ผู้นำต่างชาติเข้าใจไทย
‘ตู่’ดิจิทัลโว
หนุนรบ.รักษาความสงบ
มั่นใจในยุทธศาสตร์ชาติ
ชี้ไม่มีใครอยากทำปฏิวัติ
ญาติวีรชนฯชม‘ผบ.ทบ.’
วางตัวชัดเจนเหมาะสม
นายกฯ“บิ๊กตู่”โวผู้นำต่างประเทศเข้าใจโรดแมปไทย พร้อมหนุนรัฐบาลรักษาความสงบ เลี่ยงตอบกรณี “บิ๊กแดง” ไม่รับประกัน จะไม่เกิดปฏิวัติ ย้ำชัด ไม่มีใครอยากทำ ด้าน รมว.ต่างประเทศ ระบุไม่มีใครติดใจเลือกตั้งไทย ในขณะที่ญาติวีรชนพฤษภาชื่นชม ’บิ๊กแดง’วางตัวได้ชัดเจนเหมาะสม ส่วนเลขาเพื่อไทยโยนแม้วจ้อสื่อเมืองนอกเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรคแล้ว
เมื่อเที่ยงวันที่ 20 ตุลาคม ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการเข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12 ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมว่า สำหรับเสียงสะท้อนที่ผู้นำต่างประเทศ แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศไทยนั้น ถือว่าค่อนข้างดีในเรื่องโรดแมปที่ตนได้ยืนยันไปนั้นก็ได้ยืนยันกับทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ เพราะเป็นเรื่องที่จะต้องพูดเพื่อให้ต่างชาติเกิดความมั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลนี้ ส่วนเสถียรภาพของรัฐบาลหน้า ใครจะเป็น ก็ยังไม่ทราบ แต่ต้องทำให้มีเสถียรภาพอย่างทุกวันนี้
โวผู้นำตปท.เข้าใจโรดแมปหนุนรัฐ
ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับผู้นำทั้ง 50 กว่าประเทศ หลายประเทศ ต่างก็เห็นด้วยกับเรา เพราะหลายอย่างเราได้ทำตามพันธกรณีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภูมิภาคโลกเราจะอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้อยู่แล้วเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่พึ่งพาใครเลย อยู่แค่ในประเทศเราเปลี่ยนอย่างเดียว เราต้องมีทั้งเรื่องการค้า พหุภาคีนิยม
“การเดินทางไปร่วมประชุมครั้งนี้ ได้มีการหารือทวิภาคีกับผู้นำ 9 ประเทศ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยน เขารับทราบความก้าวหน้าในสถานการณ์ของบ้านเรา ผมได้ยืนยันกับทุกประเทศว่าเรากำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งอย่างแน่นอน ขณะที่ทุกประเทศก็อยากให้เรารักษาเสถียรภาพให้ได้ หลายประเทศต่างรับทราบว่า หลายอย่างที่รัฐบาลนี้ได้ทำมานั้นดีขึ้นทั้งเรื่องการค้าการลงทุน กฎกติกาต่างๆวันนี้โลกให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจดังนั้นจึงจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีมาช่วยในการบริหารราชการเพื่อมาขับเคลื่อน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ลั่นไม่มีใครอยากทำรัฐประหาร
เมื่อถามว่าทราบเรื่องที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)ไม่ยืนยันว่าจะไม่มีการรัฐประหารในอนาคตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า“อนาคตอะไรนะ ปัดโธ่ คุณก็พูดไปเรื่อยแหละ ไม่มีใครเขาอยากทำหรอก อย่าไปขุดคุ้ย ก็พูดไปเรื่อย”แล้วพล.อ.ประยุทธ์ ก้าวขึ้นรถยนต์เดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่เดินทางถึงประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวทันทีว่า“ผมเพิ่งเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเราครับ”
ลุงตู่เนื้อหอมเปิดตัวสนการเมือง
ด้าน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมเอเชีย-ยุโรป ที่ประเทศเบลเยียมว่า ประเทศต่างๆได้เห็นแล้วว่าบ้านเมืองไทยมีศักยภาพ โดยไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปีหน้า เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมต่างๆมากมาย และตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา พัฒนาการทางการเมืองไทยนั้น ดีขึ้น ต่างประเทศจึงต้องการเข้ามาเชื่อมโยงกับไทย ซึ่งเป็นจังหวะเวลาเดียวกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เปิดเผยว่ามีความสนใจการเมือง จึงทำให้ผู้นำต่างชาติ สนใจที่จะมาร่วมพูดคุยมากขึ้นด้วย
ยันต่างชาติไม่ติดใจเลือกตั้งไทย
รมว.ต่างประเทศ กล่าวอีกว่า ต่างประเทศไม่ได้สอบถามถึงสถานการณ์ในประเทศไทยมากนักโดยเรายืนยันว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งเดือนก.พ.62 ซึ่งต่างชาติไม่ได้แสดงความกังวลว่า จะเกิดขึ้นจริงตามนั้นหรือไม่ เพราะต่างรับทราบว่าการดำเนินงานที่แล้วมานั้น เป็นประโยชน์ต่อคนไทยและมิตรประเทศ ไม่มีใครแสดงความติดใจหรือข้องใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งของไทย หรืออนาคตของประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง
“ไม่มีใครถามว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้อยู่ในอำนาจแล้วประเทศจะเป็นอย่างไรจึงนับได้ว่าต่างประเทศมีความเชื่อมั่นในประเทศไทย และหลายประเทศก็ทราบว่าประเทศไทยนั้นมีความต่อเนื่อง ไม่ว่ารัฐบาลใดจะเข้ามาบริหารประเทศก็ตาม ยิ่งรัฐบาลนี้มียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็จะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นแก่ต่างชาติเป็นอย่างดี” นายดอน ย้ำ
นอกจากนี้นายดอนกล่าวถึงกรณีวันที่ 31 ต.ค.ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เป็นผู้ร้องว่าความเป็นรัฐมนตรีต้องสิ้นสุด เนื่องจากภริยาถือหุ้นขัดรัฐธรรมนูญว่า ตนพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาล ไม่มีปัญหาอะไร เพราะไม่ได้ยึดติดกับเก้าอี้รัฐมนตรีแต่อย่างใด
ชื่นชม’บิ๊กแดง’วางตัวได้เหมาะสม
ขณะที่นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวถึงคำสัมภาษณ์ ของพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ว่า เป็นการสื่อสารที่ชัดเจนในหลายประเด็นเกี่ยวกับการรัฐประหารที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ภายใต้เงื่อนไขดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจรัฐบาล คือ 1. การฉ้อราษฎร์บังหลวง 2. การใช้อำนาจเกินขอบเขตของรัฐบาล 3.การใช้ความรุนแรงเกินกว่าการควบคุมตามกฎหมายปกติ แต่คำว่ากองทัพเป็นเนื้อเดียวกับรัฐบาลสื่อความหมายนี้ย่อมชัดเจนว่ากองทัพจะต้องให้การสนับสนุนทุกๆรัฐบาลเพราะกองทัพเป็นหน่วยงานหนึ่งของรัฐบาลที่บริหารประเทศ
ส่วนการเป็นเนื้อเดียวกันกับ คสช.นั้น เป็นสิ่งที่น่าจะไม่ถูกต้องจะเห็นว่าขณะที่ทำการรัฐประหารยึดอำนาจเดิมมีผู้นำเหล่าทัพเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่หลังจากนั้นภายใต้การดูแลกองทัพของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท อดีต ผบ.ทบ.ได้วางตัวชัดเจนและเหมาะสม มีเส้นแบ่งระหว่างการใช้อำนาจ คสช.กับกองทัพอย่างชัดเจน โดยไม่เคยก้าวก่ายไปถึงพรรคการเมืองกลุ่มการเมืองต่างๆคำพูดของ ผบ.ทบ.คนปัจจุบันจึงต้องทำให้ชัดเจนและเหมาะสม ตามที่ได้บอกไว้ว่าจะเดินตามแนวนโยบายของอดีต ผบ.ทบ
วิจารณ์บิ๊กตู่อย่าเหมาทั้งกองทัพ
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ จะสามารถดำเนินนโยบาย ตามที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท อดีต ผบ.ทบ.ได้วางแนวนโยบายไว้และเป็นผู้ที่ เชื่อมประสาน รอยร้าว ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬกับกองทัพ จนเป็นที่ยอมรับ ดังนั้น สังคมไทย จะต้องระมัดระวังการใช้คำพูด หากวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์และพวก ก็วิจารณ์ตรงๆ โดยไม่เหมารวมลากเอากองทัพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราะจะไม่เป็นธรรมกับกองทัพโดยรวม แม้ ผบ.ทบ จะมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการ คสช.โดยตำแหน่งก็ตาม ”นายอดุลย์ ย้ำ
วอนทุกฝ่ายอย่าทำลายบรรยากาศ
ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนฯยังเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง ทุกกลุ่มการเมืองและทุกฝ่าย ได้ดำเนินการทางการเมืองภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ให้ตระหนักว่าความรุนแรงมีแต่ความสูญเสีย ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นสำหรับประเทศชาติและประชาชนเลย มีบทเรียนให้เห็นมากแล้ว หากเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยกองทัพก็สามารถประกาศใช้กฎอัยการศึกควบคุมสถานการณ์ได้ อย่าฉวยโอกาสยึดอำนาจ ล้มล้างรัฐธรรมนูญอีก ที่สำคัญทุกฝ่ายจะต้องไม่ทำลายบรรยากาศ ของประชาชนที่กำลังรอคอยความปลื้มปิติยินดีที่จะมาถึงด้วย
ภูมิธรรมชี้’แม้ว’จ้อ ไม่เกี่ยวพท.
ในซีกพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.)กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศว่าพรรคที่ยืนอยู่ฝั่งประชาธิปไตยจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากถึง 300กว่าเสียงนั้นว่า เป็นข้อคิดจากประสบการณ์ ข้อมูลและความเชื่อของท่านที่เห็นว่าประชาชนจะสามารถตัดสินใจเปรียบเทียบชีวิตของตนภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาลประชาธิปไตยและรัฐบาลที่ปกครองด้วยอำนาจพิเศษ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีประสบการณ์ทางการเมือง เคยบริหารประเทศ ย่อมมีสิทธิที่จะเชื่อมั่นว่ารัฐบาลประชาธิปไตย จะสามารถแก้ปัญหาของประชาชนได้ดีกว่า รัฐบาลที่ไม่ได้มาด้วยวิถีทางแบบประชาธิปไตยที่ประชาชนเลือก เมื่อถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือการเสนอความเห็นของอดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวที่มีข้อมูลและประสบการณ์ทางการเมือง เป็นความคิดเห็นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยเพราะท่านมิได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแต่ถือเป็นการแสดงความเห็นของบุคลากรทางการเมืองของโลกประชาธิปไตยและถือเป็นผู้มีประสบการทางการเมืองของโลกไปแล้ว
เพื่อไทยเปิดสาขาพรรคอุดรธานี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรรคเพื่อไทยได้จัดประชุมสมาชิกเพื่อคัดเลือกหัวหน้าสาขาพรรคและกรรมการสาขาพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 1จ.อุดรธานีโดยในการประชุม มีนายศราวุธ เพชรพนมพร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.อุดรธานี เป็นผู้แทนของพรรคในการดำเนินจัดการประชุม
หลังการประชุมลงคะแนนแบบลับ ใช้เวลาประมาณ2ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติเลือก นายสนิท วงศ์แสงตา หัวหน้าสาขาพรรค ลำดับที่1 จ.อุดรธานี ,นายชูชาติ ศิริโยธา รองหัวหน้าสาขาพรรค ,พ.ต.อ.เดช กองทอง เลขานุการสาขาพรรค,นายสง่า ภักดี รองเลขานุการสาขาพรรค,นายภคพล โคตรชุม เหรัญญิกสาขาพรรค , นายชัชวาล ลือคําหาญ นายทะเบียนสาขาพรรค,นายสว่าง ศรีบุญประสิทธิ์ โฆษกสาขาพรรคและนายสุรศักดิ์ พิทักษ์บ่อแก้ว กรรมการสาขาพรรค
คนรุ่นใหม่แห่สมัครสมาชิกชพน.
วันเดียวกัน ที่พรรคชาติพัฒนา นายสุทธิโรจน์ เจริญผล ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรคชาติพัฒนา ได้ให้การต้อนรับนายวิฑิตนันท์ โรจนพาณิชย์ คนไทยคนแรก ที่ปีนเขาเอเวอร์เรสต์สำเร็จ รวมทั้ง นายชัชวาล ปุกหุต นักบริหารหนุ่มคนรุ่นใหม่ และนักสร้างแบรนด์ นายปริญญา มานวงศ์ ผู้บริหารบริษัท แอร์ มาเวล และนายกฤษณ์ แสงวิเชียร ผู้บริหารรุ่นใหม่ ธุรกิจสตาร์ทอัพ กลุ่มคนรุ่นใหม่ เข้าร่วมสมัครสมาชิกพรรคชาติพัฒนา
โดยนายชลิตรัตน์ กล่าวว่ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจในการสมัครสมาชิกพรรคชาติพัฒนาซึ่งทุกคนถือว่า เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มากด้วยประสบการณ์ เป็นนักธุรกิจ นักคิด นักเขียนและนักวางแผน ซึ่งประสบการณ์ของแต่ละคนมีประโยชน์ในการสร้างนโยบายสู่ประชาชนอย่างแน่นอนและหวังว่าทุกคนจะมาร่วมอุดมการณ์กับพรรคชาติพัฒนาทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป
‘อนาคตใหม่’บุกขอนแก่นรับสมาชิก
ที่ จ.ขอนแก่น ทางพรรคอนาคตใหม่ นำโดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรค นายชัน ภักดีศรี กรรมการสัดส่วนภูมิภาค ภาคอีสาน น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค ได้นำขบวนคาราวานรับสมัครสมาชิกของพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาถึง จ.ขอนแก่น เพื่อเปิดศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่ จ.ขอนแก่น หลังตลาดประตูน้ำขอนแก่น ที่อาคาร 5 อ.เมือง จ.ขอนแก่นเพื่อให้ขอนแก่นได้เป็นศูนย์กลางของชาวอนาคตใหม่ในอีสานโดยมีประชาชนจำนวนมากในขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาสมัครสมาชิกพรรค และพบปะพูดคุยกับคณะกรรมการบริหารของพรรคอย่างคับคั่ง
โดย น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่าพรรคอนาคตใหม่มีความตั้งใจที่จะลดความเหลื่อมล้ำในสังคมทำให้คนเท่าเทียมกันให้มากที่สุด ซึ่งวิสัยทัศน์ ไทย 2 เท่า ของพรรคอนาคตใหม่ จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา จะช่วยเหลือพัฒนาเศรษฐกิจชาวอีสานให้เจริญก้าวหน้าขึ้น ไม่ต้องจากครอบครัวไปทำงานที่อื่น แต่การสร้างเศรษฐกิจรถไฟของพรรคอนาคตใหม่ จะทำให้เกิดงาน เกิดความมั่งคั่งขึ้นที่นี่ เราจะได้เห็นดินแดนอีสานเจริญทัดเทียมภูมิภาคอื่นๆได้ เป็นภารกิจที่อนาคตใหม่ ต้องทำ เพื่อให้คนเท่าเทียมกัน และไทยเท่าทันโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการเปิดศูนย์ประสานงานสาขาขอนแก่นแกนนำพรรคอนาคตใหม่ยังได้ไปพบปะประชาชนที่ตลาดประตูน้ำขอนแก่นอีกด้วย
อลงกรณ์หาเสียงเชียงใหม่
เช้าวันเดียวกัน นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครหยั่งเสียง เลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) หมายเลข 3 พร้อมคณะ เดินทางมาพบสมาชิกภาคเหนือตอนบน และชาวเชียงใหม่ ได้เดินทางไปที่ตลาดเจเจ ตำบลช้างเผือก อำเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพบประชาชนตลอดจนแม่ค้าพ่อค้า ซึ่งเป้นตลาดอินทรีย์ ออแกนิก เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ และนโยบายให้กับสมาชิกและประชาชน ซึ่งจะมีการเดินทางไปยังหมู่บ้านม้งดอยปุย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะลงมานำเสนอจุดยืนต่อสมาชิกภาคเหนือตอนบน ณ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ
นายอลงกรณ์ กล่าวว่าหลังจากเดินทางไปพบสมาชิกทางภาคอีสานเมื่อวานนี้พี่น้องให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ซึ่งตนเองชูวิสัยทัศน์และนโยบายให้กับสมาชิกที่สำคัญการปฎิรูปพรรคประชาธิปัตย์ใหม่หลังจากผ่านมา 72 ปี ถึงเวลาที่จะต้องยกเครื่องใหม่เป็นประชาธิปัตย์ 4.0 เป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่สร้างพรรคให้เป็นองค์กรทันสมัยก้าวล้ำนำหน้า แต่ต้องยึดมั่นในระบบประชาธิปไตยยึดมั่นระบบรัฐสภา ดั่งนั้นต้องมีนโยบายวิสัยทัศน์นำเสนอให้พี่น้องของภาคเหนือภาคอีสานและทุกภาคทั่วประเทศ หมดยุคใช้การเมืองแบบเก่าๆโจมตีกันไปโจมตีกันมาทุกฝ่ายมาต่อสู้กันจนสูญเสียเลือดเนื้ออย่างทีผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่จะเป็นผู้นำของประชาธิปไตยและเป็นผู้นำความก้าวหน้าและทันสมัย โดยจะผลักดันให้เมืองเชียงใหม่เป็นครีเอทีฟล้านนาเป็น ครีเอทีพเชียงใหม่ให้เป็นฮับ เป็นฐานสร้างรายได้ให้กับประชาชนและรายได้ให้กับประเทศ
นายอลงกรณ์ย้ำว่า ทันทีที่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ทุกคนจะเห็นโฉมหน้าใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากไปภาคอีสานพี่อให้การต้อนรับดีมากเพราะบอกว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน จะทำให้การเมืองเป็นสีขาวการเป็นสุภาพบุรุษสุภาพสตรีเป็นยุคใหม่ของการเมืองไทยพร้อมจะปักธงสีขาวในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเน้นการเมืองสีขาวที่ไม่ต้องมารบกันอีกมีรัฐประหารอีก ซึ่งตนเองจะไม่ให้ประชาชนต้องมาต่อสู้สูญเสียชีวิตกันอีกต่อไป ความร้าวฉานอันนั้นจะต้องกลายเป็นอดีตสิ่งเหล่านี้จะต้องสร้างร่วมกันกับพี่น้องคนไทยทุกคนทุกภาคเราคือครอบครัวเดียวกัน “วัน แฟมมิลี่ เบอร์ 3 “
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี