"สุเทพ"ลงพื้นที่สุราษฎร์ธานีช่วยลูกพรรคหาเสียง อธิบายเหตุผลตั้งพรรครปช. ซัด"ทักษิณ"อำมหิต!กระทำการมิบังควร ยันยันหนักแน่นไม่รวมรัฐบาลพรรคเครือข่าย บอก"รบ.แห่งชาติ"เรื่องเพ้อเจ้อ
13 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนสมัครสมาชิกพรรค และผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช) ได้เริ่มปฏิบัติการเดินช่วยผู้สมัครหาเสียง ซึ่งเริ่มที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี นายปรีติ เชาวลิต (สจ.ปิ๊ก) ผู้สมัคร เขต 5 หมายเลข 6 และทีมงาน ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดสด พระแสง อ.พระแสง และที่ตลาดโตรม อ.ชัยบุรี โดยมีประชาชนในเขตพื้นทีให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และขอถ่ายรูปร่วมกับนายสุเทพ และผู้สมัคร โดยนายปรีติ ได้แนะนำตัวกับพี่น้องประชาชน พร้อมขอโอกาสทำงานรับใช้พื้นที่ ต่อมาเวลา 09.00 น.ได้เดินทางไปยัง อ.พนม เพื่อพบปะพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดเทศบาลตำบลพนม เพื่อขอคะแนนเสียง
ต่อมาในช่วงบ่ายที่ ศาลาเอนกประสงค์ หน้าโรงเรียนจิตประชาราษฎร์ ต.บ้านเสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี นายสุเทพ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า พี่น้องบางคนเห็นข่าวเรื่องที่ตนไปเดินตามจังหวัดต่างๆ ก็สงสัยว่าไปเดินทำไม ก็อยากจะบอกว่าเมื่อเราตั้งพรรคการเมืองของประชาชน ก็ต้องออกไปบอกกับประชาชน ไปเชิญชวนประชาชนในจังหวัดต่างๆ ให้เข้ามาร่วมเป็นเจ้าของพรรค เพราะพรรคนี้ไม่ใช่พรรคของคนใดคนหนึ่ง หรือครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง แต่เป็นพรรคการเมืองของคนไทยทั่วประเทศ และเป็นพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริงเพียงพรรคเดียว
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า พี่น้องประชาชนบางคนเจอหน้าชี้เลยว่า เราอุตส่าห์ไปเดินขบวนกับคุณแต่ว่าคุณทำให้ราคายางตก ราคาข้าวตก พวกเราทุกข์ยากลำมาก ตรงนี้ทำให้รู้แล้วว่าต้องมีคนมาใส่ความอย่างผิด หรือไปฟังอะไรมาผิดๆ ใส่ร้ายตนเต็มๆ เลย และทำให้ยางราคาตก ปาล์มราคาตก ทุกคนต้องได้ยินแน่นอน คนที่มากล่าวหาใส่ร้ายตน เลือดเย็นมาก เพราะคนนั้นติดหนี้บุญคุณตนมาก บางคนเป็นตัวเป็นตนทางการเมือง ตนก็สนับสนุนมาเอง บางคนได้ดิบได้ดีเป็นรัฐมนตรี หัวหน้าคณะรัฐบาล ตนทำให้ทั้งนั้น รู้แล้วว่าความจริงเป็นอย่างไร พี่น้องทั้งหลายที่อยู่ที่นี่รู้จักตนมาทั้งชีวิต ถ้าพี่น้องมองย้อนไปในอดีต เมื่อพี่น้องที่นี่สนับสนุนให้ตนเป็น ส.ส.ตนได้ทำงานรับใช้พี่น้องทั้งหลาย เป็นเรื่องเป็นราวชัดเจน สามารถบอกได้ว่า ส.ส.เท่าที่เคยมี เอาแค่ใน จ.สุราษฎร์ธานี ไม่มีใครทำงานให้ประชาชนได้เท่าตน
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ในเรื่องปัญหาราคายาง ไม่มีนักการเมืองคนไหนในประเทศไทยเลยที่ออกมาต่อสู้ในเรื่องนี้เพื่อพี่น้อง สามารถขายยางได้ราคาแพง มีตนคนเดียวที่ทำได้ ปี 2552 ยางพาราขายได้กิโลกรัมละ 41 บาท ไม่มีใครสักคนที่จะมาเป็นเจ้าภาพแก้ปัญหาราคายาง มีแต่ตนที่ทำ และสามารถทำให้ราคายางจากกิโลกรัมละ 39 - 41 บาท จนขายได้ 180 บาท วันนั้นเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ดีมาก แต่ตนต้องทำงานหนักเมื่อรับหน้าที่แก้ปัญหาราคายาง ทั้งที่วันนั้นไม่ได้เป็นรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ แต่เป็นรองนายกฯ ด้านความมั่นคง แต่เมื่อไม่มีคนทำ ตนอาสาทำเอง ลงทุนเอง บอกพ่อค้าห้ามไปขายยางล่วงหน้า บอกพ่อค้าให้ซื้อยางเก็บเข้าสต็อกเพื่อมียางเข้าตลาด และพูดอย่างเป็นธรรมว่า ราคายางพาราไม่ได้ตกในสมัยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ วันที่ตนพ้นตำแหน่งรองนายกฯ เลือกตั้งปี 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นนายกฯ ราคายางตกทันที เพราะแต่งตั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาดูเรื่องการแก้ปัญหายางพารา นอกจากแก้ไม่ได้ ยังผลาญเงินกองทุนไปหมด
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ยังมีคนออกมาบอกว่า เพราะตนที่ออกไปเดินขบวนเลยทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกฯ ยางก็เลยไม่ขึ้น ตนก็เลยบอกว่า เมื่อมากล่าวหากันอย่างนี้ ก็ต้องชี้แจงตามข้อเท็จจริง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาล แน่นอนอาจจะแก้ปัญหาเรื่องราคาสินค้าเกษตรไม่ดี ก็อาจจะไม่เข้าใจ คนที่มาใช้งานก็อาจจะไม่รู้ แต่เขาก็ทำเรื่องอื่นให้กับประเทศไทย เราก็ต้องการเวลา ตอนนี้จะถึงเวลาเลือกตั้งใหม่แล้ว จะต้องมีรัฐบาลใหม่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่เราต้องมานั่งคิดว่าทำอย่างไรให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น
นายสุเทพ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ด่าตนกันมาก ไปเป่าหูประชาชน ไปออกสื่อ ไปด่าตนว่าตระบัดสัตย์ ไหนบอกว่าไม่เล่นการเมือง กลับมาเล่นทำไม ตนก็จะพูดความจริงให้พี่น้องฟังว่า ตอนที่เดินขบวนปี 56 - 57 ตนลาออกจากการเป็น ส.ส.และจากพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเลยว่าไม่กลับไปพรรคประชาธิปัตย์เป็น ส.ส.อีกแล้ว ออกมาต้อสู้กับพี่น้อง ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง ทำเพื่อต่อต้านระบอบทักษิณ ไม่ต้องการนักการเมืองเลวๆ มามีอำนาเหนือประเทศ โกงกินคอร์รัปชั่น ตนบอกประชาชนว่าการที่ออกมานำประชาชนครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะต้องการชื่อเสียงหรือต้องการอยากดัง ไม่ได้ทำเพื่อให้เป็นต้นทุนทางการเมืองในวันข้างหน้า วันนี้ก็ยังรักษาคำพูดว่า ตนประกาศว่าตนไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.ระบบใดๆ ทั้งนั้น ตนเป็นเพียงที่ปรึกษาของพรรคการเมือง ของประชาชน เป็นโค้ช ช่วยให้ประชาชนมีพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง เพราะพรรคการเมืองที่มีอยู่ในเวลานี้ มันใช้ไม่ได้ ประชาชนพึ่งไม่ได้ มันหลอกต้มประชาชนทุกสมัย เวลาเลือกตั้งคิดวาทกรรมสวยหรู คำขวัญสวยหรู แต่ประชาชนก็ยังจนอยู่ทุกวัน เจ้าของพรรคสั่งอะไรมันก็ทำ
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาพรรคเรามีการหาทุนด้วยการระดมทุนจัดงานเลี้ยงเพื่อหารายได้มาเป็นทุนในสมัคร ส.ส.พรรคเราไม่มีการทำอะไรที่ผิดกฎหมาย หรือมิบังควร พูดถึงเรื่องที่มิบังควรน่าเวทนามาก น่าประณาม มันจะเห็นความอำมหิตของ นายทักษิณ ชินวัตร วันนี้หนีไปอยู่ดูไบ ทุกลมหายใจคิดจะมีกลับมามีอำนาจในประเทศ ทำทุกอย่างเพื่อให้ชนะเลือกตั้ง จะได้กลับมายึดประเทศไทย มีพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว กลัวว่าคนจำได้ คนไม่เลือก ใช่หลักแตกใบพันเป็นใบร้อย แล้วมันทำจริง มันรับเอง อย่างพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคไทยรักษาชาติ นี่เป็นการต้มประชาชน หากไม่ชอบพรรคนี้ ก็เลือกพรรคนั้น ประชาชนก็รู้แล้ว ตอนนี้ทำหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา เรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ที่เป็นการสร้างความแตกแยกในประเทศ ตั้งใจทำลายสถาบัน ถึงได้บอกว่านี่มันอำมหิต
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีสื่อมาสัมภาษณ์ว่า เลือกตั้งครั้งนี้เขาบอกว่าจะต้องจะมีรัฐบาลแห่งชาติ จะต้องเอาทุกพรรคมา ตนบอกเลยว่า เพ้อเจ้อ เราไม่เอา ตนบอกแล้ว เมื่อเลือกตั้งแล้วก็ต้องมีฝ่ายรัฐบาล มีฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านคอยควบคุมรัฐบาล ฝ่ายรัฐบาลมีหน้าที่บริหารประเทศ แต่แน่นอนที่สุด พรรครวมพลังประชาชาติไทย จะไม่ร่วมรัฐบาลกับทุกพรรคที่เป็นของนายทักษิณ ทุกพรรค พรรคพวกนี้ทำลายชาติ ไม่เคารพสิ่งที่เราเคารพ คบกันไม่ได้ คนละความคิดกับเรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี