บ้านเมืองนี้ร้ายเกินไป! ‘ตู่’ปูดทีวีเสื้อแดงจ่อถูกปิด2รอบ ซัดไม่ต้องการความสงบเพื่อเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านกาแฟ พีซ คอฟฟี่ แอนด์ ไลบรารี่ เมื่อวันที่ 23 ก.ย.61 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดกิจกรรมต่อลมหายใจให้กับ “พีซ ทีวี” ซึ่งจัดเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ โดยมีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผลัดเปลี่ยนกันมาร่วมพบปะพูดคุยกับพี่น้องมวลชนผู้รักประชาธิปไตยพร้อมสร้างความบันเทิงให้กับประชาชนที่มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า ก่อนถึงวันเลือกตั้งคาดว่าสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีซทีวี จะถูกสั่งปิดอีก 2 รอบ รอบละ 1 เดือน พีซทีวีตั้งแต่เป็นสถานีโทรทัศน์มา ภายหลังมีการยึดอำนาจ ถูกสั่งปิดมาแล้ว 6 ครั้ง ซึ่งได้มีการขอเพิกถอนใบอนุญาตด้วย โดยให้เหตุผลในหนังสือของ กสทช. ว่าเป็นเพราะคำพูดที่ตนพูดออกอากาศว่า “จงอย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรู” ทำให้ถูกถอนใบอนุญาต โดยผู้บริหารของทางพีซทีวี ได้ไปร้องขอให้ศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราว จากศาลปกครองกลาง ทำให้ยังคงสามารถออกอากาศอยู่ได้จนปัจจุบัน แต่ก็สามารถถูกพักใบอนุญาตชั่วคราวได้ ครั้งละ 1 เดือน ที่ผ่านมาก็โดนมาแล้ว 6 ครั้ง
“คาดว่าจะโดนอีก 2 ครั้ง ในช่วงระยะเวลาก่อนถึงวันเลือกตั้ง หรือระหว่างวันเลือกตั้ง แม้ผมจะเลิกจัดรายการผ่านทางพีซทีวี ไปจัดผ่านยูทูป เฟสบุ๊กไลฟ์ แต่สถานีฯก็ยังคงมีวี่แววถูกปิดอยู่ดี โดยแต่ละครั้งของการถูกปิด มักอยู่ในช่วงมีสถานการณ์ทางการเมืองสำคัญ บ้านเมืองนี้มันร้ายกันมากเกินไปแล้ว” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าความพยายามในการปิดพีซทีวีครั้งต่อไป คาดว่าจะก่อนการเลือกตั้ง หรือระหว่างการเลือกตั้งอย่างแน่นอน แต่ตนพยายามบอกกับ กสทช.ว่า สิ่งที่ตนพูดเป็นความพยายามหาทางออกให้ชาติบ้านเมือง ข้ามพ้นวิกฤติ ไม่มีอะไรน่าวิตก
“ที่พยายามมาปิดพีซทีวี เพราะไม่ต้องการให้บ้านเมืองสงบใช่หรือไม่ ในขณะที่ช่องอื่น ใครพูดอะไรก็ได้ ใครคิดเกมนี้มันไม่เป็นผลดีอะไรเลย นายกรัฐมนตรีก็เพิ่งพูดว่าแตกต่างอย่าแตกแยก ผมจึงอยากให้เสียงนี้ไปถึงผู้เกี่ยวข้อง ว่าไม่มีอะไรน่าวิตกเรื่องการปิดโทรทัศน์ เพราะปิดมาแล้ว 6 ครั้ง มันด้านชากันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า ไม่อยากให้บ้านเมืองเกิดความสงบใช่หรือไม่” ประธาน นปช.กล่าว
ประธาน นปช. กล่าวอีกว่า ที่ตนเรียกร้องหาความสงบ ความสงบเกิดจากความเสมอภาค เกิดจากคนที่เห็นต่างสามารถอยู่ร่วมกันได้ นายกรัฐมนตรีเป็นคนอัญเชิญพระกระแสรับสั่งเรื่องการปรองดองเอง เรื่องความยุติธรรม ตนยังได้ดูตอนอยู่ในเรือนจำฯอยู่เลย ฉะนั้นออกมาจากเรือนจำฯก็เอาแนวที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดนั่นแหละ แต่ว่าวันนี้กลับว่าจะต้องปิดโทรทัศน์ช่องนี้กันอย่างเอิกเกริก ตนก็รู้เส้นทางกันไปหมด เพียงแต่ว่าเราต้องการบรรยากาศของบ้านเมือง ให้มันเดินกันไปได้ เพราะรู้ว่าถ้ามันไม่สงบก็ไม่มีการเลือกตั้ง แต่ที่ทำนี่ดูเหมือนเป็นความพยายามหาเรื่องให้มันไม่สงบ
“ต้องใช้ความอดทน แต่ผมอยากให้เสียงนี้ได้ยินไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ผมขอบอกไว้เลยว่า นี่ไม่เป็นผลดีใดๆทั้งสิ้น ว่าถ้าปิดฝ่ายหนึ่งแล้วก็จะสามารถทำอะไรกันได้ ผมเองออกมาก็ยังไม่จัดรายการโทรทัศน์เลย เฟสบุ้กไลฟ์ก็ทำในบรรยากาศเรียกร้องให้คนดีกัน เพื่อแลกกับการเลือกตั้ง ผมก็อดทน เพื่อให้บ้านเมืองเกิดการเลือกตั้งได้ ถ้าเราไม่อดทน เลือกตั้งก็ไม่เกิด บ้านเมืองก็หนักกว่าเดิม เพราะฉะนั้นจึงต้องเสียสละความรู้สึกส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะเดินไปสู่การเลือกตั้ง ผมจึงประคับประคอง วันนี้เราไม่สามารถที่จะได้ทุกเรื่องราว เมื่อเรายังต้องการการเลือกตั้ง มันก็ต้องแลก ถ้าเราไม่เข้าใจสถานการณ์นี้ จะไม่นำสู่การเลือกตั้ง ต้องอดทนด้วยความเข้าใจ มิเช่นนั้นเราก็จะไปไม่ถึง” นายจตุพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี