14 ม.ค.62 เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย เขตภาษีเจริญ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าทีมปราศรัยพรรคเพื่อไทย ร่วมปราศรัยหาเสียงให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ฝั่งธนบุรี 6 เขต ประกอบด้วย นายพงษ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ เขตบางพลัด-บางกอกน้อย , พ.ต.ท.วันชัย ฟักเอี้ยง เขตตลิ่งชัน-ทวีวัฒนา-หนองแขม , นายธวัชชัย ทองสิมา เขตจอมทอง-ธนบุรี , นายวัน อยู่บำรุง เขตบางบอน , นายวัฒนา เมืองสุข เขตบางแค , นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา เขตภาษีเจริญ-ตลิ่งชัน ทั้งนี้ เป็นเวทีปราศรัยครั้งแรกใน กทม.ของพรรคเพื่อไทย โดยมีประชาชนจำนวนมากร่วมฟัง
โดย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ไม่ว่าจะโดนห้ามให้เรามาเจอกันอย่างไร หัวใจเราใกล้กัน ตอนนี้เดินทางไปทั้งเหนือ ใต้ อีสาน เสียงแห้งหมดแล้ว แต่เชื่อว่าคะแนนยังเต็ม โดย 4 - 5 ปี ที่เขาบริหารราชการมา พี่น้องประชาชนกระเป๋าแฟบหมด สมัยเราบริหารทำให้กระเป๋าตุง เศรษฐกิจดีทุกครั้ง หน้าที่ของพวกเราคือทำให้คนตัวเล็กตัวน้อยมีเงินในกระเป๋าเพื่อมาใช้จ่าย มั่นใจว่าเราทำได้ เราจะใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เอาลงไปแล้วหายแบบนี้ ไม่ใช่ยิ่งทำยิ่งรวยกระจุกจนกระจาย แต่เราจะทำให้รวยกระจาย จนเหลือนิดเดียว ดังนั้น เลือกตั้งเมื่อไหร่เลือกเพื่อไทยอย่างเดียว ตอนนี้มีการใช้กติกากดขี่ ใช้อำนาจเอาเปรียบพวกเรา เพื่อไทยต้องทำงานหนักมากกว่าเขาสามเท่า ถ้าเลือกเขาก็จะได้เห็นหน้าเขาทุกวันศุกร์อีก 4 - 8 ปี พี่น้องต้องตัดสินใจว่าถ้าทนกับสภาพแบบนี้ไม่ไหวแล้ว ต้องการออกจากทุกข์ มีทางเดียวคือเพื่อไทยเท่านั้น ถ้าเลือกกันน้อยๆ ก็ฟังเพลงคุณลุงต่อไป ต้องไปเยอะๆ ให้ชนะ 250 ส.ว.และต้องจับมือเดินไปด้วยกัน ถึงเวลาทวงความสุขของเรากลับคืนมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่คุณหญิงสุดารัตน์ ปราศรัยเสร็จ โดยมีคิวที่ ร.ต.อ.เฉลิม พร้อมว่าที่ผู้สมัครทั้ง 6 คน ต้องถ่ายภาพร่วมกับคุณหญิงสุดารัตน์ แต่ปรากฏว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ได้บ่ายเบี่ยง และเดินลงจากเวทีปราศรัยทันที ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม และว่าที่ผู้สมัครยืนเก้อ และต้องเปลี่ยนคิวให้ ร.ต.อ.เฉลิม ปราศรัยแทน ทั้งที่ ร.ต.อ.เฉลิม ต้องปราศรัยเป็นคนสุดท้ายหลังผู้สมัคร
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า บ้านเมืองยุ่งเพราะพรรคประชาธิปัตย์ทำแบบนี้ ตั้งแต่การล้มรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะตอบคำถามประชาชนอย่างไรในการขึ้นไปเป่านกหวีดบนเวที กปปส.และคนประชาธิปัตย์ก็ขึ้นเวที กปปส. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีคดีกว่า 10 - 13 คดี แต่ได้แต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการนายกฯ และจะไปเลือกพรรคพลังประชารัฐทำไม เสียของ
ทั้งนี้ เศรษฐกิจแย่เพราะบ้านเมืองเป็นเผด็จการ ไม่มีคนมาลงทุน ทีมเศรษฐกิจทีมนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เลี้ยวไปเลี้ยวมาไป ส่ง 4 กุมาร ไปตั้งพรรคการเมือง แน่จริงให้ออกมายืนแบบตน แต่จะเอาสมองที่ไหนมาคิด พลังประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ แพ้เพื่อไทย ถ้าเราได้ 300 เราได้เป็นรัฐบาล เขาจะไม่กล้าตั้งรัฐบาล แต่ถ้าเราไม่ถึงเขาจะกล้าตั้งรัฐบาล เลือกตั้งรอบนี้ตนเดิมพันสูง ถ้าแพ้คือแพ้ ชนะคือชนะ ถ้าเอาความฝันของตนที่บอกว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้ไม่ถึง 25 เสียง แสดงว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายชนะ อย่างไรก็ตาม ถ้าเลือกตั้งไม่เกิด สงครามเกิดแน่นอน
"ย้ำอีกครั้ง ตอนนี้พลังประชารัฐยังไม่เปิดแน่ชัดว่าใครจะมาเป็นผู้นำ แต่เปิดตัวเมื่อไหร่ ประสานักเลงเรียกว่า งานนี้มีได้มีเสีย" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี