มหาดไทยน้อมรำลึก
วันดำรงราชานุภาพ
“มท.1” นำคณะร่วมน้อมรำลึกวันดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีมหาดไทย จุดเริ่มต้น “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข”ขอกลไกพื้นที่ ยึดกม.ระงับขัดแย้ง สร้างธรรมาภิบาล
เมื่อเช้าวันที่ 1 ธันวาคม ที่บริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทย(มท.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายสักการะพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ หรือวันดำรงราชานุภาพ
โดยรมว.มหาดไทย ได้พบพระญาติของสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ และพบปะทักทายบรรดาข้าราชการที่มาร่วมภายในงาน พร้อมกล่าวสดุดี สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตอนหนึ่งว่า ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงวางรากฐานอันมั่นคงให้แก่กระทรวงมหาดไทย และทำนุบำรุงแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติ ทรงเป็นกำลังสำคัญยิ่งในการปฏิรูป การจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ทรงวางรากฐานการปกครองแบบเทศาภิบาล และสุขาภิบาล อันเป็นรากเหง้าของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทรงตราพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ งานตำรวจภูบาลและภูธร และทรงกำหนดความหมายของงานมหาดไทยให้ชัดเจนว่า “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสว่า “กรมดำรงฯ มอบดวงใจให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงมหาดไทย คือ ผู้ดูแลประเทศชาติ ชาวไทย ให้มีความร่มเย็นเป็นสุข” และทรงได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยเป็นอย่างสูง ดั่งปรากฏพระนามว่า ทรงเป็นอัจฉริยะบุรุษแก่มหาชนในทุกสมัยจนเป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ และในปี พ.ศ. 2505 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UNESCO
“จึงถวายการสดุดีให้ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเป็น “บุคคลสำคัญของโลก” พระองค์แรกของประเทศไทย ซึ่งนับเป็นเวลาถึง 126 ปี ที่คนมหาดไทยได้ตระหนักในภาระหน้าที่และได้ร่วมปฏิบัติงานอำนวยประโยชน์สุขให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด และเต็มกำลังความสามารถ เพื่อนำบ้านเมืองไปสู่ความร่มเย็นเป็นสุขดั่งปณิธานบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ตามเจตนารมณ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตราบจนปัจจุบัน”
จากนั้นได้มีพิธีสงฆ์ เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลถวายแด่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตลอดจนผู้มีพระคุณและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทยที่ล่วงลับไปแล้ว โดยรมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องไทยธรรม และภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ และพิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ได้รับรางวัลนายอำเภอแหวนเพชร ประจำปี 2561 จำนวน 10 รางวัล ปลัดอำเภอดีเด่น (ปลัดอำเภอแหวนทองคำ) จำนวน 10 รางวัล หมู่บ้านดีเด่น (บ้านสวย เมืองสุข)จำนวน 18 รางวัล สำนักทะเบียนดีเด่น จำนวน 27 รางวัล
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวให้โอวาทว่า ผู้ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ล้วนเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ สมควรได้รับรางวัล สำหรับผู้ที่เป็นกำลังหลักในส่วนภูมิภาคนอกจากผู้ว่าราชการจังหวัด ก็คือนายอำเภอ จำนวน 878 คน รวมถึงต้องมีปลัดอำเภอช่วยดูแลกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งทุกส่วนมีความสำคัญ ทั้งหมดเป็นโครงสร้างที่จะทำงานในฐานะที่เป็นกลไกรัฐบาลซึ่งสำคัญยิ่ง ทุกคนต้องทำตามกฎหมาย ตามอำนาจหน้าที่ เวลาทำงานกับประชาชน สิ่งสำคัญในการทำงานที่นอกเหนือจากต้องเป็นคนดี มีความรู้ เป็นคนตรงแล้ว ยังต้องยึดหลักธรรมาภิบาล คุณธรรม และจริยธรรมด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นบารมีในการปกครองพื้นที่ ซึ่งจะได้รับความร่วมมือจากประชาชน บังคับใช้กฎหมายก็ง่าย สามารถหยุดข้อขัดแย้ง ข้อพิพาท หรือความไม่เรียบร้อยในพื้นที่ได้
“นายอำเภอจะทำได้ต้องมีบารมีสั่งสม มีธรรมาภิบาล จึงจะเป็นนักปกครองที่ สร้างความร่วมมือ ความสงบให้เกิดขึ้นได้ ก็ขอให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติภารกิจให้เป็นแบบอย่างผู้ใต้บังคับบัญชา และขอให้ยึดมั่นความดี ใช้ความรู้ความสามารถ ยึดถือประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง” รมว.มหาดไทย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี