22 ก.พ. 62 นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. เป็นประธานการประชุมพรรคการเมือง เพื่อจับสลากเลือกคำถาม ในการประชันนโยบายที่กกต. จะจัดขึ้นให้กับ 54 พรรคการเมือง ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และแจ้งความประสงค์ที่จะร่วมเวทีประชันนโยบายของกกต. โดยการจับคู่พิจารณาจากจำนวนการส่งผู้สมัครของพรรคการเมือง ซึ่งหัวข้อการประชันแบ่งเป็น 6 ด้าน คือ ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การเกษตร และ สาธารณสุข
โดยพรรคการเมือง จะพบกันในลักษณะ 2 พรรค และ 3 พรรค จะเริ่มบันทึกเทปตั้งแต่วันที่ 26ก.พ. -4 มี.ค. และจะนำไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ 21 สถานี สถานีวิทยุ 7 สถานี และช่องยูทูป ตั้งแต่วันที่ 15 - 21 มี.ค. โดยพรรคการเมืองสามารถส่งผู้แทนของพรรค หัวหน้าพรรค หรือผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อป็นแคนดิเนตนายกของพรรคเข้าร่วมดีเบตได้
ทั้งนี้ผลการจับคู่ ประชัน 6 นโยบายบริหารประเทศ 1.นโยบายด้านศึกษา คู่ที่ 1. พรรคพลังท้องถิ่นไท - พรรคประชานิยม คู่ที่ 2.พรรคแผ่นดินธรรม -กรีน คู่ที่ 3.พรรคมติประชา - พรรคคลองไทย คู่ที่ 4.พรรคภาคีเครือข่ายไทย - พรรครวมใจไทย
2. ด้านการเกษตร คู่ที่ 1.พรรคอนาคตใหม่ - พรรคประชาชนปฏิรูป คู่ที่ 2.พรรคประชาชาชาติ - พรรคไทรักธรรม คู่ที่ 3.พรรค ถิ่นกาขาวชาววิไล - พรรคกลาง คู่ที่ 4 พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย - พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย
3.ด้านสังคม คู่ที่ 1รักษ์ผืนป่าประเทศไทย - พรรคเพื่อชาติ คู่ที่ 2. พรรคพลังประชารัฐ - พรรคประชาภิวัฒน์ คู่ที่ 3.พรรคภราดรภาพ - พรรคไทยธรรม คู่ที่ 4พรรคทางเลือกใหม่ - พรรคประชากรไทย คู่ที่ 5.พรรคพลังรัก - พรรคพลังแรงงานไทย คู่ที่ 6 พรรคผึ้งหลวง - พรรคชาติพันธุ์ไทย
คู่ที่ 7.พรรคประชาไทย - พรรคพลังไทยดี
4.ด้านเศรษฐกิจ คู่ที่ 1. พรรคภูมิใจไทย -พรรคเสรีรวมไทย- พรรคประชาธิปัตย์ คู่ที่ 2. พรรคเศรษฐกิจใหม่ - พรรคพลังชาติไทย คู่ที่ 3.พรรคเพื่อไทย - พรรคไทยศรีวิไลย์ คู่ที่ 4 พรรคพลังธรรมใหม่ - พรรคความหวังใหม่ คู่ที่ 5.พรรคคนงานไทย - พรรคไทยรักชาติ - พรรคเพื่อแผ่นดิน
5.ด้านความมั่นคง คู่ที่ 1.พรรคครูไทยเพื่อประชาชน - พรรคชาติไทยพัฒนา คู่ที่ 2. พรรคประชาธรรมไทย - พรรคประชาธิปไตยใหม่ คู่ที่ 3.พรรคพลังปวงชนไทย - พรรคชาติพัฒนา คู่ที่ 4.พรรคพลังไทยรักชาติ - พรรคฐานรากไทย คู่ที่ 5.พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย - พรรคพัฒนาประเทศไทย คู่ที่ 6. พรรคพลังครูไทย - พรรคพลังสังคม 6.ด้านสาธารณสุข ไม่มีพรรคไหนจับได้
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐจะสามารถมาร่วมดีเบตในเวทีนี้ได้หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า กฎหมายไม่ได้ห้ามส่วนการตรวจสอบกรณีพรรคพลังประชารัฐถูกร้องเรื่องการจัดระดมทุนโต๊ะจีน นายแสวงกล่าวว่า เรื่องการระดมทุน และการบริจาค กกต.มีมาตรฐานการตรวจสอบเดียวกันใช้กับทุกพรรค ซึ่งก็ต้องอาศัยเวลาตรวจสอบถึงที่มาของเงิน ใครบริจาคบ้างมีคนต่างชาติร่วมบริจาคด้วยหรือไม่ ส่วนที่ร้องว่าพล.อ.ประยุทธ์ ขาดคุณสมบัติการเป็นแคนดิเดตนายกเพราะเป็นหัวหน้าคสช.เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น ก็ทราบว่า เป็นเรื่องที่มีผู้ร้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน
ขณะที่กรณีพรรคอนาคตใหม่ลงประวัตินายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เกินความเป็นจริงนั้น ยังไม่ตรวจสอบว่ามีผู้ร้องมาแล้วหรือไม่ แต่ถ้าเป็นกรณีความปรากฎหรือมีเหตุสงสัยกกต.สามารถตรวจสอบเองได้ แต่ในชั้นนี้ขอยังไม่ให้ความเห็นว่าเป็นความผิดหรือยัง
อย่างไรก็ตาม กกต.ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ และได้มีการแจ้งลบข้อความ และโพสต์ ที่ผิดกฎหมายและมีลักษณะต้องห้ามโดยออกคำสั่งไปแล้วหลายฉบับ เพื่อปกป้องผู้สมัครและพรรคการเมืองที่สุจริต ซึ่งมีจำนวนมาก แต่ที่ยากคือการโยงไปถึงผู้กระทำผิด และการลบข้อความในทันทีเพราะต้องประสานไปยังหน่วยงานของรัฐและเจ้าของเว็ปไซด์ ซึ่งบางรายอยู่ในต่างประเทศ
ต่อข้อถามกรณีที่พรรครวมใจไทยยื่นขอให้กกต.พิจารณาเสนอศาลรํฐธรรมนูญสั่งยุบ 12 พรรคการเมืองที่มีการแก้ไขฐานข้อมูลสมาชิกพรรคเพื่อให้ผู้สมัครมีคุณสมบัติในการลงสมัครนั้น นายแสวง กล่าวว่า ยังไม่เห็นเรื่อง และยังไม่ขอพูดเรื่องนี้
เมื่อถามต่อกรณีหากศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามกกต.ที่ไม่ประกาศรายชื่อผู้สมัครเนื่องจากขาดคุณสมบัติ ผู้สมัครรายนั้นจะมีความผิดหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า มีความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มาตรา 151 ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายกฎหมายที่จะต้องเป็นผู้พิจารณาหลังศาลฎีกามีคำพิพากษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.กำหนดว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปีปรับตั้งแต่ 2 หมื่น-2แสน และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 10 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี