ครม.เห็นชอบ"ร่าง พ.ร.บ.ป.วิอาญา"ให้อัยการร่วมสอบสวนกับตำรวจ ระบุห้ามนำผู้ต้องหาแถลงข่าว ต้องกำหนดระยะเวลาส่งสำนวนให้ศาล ลั่นเป็นหนึ่งในกฎหมายปฏิรูปตำรวจ
25 ธ.ค.61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ. .... ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ ที่ประชาชนได้สอบถามมาตลอดถึงความคืบหน้า
โดยสาระสำคัญที่น่าสนใจของกฎหมายฉบับนี้ คือ 1.เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องหา ห้ามมิให้นำผู้ต้องหามาแถลงข่าวเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต 2.ในการสอบสวนจะต้องมีการถ่ายบันทึกวิดีโอและเสียงโดยตลอด เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ถูกกล่าวหาและเจ้าหน้าที่ 3.ในการสอบสวนนอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ต้องมีพนักงานอัยการอยู่ด้วยใน 2 กรณีคือ กรณีที่มีโทษรุนแรง และกรณีที่ผู้ต้องหามีความจำเป็นและเรียกร้องอยากจะให้ทางอัยการเข้ามาทำการสอบสวนด้วย
4.การกำหนดระยะเวลาในการที่จะส่งสำนวนไปสู่ชั้นศาล จะต้องมีระยะเวลาที่ระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งเรื่องกรอบระยะเวลาที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไรนั้น ทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีการพิจารณาต่อไป และ 5.ในอดีตส่วนใหญ่เกือบทุกคดีจะต้องกลับไปแจ้งความที่สถานีที่เกิดเหตุเท่านั้น แต่กฎหมายฉบับนี้ให้ผู้ที่จะต้องแจ้งความสามารถแจ้งความที่สถานีตำรวจที่ใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังสามารถแจ้งความและร้องทุกข์ผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ได้
ทั้งนี้ กฎหมายฉบับนี้เป็นหนึ่งในการปฏิรูปตำรวจ เป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย เนื่องจากในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการปรับเปลี่ยน เพราะมีการปรับระบบการสอบสวนของตำรวจไปหลายเรื่อง รวมทั้งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปร่วมด้วย เพื่อความเป็นธรรมและให้โอกาสทั้งผู้ต้องหาและเจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการส่งไปให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี