จากกรณีนายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก นัดหมายคนเสื้อแดงจัดกิจกรรมที่จ.อุดรธานี วันที่ 10 ธ.ค.นี้ โดยอ้างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณให้คนเสื้อแดงเลือกพรรคเพื่อไทย และพรรคไทยรักษาชาติ โดยไม่มีชื่อพรรคเพื่อชาติของกลุ่มนปช. ทั้งที่มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เป็นผู้สนับสนุนหลักของพรรคเพื่อชาตินั้น
ล่าสุดวันนี้( 8 ธ.ค.61) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ในประเด็น"เพื่อความเข้าใจ กรณี อานนท์ แสนน่าน กับบทเรียนที่ผ่านมา" โดยระบุตอนหนึ่งว่า ตนรู้จักกับนายอานนท์แต่ไม่ค่อยสนิท ตนติดตามทราบว่าเขาเป็นผู้ก่อตั้งพรรคพลังคนรุ่นใหม่ แล้วมีอดีตนางงามไปแจ้งความข้อหาฉ้อโกงกันระหว่างตั้งพรรค พรรคนี้ก็ล้มหายตายจาก เมื่อพรรคนี้ไปไม่รอดก็ไม่ได้สนใจ
ต่อมามีการเดินทางไปพบอดีตนายกฯ สัมภาษณ์รายการของนายจอม เพชรประดับ แล้วก็มาโพสต์เรื่องได้รับสัญญาณมาแล้ว ถ้าคนที่มีสติก็จะรู้ว่าโพสต์นี้ไม่ได้ส่งผลดีอะไรต่อซีกฝ่ายประชาธิปไตยเลย เป็นการชี้เป้าชี้ช่องให้เดินยากลำบากยิ่งขึ้น มีพี่น้องเสื้อแดงจำนวนมากอยู่ท่ามกลางความลำบาก ถูกประกบติดตาม มีความประสงค์ไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างสงบ ถ้าเราไม่เข้าใจสถานการณ์จะเดินด้วยความยากลำบาก
“สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. พูดว่าในรัชกาลที่ 10 จะมีการชุมนุมทางการเมืองลักษณะเดิมไม่ได้อีกต่อไป เป็นคำพูดที่แกนนำแต่ละฝ่ายน้อมนำ ประชาชนกลัวความไม่สงบ ความไม่สงบเป็นที่มาของการยึดอำนาจ คนต้องการความสงบ ต้องการเลือกตั้ง การจะทำอะไรลักษณะแหวกหญ้าจะเดินไม่บรรลุเป้าหมาย”นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า การอธิบายเสมือนหนึ่งต้องปฏิบัติตามนั้น ฝ่ายทางการจะตามประกบเล่นงาน เดือดร้อนจากเรื่องไม่เป็นเรื่องใครมานัดหมายเตรียมความพร้อม สิ่งสำคัญคือเราจะพาประเทศไทยให้เดินไปเป้าหมายการเลือกตั้งอย่างไร มีสำนวนคุกที่บอกว่า 1.อยู่ให้เป็น ต้องเข้าใจสถานการณ์การเมือง ณ ขณะนี้ ต้องเข้าไปสู่การเลือกตั้ง เดินไปถึงให้ได้ อย่าไปสร้างอะไรให้รู้สึกถึงความไม่สงบ ไม่ใช่หมายความว่าต้องเปลี่ยนจุดยืนทางการเมือง เราเดินมา 10 กว่าปีไม่มีวันทรยศเส้นทาง แต่เราต้องมีบทเรียน อยู่ให้เป็นไม่ใช่ต้องโชว์ใครเป็นเสื้อแดงมากกว่ากัน ต้องบรรลุเป้าหมายประชาธิปไตยให้ได้
2.เย็นให้พอ ถ้าทุกคนแย่งกันเสนอหน้า เราก็เห็นผลลัพธ์สุดท้ายว่าท้ายที่สุดองคาพยพประชาธิปไตยเดินไปไม่ได้ ไม่มีพลัง เราต้องแข่งกันมีสติ ให้แต่ละพรรคเข้าสู่การแข่งขัน เมื่อประชาชนตัดสินแล้วยุติ ยังไม่นับ สว. ที่เป็นพรรคใหญ่ที่สุดเป็นอุปสรรคขวากหนาม คนกำลังเดินสบาย ไม่ใช่ต้องมาแบกภาระกับใครก็ไม่รู้ที่อวดตนวางบทข่มนัดหมายอึกทึกคึกโครม ทุกคนเขาวิตก 3.รอให้ได้ เรารอการเลือกตั้ง ตนไม่จำเป็นต้องมาตอบโต้กับนายอานนท์ แต่ตนไม่ต้องการวิธีแบบนี้มาเดินในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
“ทำไมต้องมาพูด เพราะผมมองเห็นปลายทาง ตลอดระยะเวลาร่วม 10 กว่าปีมานี้ ลองไปติดตามเทปเก่าๆ ที่ผมได้วิเคราะห์การเมืองกันเอาไว้ว่าอะไรที่มันผิดพลาดกันบ้าง คือการกำหนดย่างก้าวในลักษณะอย่างนี้ มันสร้างภัยคุกคามให้กับฝ่ายนี้โดยไม่จำเป็นเลย แล้วก็เป็นการชี้เป้าชี้ช่องหาช่องว่างทางกฎหมายเนี่ย ซึ่งจะเป็นปัญหาเป็นความทุกข์ของ 2 พรรคนี้ด้วยซ้ำ จะไม่เป็นประโยชน์อะไรเลย ดังนั้นผมก็วาดหวังว่าท่วงทำนองที่ประกาศกันอึกทึกครึกโครมนั้น จะได้คิด จะได้มีสติกัน” นายจตุพร กล่าว
ประธาน นปช. กล่าวทิ้งท้ายว่า ใน 10 กว่าปี ถ้าไม่รู้จักใครเป็นใคร ตนคงจะมายื่นหัวแถวไม่ได้ ถ้าไม่วิเคราะห์สถานการณ์ที่เป็นจริงจะเป็นปัญหา ใครจะตอบโต้ก็ลองคิดทบทวนดีๆ เราอยู่ในสถานการณ์ไหน ไม่นับรวมเรื่องวีรชน 99 ศพ ตนเคยอภิปราย 4 ชั่วโมงไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะดวงวิญญาณทุกดวงต้องได้รับความเป็นธรรม
“ผมมีอีก 6 คดีรออยู่ข้างหน้า อิสรภาพที่จำกัด ถ้าเราต้องการส่งบ้านเมืองให้ลูกหลานสมบูรณ์ที่สุด เป็นประชาธิปไตยที่สุด ต้องเดินอย่างมีสติมากที่สุด เราไม่ควรย้ำรอยสิ่งที่มันเคยเป็นปัญหา ประวัติศาสตร์ไม่มีใครเปลี่ยนได้ แต่อนาคตกำหนดกันได้ การดำเนินการอย่างนี้ไม่เป็นประโยชน์กับทั้ง 2 พรรค ตนไม่พูดในฐานะกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ เอาหน้าตัวเองให้เล็ก เอาเรื่องบ้านเมืองประชาธิปไตยให้ใหญ่ เราจึงจะบรรลุเป้าหมาย”นายจตุพร กล่าวย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี