ผบ.ทบ.ยกวาทะ‘คึกฤทธิ์’
อัดพวกโกงชาติ
ต้นตอสร้างปัญหาทุกครั้ง
บอกปฏิวัติเป็นเพียงปลายเหตุ
ปอท.ติงแชร์คลิปฉาว-ผิดหมิ่น
กกต.รอพปชร.แจงโต๊ะจีน30วัน
“บิ๊กแดง” ผบ.ทบ. ยกวาทะ “หม่อมคึกฤทธิ์” ระบุพวกที่โกงเท่านั้นสร้างปัญหา ส่วนการปฏิวัติเป็นเรื่องปลายเหตุ พร้อมจวกพวกป้ายสีกองทัพ-คสช.กรณีคลิปบนเตียงของนักการเมืองกระหึ่ม ด้าน ปอท.เตือนอย่าแชร์ต่อเพราะอาจผิดหลายกระทง ในขณะที่ กกต.ยังไม่สอบ พปชร.กรณีจัดโต๊ะจีนบันลือโลก แต่เปิดทางให้ชี้แจงใน 30 วัน
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กล่าวถึง กรณีที่การพาดพิงคสช.และกองทัพว่าอยู่เบื้องหลัง หรือปฏิบัติการI.O.แพร่คลิปสวาท“นักการเมือง-นักกิจกรรมทางการเมืองหญิงว่า 1.กองทัพบกเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงและมีความเป็นมืออาชีพ และไม่เคยใช้คน หรือ เครื่องมือ นอกเหนืองานด้านความมั่นคง และผิดจรรยาบรรณโดยเด็ดขาด 2.คำว่า IOหรือ Information Operationหรือการต่อต้านงานด้านการข่าวและการต่อต้านการข่าวกรองทางทหาร จะปฏิบัติต่อกลุ่มคนหรือองค์กรที่ต่อต้านระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและกลุ่มที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เท่านั้น
ยกวาทะ’คึกฤทธิ์’สอนพวกป้ายสี
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวอีกว่า 3.กองทัพบกเข้าใจและเห็นใจต่อผู้เสียหายจากการใช้ Social Mediaทุกคนและขอให้สังคมให้ความเป็นธรรมและใช้วิจารณญาณกับสิ่งที่เกิดขึ้น 4.ปรากฏการณ์ใส่ร้ายป้ายสี ก่อนการเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่ไม่ปกติของสังคมไทยมาทุกยุคสมัย และ 5.กองทัพบก ได้มีประสบการณ์ในวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นมาทุกสมัยและทุกครั้ง ที่เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง กองทัพบกมักจะถูกเป็นจำเลยของสังคม โดยที่กลุ่มเห็นต่าง มิได้มองถึงสาเหตุ หรือ ต้นเหตุแห่งความวุ่นวายที่เกิดขึ้น อยากขอนำอมตะวาจาของท่าน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีว่า“รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ปัญหา คณะปฏิวัติเป็นเพียงปลายเหตุคนโกงต่างหากคือต้นเหตุ”
ปอท.ย้ำอย่าแชร์คลิปฉาวผิดหมิ่น
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กก.3 บก.ปอท. ในฐานะโฆษก บก.ปอท. กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์ส่งต่อภาพและคลิปของบุคคลที่ระบุว่าฝ่ายชายเป็นนักการเมืองกับฝ่ายหญิงที่เป็นนักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง ไปมีความสัมพันธ์กันในที่ลับว่า เบื้องต้น ศูนย์เฝ้าระวังโซเชียลของ บก.ปอท.ได้ตรวจพบการส่งต่อแล้วตลอดวันเมื่อวานนี้แม้จะยังไม่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ปล่อยคลิปดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวน เราก็ไม่นิ่งเฉย ได้ทำการตรวจสอบรายละเอียดของภาพนิ่งและคลิปที่ส่งต่อกันมาที่มีความยาว 6 วินาทีแล้วเบื้องต้นพบว่าอาจยังไม่ชัดเจนที่จะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560
โฆษก บก.ปอท.กล่าวอีกว่าอยากฝากถึงการแสดงความเห็นหรือคอมเมนท์ในลักษณะคึกคะนองที่สร้างความเสียหายให้กับผู้หนึ่งผู้ใดที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ อาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทได้ นอกจากนี้ หากมีผู้ใดนำภาพนิ่งในคลิปไปตัดต่อในทางเสียหายกับผู้หนึ่งผู้ใด ก็อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 16 ซึ่งจะมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 2แสนบาท อีกทั้งอยากฝากไปถึงการเข้าใช้บริการสถานที่เช่นโรงแรม รีสอร์ทหรือที่พักต่างๆต้องตรวจสอบว่าปลอดภัยหรือไม่เพราะอาจมีการติดตั้งกล้องแอบถ่ายและนำภาพมาปล่อยในโลกโซเชียลในลักษณะแบบนี้ได้
กกต.ชี้โต๊ะจีนรอพปชร.แจง30วัน
ด้าน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร)ระบุว่าหากผลการตรวจสอบพบการระดมทุนไม่ถูกต้อง ก็พร้อมจะคืนเงินแต่จะถือว่าความผิดสำเร็จแล้วหรือไม่ว่ากรณีดังกล่าวเป็นประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายซึ่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เขียนไว้ชัดเจนว่าไม่ว่าจะเป็นการบริจาคหรือระดมทุน พรรคการเมือง ต้องมารายงานให้กกต.ทราบภายใน 30วัน ที่สำคัญต้องรายงานให้ประชาชนทราบด้วยเพราะกฎหมายต้องการให้พรรคการเมืองสุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ เมื่อครบกำหนดเวลาจึงจะเริ่มต้นการตรวจสอบได้ ในระหว่างนี้ไม่สามารถวินิจฉัยได้ทันทีว่าอะไรผิดหรือไม่ผิด
ส่วนที่มีการเสนอข่าวว่าอาจมีหน่วยงานของรัฐเข้าไปซื้อโต๊ะนั้นเลขาธิการกกต.กล่าวว่าอยู่ระหว่างการติดตามของ กกต.ซึ่งทั้งหมดจะเริ่มการตรวจสอบได้ต่อเมื่อเห็นรายงานที่เป็นเอกสารจากพรรคและหากตรวจสอบพบความผิดก็จะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนสืบสวนซึ่งหลักสากลไม่สามารถนำรายละเอียดที่อยู่ในการสืบสวนออกมาเปิดเผยได้ หากท้ายที่สุด รายชื่อที่พรรคผู้บริจาคที่พรรคได้รายงานมาไม่ตรงกับสิ่งที่นำเสนอผ่านสื่อมวลชนมา ก่อนหน้านี้ กกต.ก็จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร
พท.ชี้ระดมทุนโต๊ะจีนความผิดสำเร็จ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบการจัดงานเลี้ยงโต๊ะจีนระดมทุนของ พปชร.ที่ได้เงินไป600กว่าล้านจนมีการออกมาตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมรวมถึงข้อกฎหมายต่างๆที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิดว่าน่าแปลกใจที่ นายนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในฐานะรองหัวหน้าพรรคพปชร.สารภาพว่าคนจะอดตายอยู่แล้ว แต่พรรคพลังประชารัฐกลับไปจัดงานเลี้ยงระดมทุนโต๊ะจีนโต๊ะละ3ล้านบาท ตกกลืนข้าวคำละ 3,000บาท สะท้อนความเหลื่อมล้ำรวยกระจุกจนกระจาย คนจะอดตายเลย ต้องแจก500บาท การพบข้อมูลหน่วยงานรัฐซื้อโต๊ะจีนรวม69 ล้านบาท ถ้าเป็นจริง ถือว่า ผิดกฎหมาย อีกทั้ง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำกปปส.ที่ผันตัวเองมาเป็น รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแม้จะบอกว่า ถ้าหากคุณสมบัติผู้บริจาคไม่เข้าข่ายตามที่กฎหมายกำหนด จะคืนเงินให้ ก็ฟังไม่ได้เพราะความผิดสำเร็จแล้ว
ดักคอยื้อสอบ30วันหวั่นแต่งข้อมูล
“หลักการที่ถูกต้องคือ ต้องตรวจสอบก่อนรับ ไม่ใช่รับแล้วค่อยไปตรวจสอบ การบอกว่าจะรายงาน กกต.ภายใน2-3สัปดาห์และกกต.จะตรวจสอบภายใน30วันนั้นก็นานเกินไป ความจริงตรวจสอบ2-3ชั่วโมงก็น่าจะรู้แล้ว ตรวจสอบเลขที่เช็ค ก็จะรู้ได้ว่าเป็นเช็คของบริษัท หรือองค์กรใดบ้าง เช็คเซ็นโดยใคร การบอกว่าจะตรวจสอบใน 30 วัน ต้องระวังการไปตกแต่งข้อมูล เพื่อไม่ให้มีความผิดหรือไม่ สังคมกังขา ตั้งข้อสงสัยพรรคพลังประชารัฐ เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นมากเกินไปหรือไม่ 4รัฐมนตรีถูกกดดันก็ไม่ลาออก แล้วยังมีการจัดระดมทุนที่สุ่มเสี่ยงจะผิดกฎหมายอีก อย่าย่ามใจว่าทำอะไรก็ได้ เดี๋ยวประชาชนเขาทนไม่ไหว”นายอนุสรณ์ ย้ำ
สมศักดิ์เปิด5ว่าที่ชิงสส.นครปฐม
ในวันเดียวกัน ทีมงานพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์เฉพาะกิจในการรณรงค์ การหาเสียงเลือกตั้งพรรค พร้อมนายอนุชา นาคาศัย กรรมการบริหารพรรค และนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค พปชร.ลงพื้นที่ เปิดศูนย์ประสานงานของพรรคพลังประชารัฐที่จ.นครปฐม มีประชาชนต้อนรับกว่า1,500คน
ทั้งนี้ ยังได้เปิดตัวบุคคลที่เสนอตัวเป็น ว่าที่ผู้สมัครส.ส.นครปฐม ทั้ง 5 เขต.คือเขต 1 นายธนกร เชาวนเมธา,เขต2 พ.ต.อ.วีระยศ ชื่นกลิ่นธูปศิริ ,เขต3 นายพรศักดิ์ เปี่ยมคล้า อดีต ส.ส. , เขต 4 นายปฐมพงษ์ สูญจันทร์ อดีตนายก อบจ.นครปฐม และเขต5 นายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว อดีตส.ส.นครปฐม พร้อมนำทีมว่าที่ผู้สมัครไปยังวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหารเพื่อสักการะ”พระร่วงโรจนฤทธิ์”เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำ จ.นครปฐม เพื่อขอพรให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง
มั่นใจพปชร.ปักธงที่นั่งสส.แน่
นายสมศักดิ์ ยังมั่นใจว่าพลังประชารัฐมีโอกาสที่จะได้ส.ส.นครปฐม แม้จะมีตระกูลใหญ่ที่ผูกขาด เพราะเวลานี้การจะเลือก ส.ส.ซักคน ต้องมองที่นโยบายพรรคเป็นหลักว่าเขาจะได้ประโยชน์อะไร ไม่ได้มองตัวบุคคลมากเหมือนสมัยก่อน ตนไม่ได้โอ้อวดเกินจริงแต่ว่าที่ผู้สมัครก็ขยันลงพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนจึงมองว่าเรามีโอกาสได้ส.ส.แม้วันนี้พลังประชารัฐยังมีคนรักไม่มากเหมือนพรรคเก่า แต่เราขอเป็นทางเลือกที่สำคัญเพื่อยกระดับความมั่นคง การกินดีอยู่ดีของชาวบ้าน เรายินดี ที่จะทำงานหนักให้สำเร็จ เพราะพลังประชารัฐ มีบุคลากรที่มีความสามารถในทุกด้านทั้ง เศรษฐกิจ สังคม เกษตรกรรม ที่พร้อมทำงานช่วยเหลือทุกคนให้ผ่านวิกฤติความลำบาก
‘ภูมิใจไทย’ชูนโยบายปฏิรูป สธ.
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคพรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวว่าพรรคมีนโยบายที่จะปฏิรูประบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพโดยใช้ระบบโทรเวชกรรม Telemedicine หรือ“เทเลเมด”เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินงาน ปัจจุบันปัญหาระบบสาธารณสุขไทยคือ เรามีผู้ป่วยที่ไม่มีความจำเป็นต้องไปถึงโรงพยาบาลมากถึง25%ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเรากำลังมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุจึงทำให้บุคลากรทางการแพทย์ จะต้องรับงานหนักเกินความจำเป็นและใช้งบประมาณมากเกินความจำเป็นรวมถึงการเดินทางทำให้ประชาชนเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ
ที่จริงแล้ว คนไข้เหล่านี้สามารถรักษาที่บ้าน หรือหมอประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.ได้ด้วยการใช้เทคโนโลยี“เทเลเมด”สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน โดยการรักษา ไม่ต้องให้ผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาล ซึ่งโรงพยาบาล ก็สามารถส่งยาผ่านระบบการส่งยาเคลื่อนที่จากโรงพยาบาลสู่ผู้ป่วยได้แล้วจะยิ่งทำให้ระบบการแพทย์ทางไกลโดยใช้เทคโนโลยีครบวงจรเกิดขึ้นจริงได้อย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตระหว่างการลำเลียงผู้ป่วยไปโรงพยาบาลมีตัวเลขที่สูงมากหรือที่เราเรียกว่า“ตายก่อนถึง”เราสามารถที่จะลดอัตราการเสียชีวิตได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีเทเลเมด
โดยบุคลากรทางการแพทย์ในรถฉุกเฉินสามารถสื่อสารกับหมอผู้เชี่ยวชาญที่โรงพยาบาลระหว่างทางอีกทั้งสามารถที่จะใช้กล้องที่เชื่อมโยงกับระบบ 4G หรือ 5G ทำให้สามารถที่จะมองเห็นสถานการณ์ของผู้ป่วยได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะลดอัตราการเสียชีวิตได้มาก หากมีการสื่อสารระหว่างทางอย่างเรียลไทม์
หากรัฐสามารถทำให้อสม.ใช้ระบบเทเลเมด เชื่อมต่อเข้ากับโรงพยาบาลศูนย์เพื่อให้หมอผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้วยการเห็นหน้ากันผ่านสมาร์ทโฟนรวมไปถึงอสม.และประชาชนผู้ป่วยทั่วไป ยังสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุขในการรักษาเบื้องต้นโดยรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข จะต้องวางโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูลและการเข้าถึงข้อมูลด้วยความง่ายดายและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าอสม. ประชาชนและแพทย์ก็เข้าใช้ด้วยความรวดเร็วและตลอดเวลา”นายอนุทินย้ำ
ชทพ.จ่อเปิด6นโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง
นายยุทธพล อังกินันทน์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)กล่าวว่าในวันที่ 24 ธันวาคม น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค และ นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค พร้อมด้วยแกนนำจะเปิดตัวนโยบายสำคัญเร่งด่วนเพื่อนำเสนอต่อประชาชนสู้ศึกเลือกตั้งปี2562ใน 6 ด้านคือ 1.ด้านการเกษตร แก้ปัญหาให้กับเกษตรกร2.ด้านการศึกษา 3.ด้านสังคม ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น 4.ด้านการบริการสาธารณสุข 5.ด้านกระจายอำนาจและ6.ด้านการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งนโยบายเร่งด่วน เป็นผลจากการพิจารณาและกลั่นกรองข้อมูล ความต้องการของประชาชนจากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องรวมถึงนำรายละเอียดของยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศศึกษาก่อนการกำหนดนโยบายให้สอดคล้องร่วมกัน
“หลักของกติกาสำคัญคือการทำนโยบายที่ต้องใช้งบประมาณเพื่อดำเนินการ พรรคต้องแจ้งรายละเอียดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)พิจารณา ซึ่งพรรคสามารถดำเนินการได้ และมั่นใจว่ารายละเอียดของนโยบายเร่งด่วนที่เตรียมประกาศนั้น จะไม่สร้างภาระทางการคลังหรือเพิ่มหนี้สินให้ประเทศอย่างแน่นอน” นายยุทธพล กล่าว
ทษช.บุกตะลุยตลาดเช้ากระบี่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ นำโดย ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ดร.ฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการสรรหา นายประภัสร์ จงสงวน นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท แกนนำพร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรคฯ นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรค นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนพรรค ดร.อรุณี กาสยานนท์ รองโฆษกพรรค และนางสาวสุทิษา ประทุมกุล คณะกรรมการสรรหา ได้เดินทางลงพบปะชาว จ. กระบี่ ณ ตลาดสดมหาราช ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น มีประชาชนเข้ามาทักทายพร้อมให้กำลังใจพรรคไทยรักษาชาติในพบปะประชาชนในครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี