“พท.-ทษช.” ซัด “บิ๊กป้อม” ระวังคำพูด ปมกราดยิงโรงแรมไทย เพราะอาหารอร่อย แนะถอดบทเรียนทัวร์จีนล้มทำประเทศเสียหาย
17 ม.ค.62 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหม ให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุกราดยิงกันที่โรงแรมดุสิตดีทู ในเครือดุสิตธานี กรุงไนโรบี เมืองหลวงของประเทศเคนยา ระบุ เหตุกราดยิงไม่มีคนไทยเสียชีวิตซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อนักข่าวถามว่าทำไมผู้ก่อการร้ายตั้งเป้าโจมตีโรงแรมของไทย พลเอกประวิตร กลับตอบว่า “ไม่รู้สิ อาหารอร่อยมั้ง” ว่า ตนรู้สึกประหลาดใจในคำให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประวิตร ที่อาจสะท้อนสภาพจิตใจว่าท่านคิดและมองสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ละเรื่องอย่างไร ท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นแกนนำรัฐบาล ถือเป็นตัวแทนของประเทศ
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ใดๆถือเป็นท่าทีของรัฐบาลไทย ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความระมัดระวัง เพราะคำให้สัมภาษณ์เหล่านั้น ไม่ได้เผยแพร่อยู่เฉพาะในประเทศไทย สื่อในเคนยา และสื่อทั่วโลกต่างก็นำเสนอความเห็นของท่านในวงกว้าง ซึ่งอาจทำให้ต่างชาติสงสัยในวุฒิภาวะของแกนนำรัฐบาลไทย ซึ่งไม่น่าจะเป็นผลดีต่อใครเลย การพูดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงว่า จะเกิดปัญหาและซับซ้อนเป็นเรื่องเปราะบาง ท่านควรถอดบทเรียนจากกรณีเรือฟีนิกซ์ล่ม ที่ท่านให้สัมภาษณ์ “เขาทำของเขาเอง” ที่แม้แต่สื่อทางการของจีนยังไม่พอใจสื่อกระแสหลัก สื่อโซเชียลในประเทศจีน ต่างก็นำเสนอคำให้สัมภาษณ์ของท่านอย่างแพร่หลาย หลังคำให้สัมภาษณ์เหตุการณ์เรือฟินิกซ์ล่ม มีข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนได้งดเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้ประเทศสูญเสียรายได้หลายหมื่นล้านบาท
“ขอให้ท่านระมัดระวัง การจะให้สัมภาษณ์อะไร ควรระมัดระวังผลเสียหายที่จะตกแก่ประเทศชาติ และประชาชนโดยไม่จำเป็น คำพูดหากยังไม่พูด เราเป็นนายคำพูด แต่ถ้าพูดแล้ว คำพูดเป็นนายเรา ทัศนคติบางครั้งก็สำคัญกว่า ความสามารถ ซึ่งท่านต้องมีภาวะผู้นำ และต้องระมัดระวังให้มากขึ้น” นายอนุสรณ์ กล่าว
ด้านนายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ โฆษกพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุกราดยิงภายในโรงแรมดุสิตดีทู ไนโรบี ณ กรุงไนโรบี ประเทศเคนยาว่า ถึงแม้ว่า เราจะมีสิทธิและเสรีภาพในการพูด แต่คำพูดของเราต้องไม่สร้างผลกระทบแก่ผู้อื่น ทุกวันนี้เราสอนลูกหลานกันอยู่เสมอว่า ให้คิดก่อนที่จะพูดทุกครั้ง และต้องรับผิดชอบกับทุกคำที่พูด แต่บุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ควรจะเป็นตัวอย่างให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป กลับเอาเหตุการณ์โศกนาฎกรรม ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 คนมาพูดติดตลกเช่นนี้ นอกจากไม่สร้างสรรค์แล้ว ทัศนคติจากนานาประเทศที่มีต่อประเทศไทยจะแย่ลงไปด้วย ถึงแม้เหตุการณ์ในครั้งนี้จะไม่มีคนไทยเสียชีวิต แต่ก็ไม่ควรมีมนุษย์รายใดในโลกต้องมาเสียชีวิตจากเหตุก่อการร้าย คำพูดที่เหมาะสมในทางการทูตคือ การแสดงความเสียใจต่อประเทศเคนยา ที่ต้องมาเผชิญเหตุการณ์ลักษณะนี้ น่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์มากกว่า
นอกจากนี้ความคิดเห็นที่ว่า โรงแรมแห่งนี้ถูกกราดยิง คงเป็นเพราะอร่อย ยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง โรงแรมใดก็ตามที่มีอาหารรสชาติอร่อย คงต้องเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยมากขึ้นเป็นหลายเท่า อย่างนั้นหรือ
“ที่สำคัญที่สุด คือ คำพูดลักษณะดังกล่าวของพล.อ.ประวิตร ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ถ้ายังจำกันได้ กรณีที่เกิดเรือนำเที่ยวล่มในจังหวัดภูเก็ต ว่า 'เป็นเพราะคนจีน นำคนจีนด้วยกันมาประสบเหตุเอง' จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว พรรคไทยรักษาชาติลงพื้นที่รับฟังปัญหาที่ จ.ภูเก็ต ปรากฏว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลายรายสะท้อนให้แกนนำพรรคได้รับฟัง ถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่หดหายไป จึงอยากจะฝากไปยังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณว่า ท่านก็มีทั้งอายุและประสบการณ์มากในระดับหนึ่งแล้ว คำพูดคำจาหรือการแสดงความคิดเห็นใดๆก็ตาม ควรจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆ น่าจะดีกว่า” นายพงศ์เกษม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี