วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ขอมาจัดให้“ตู่ สายเปย์”ทั่วถึง ให้ยันถังน้ำเย็น หลังประกาศตัวเป็น“ตู่ ดิจิทัล” ปรับตัวทันท่วงทีหลังชาวบ้านเม้นท์ เอาแน่ขอเวลาตั้งตัวก่อนไลฟ์สด แจงล่าม“เจ้าหมี”รอรับ หวั่นอิจฉาฟัดกันนัว
24 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเวลา 14.35 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงมายังบริเวณห้องแถลงข่าวที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
โดยเมื่อมาถึงได้นำมือถือขึ้นมาถ่ายภาพผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ก่อนที่จะเซลฟี่ในมุมต่างๆ พร้อมกระเซ้าว่า “เอาล่ะ ใครถามจะได้รู้ และจะได้อัดเทปด้วย” พร้อมระบุว่าตัวเองเป็นมือใหม่ก็ต้องให้โอกาสในการหามุมในการถ่ายด้วย เพราะยังไม่เชี่ยวชาญ ส่วนที่บางคนระบุว่า ถ่ายแบบนี้แล้วอาจจะไม่หล่อนั้น ส่วนตัวคิดว่าจะหล่อหรือไม่หล่อไม่เป็นไร อยู่ที่การทำงานดีหรือไม่ดี
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดเผยตัวแล้วว่าจะเป็น “ตู่ ดิจิทัล” เรื่องนี้ตนก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมในปัจจุบันที่เป็นสังคมโซเชียลที่เข้ามาขับเคลื่อน ตนพยายามจะปรับปรุงตัวขึ้นมา เปิดช่องทางการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีหลายคำถามหลายข้อเสนอเข้ามา ตนได้รับทราบ และจะทยอยตอบลงไปด้วยตัวเอง
สำหรับช่องทางการสื่อสารแรก คือ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม รวมทั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนต่างๆอีกมากมาย มีผลการดำเนินการจำนวนมาก โดยตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา มีเรื่องเข้ามาประมาณ 3 ล้านกว่าเรื่อง แก้ไปได้แล้วประมาณ 99.7 เปอร์เซ็นต์ จุดไหนมีปัญหาก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไข ซึ่งคิดว่าได้ผลมากพอสมควร เพราะการแก้ปัญหา 3 ล้านกว่าเรื่องไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะไม่มี ส.ส.ก็ตาม ตนจึงต้องเปิดหลายช่องทางการสื่อสารขึ้น เพื่อรับเรื่องร้องเรียนและนำไปสู่การตรวจสอบ
“ขณะนี้มีเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาที่ต้องแก้ไข เช่น เรื่องของโรงเรียนสุเหร่าทรายกองดิน เขตมีนบุรี ขาดถังน้ำเย็น เรื่องนี้ผมจะให้กรุงเทพมหานครลงไปดูแล นอกจากนี้ยังมีเรื่องโรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ จ.อุบลราชธานี มีเด็กดูแลแม่ที่ป่วยหนักไม่มีญาติ ยากจน อาศัยนอนบริเวณทางเดินของโรงพยาบาล ก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปติดตามดูแล และยังมีอีกหลายเรื่องที่ผ่านสื่อโทรทัศน์ ทั้งเรื่องของคนยากจน คนยากไร้ นอนกลางดินกินกลางทรายไม่มีที่อยู่อาศัย ผมจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดู ทั้งขอทาน คนไร้บ้าน ก็ให้นำเข้ามาดูแลในศูนย์พักพิง และนำไปฝึกอาชีพ หาบ้านให้อยู่อาศัยเพิ่มเติม” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า เรื่องเหล่านี้ก็จะทยอยทำ เพราะประเทศไทยคนยากจนคนด้อยโอกาสมีจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลนี้มีการขับเคลื่อนมาโดยตลอด โดยมีแผนระยะยาว หลายเรื่องเป็นปัญหาที่ทับซ้อนมายาวนาน ถ้าเอากฎหมายมาจับทั้งหมดก็คงจะเดือดร้อยกันทั้งหมดจึงต้องหามาตรการที่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯได้อ่านข้อความเองทั้งหมดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อ่านเอง ทั้งอินสตาแกรมก็อ่านอยู่ ซึ่งในอิสตาแกรมรู้สึกว่า ไม่ค่อยใช้คำพูดที่หยาบคาย แสดงว่าเป็นอีกระดับหนึ่ง แต่ตนไม่ได้ไปแบ่งชนชั้นอะไร เพียงแต่ถ้าเราจะเขียนโพสต์ในข้อความของใครไม่ควรจะใช้คำที่ไม่สุภาพ ด่าพ่อล่อแม่ หรือด่ากันเสียๆหายๆ ต้องให้เกียรติคนอื่นเขาบ้าง
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีการไลฟ์สดผ่านสื่อดิจิทัลด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวดูก่อน ดูความพร้อม แต่ทุกวันนี้ก็เหมือนการไลฟ์สดอยู่แล้ว สื่อก็ไลฟ์สิ่งที่ผมพูดไปสิ ส่วนการจะไลฟ์ด้วยตนเองนั้น เดี๋ยวขอดูก่อน อย่างเวลาเปิดอินสตาแกรมขึ้นมาแล้ว มันก็จะขึ้นกล้อง แล้วถ้ามันกดไปปั๊บ มันก็จะออกไปสู่สาธารณะเลย เดี๋ยวตั้งหลักไม่ทัน แต่งตัวยังไม่เรียบร้อยก็ต้องระมัดระวังก่อน ขอสร้างความคุ้นเคยก่อนสักระยะก่อนนะ ใจเย็นๆ ต้องเรียนรู้อีกสักหน่อย”
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ส่วนภาพที่โพสต์ระหว่างการเข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ที่เบลเยี่ยมนั้น ส่วนใหญ่ก็จะถ่ายเอง แต่บางภาพก็มีมือเพียง 2 มือ ก็คงต้องมีคนอื่นถ่ายบ้าง อย่ามาถามส่งเดช สื่ออยากจะรู้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยหรือไม่ ในส่วนของคำบรรยายใต้ภาพ ส่วนใหญ่คิดเองและเขียนเอง ดูได้จากภาษาที่เขียน แต่บางเรื่องก็ต้องให้คนอื่นตอบเช่นเรื่องเกี่ยวกับระเบียบก็ต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตอบ แต่ส่วนใหญ่ก็จะตอบเอง โดยคณะทำงานจะรวบรวมความเห็นมาให้ว่าควรจะตอบกี่คำถาม แล้วตนก็จะเขียนตอบไป แต่คงไม่ถึงขั้นจะตอบตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าอยากรู้แบบนั้นคงต้องไปติดตามว่าตนทำอะไรบ้าง จะได้รู้ว่าคนเป็นนายกฯไม่ได้สบายนักหรอก
เมื่อถามถึงข้อวิจารณ์กรณีที่นายกโพสต์ภาพคู่กับสุนัขที่บ้าน คือ เจ้าลูกหมี ว่ามารอรับ แต่มีคนตาดีเห็นว่าเป็นการผูกเชือกให้มารอ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจงว่าสุนัขบ้านตนมี 4 ตัว อีก 3 ตัวก็อยู่ใกล้ๆ แต่ถ้าปล่อยให้มาอยู่ใกล้ๆกันนานๆ ก็จะงับกันเอง จึงต้องล่ามคนละมุม
“ไอ้หมี ตัวใหญ่สุด ผมกลับบ้าน มันหอนรับทุกวัน และทุกวันนี้ ไอ้หมีตัวโตและสูงขึ้นมากเกือบจะถึงเอวแล้ว อายุยังไม่ถึง 1 ขวบ ที่เหลือตัวเล็ก มีพันธุ์เฟรนช์ บลูด็อก กับบีเกิ้ล เดี๋ยวจะถ่ายมาให้ดูทุกเช้าจะมาส่งก่อนมาทำงานทุกวัน คนดูแลก็จะคล้องเชือกมา ไม่เช่นนั้นก็จะทะเลาะกัน เพราะทุกตัวมันรักนายและแสดงความเป็นเจ้าของ เราก็ต้องเฉลี่ยความรักให้กับทุกตัว ไม่เช่นนั้นมันก็จะอิจฉากัน กัดกันตาย” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรีเดินลงมาที่หน้าตึกบัญชาการ 1 ได้เซลฟี่กับกลุ่มผู้สื่อข่าวอีกครั้ง แต่ขอตัวไม่ถ่ายกับกลุ่มช่างภาพ เนื่องจากมีภารกิจต้องไปรอต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมกับทำสัญลักษณ์มือไอเลิฟยู ก่อนกล่าวว่า “ซาโยนาระ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี