งรัดต่อเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เพื่อทำให้เหตุการณ์เกี่ยวกับการใช้อาวุธสงครามในชุมชนเมือง ไม่เกิดขึ้นมาซ้ำรอยอดีต

วันเดียวกันที่ศาลทหารกรุงเทพฯได้มีการนัดสอบคำให้การในคดีที่คณะทำงานพิเศษฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ฟ้องร้อง19แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ที่7/2557ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองเกิน5คนขึ้นไปจากกรณีที่ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวศูนย์ปราบโกงประชามติที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าวเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2559โดยแกนนำนปช.19คนนำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.

โดย นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความเปิดเผยว่าอัยการได้สอบคำให้การจำเลยทั้ง18คนซึ่งทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา สำหรับ นพ.เหวง โตจิราการซึ่งป่วยนั้นทางอัยการได้นัดสอบปากคำให้การเพิ่มทั้ง 19 คนในเวลา10.00น.ของวันที่ 16 ม.ค.62

ด้านนายจตุพร กล่าวว่าทุกคนพร้อมต่อสู้คดีอยู่ เนื่องจากการแถลงข่าวเปิดศูนย์ปราบโกงของทั้ง19 คนในขณะนั้นเป็นที่ชัดเจนว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสชว่าสามารถทำได้

ซึ่งการแถลงข่าวตั้งศูนย์ปราบโกง ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เพียงแค่ต้องการแถลงเจตนารมณ์ในการทำประชามติซึ่งจะต้องมี 2 ฝ่าย เห็นชอบและไม่เห็นชอบ

“พวกผมอยู่ในฝ่ายไม่เห็นชอบ ก็จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบและในทางปฏิบัติก็ไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้ พร้อมทั้งถูกดำเนินคดี ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ” นายจตุพรย้ำทิ้งท้าย