‘สนธิรัตน์’ลุยบางบอน ปลุกคนเลือก พปชร.สานต่อบัตรคนจน-ล้างคราบ‘เมืองนักเลง’
เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น.วันนี้(3 มี.ค.62) ที่ตลาดเช้าวัดหนองแขม นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายวัชระ กรรณิการ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 26 บางบอน หนองแขม พรรค พปชร. หมายเลข 14 ลงพื้นที่พบปะประชาชนและผู้ค้า โดยได้รับความสนใจมากพอสมควร โดยการลงพื้นที่วันนี้นายสนธิรัตน์ และทีมงานผู้สมัคร ชูนโยบายบัตรประชารัฐหรือบัตรคนจนมาขอคะแนนเสียง โดยนายสนธิรัตน์ระบุว่าเป็นคนต้นคิดและเป็นเจ้าของบัตรคนจน 14 ล้านคน ที่ทุกคนได้อานิสงค์ วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยมเยียนชาวตลาดหนองแขม และถ้าอยากปรับเปลี่ยนหนองแขมและบางบอนก็จะต้องเลือกคนของพรรคเข้าไปทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร
“ถึงเวลาต้องเปลี่ยนบางบอน ถ้าไม่อยากให้บางบอนเป็นเมืองนักเลง หรือเมืองอิทธิพลก็ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสานต่อนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งผมเป็นคนริเริ่ม แต่พรรคอื่นกลับจะให้ยกเลิก” นายสนธิรัตน์ กล่าวระหว่างหาเสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับป้ายหาเสียงที่ทีมงานของผู้สมัครใช้ในการเดินเท้าเพื่อพบปะประชาชนและขอคะแนนเสียงในวันนี้มีทั้งป้าย “เปลี่ยนคนเก่า” , “ไม่เอาคนเกเร” , “เลือกคนใหม่”
หลังจากเดินพบปะบรรดาผู้ค้าที่ตลาดวัดหนองแขม นายสนธิรัตน์และผู้สมัครได้แวะรับประทานข้าวต้มและโจ๊กร่วมกับผู้นำและชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งได้รับฟังการสะท้อนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆจากชาวบ้าน ซึ่งบางส่วนได้ร้องทุกข์ถึงปัญหาการเป็นเมืองนักเลงของย่านหนองแขมบางบอน รวมทั้งปัญหาเรื่องปากท้องและการค้าขาย
โดยนายสนธิรัตน์ ยืนยันว่า หากทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไขปัญหาก็จะสามารถคลี่คลายไปได้ ทั้งนี้ถ้าเลือกพรรค พปชร.ก็จะมีการสานต่อบัตรพลังประชารัฐ การเพิ่มรายได้และแก้ปัญหาต่างๆในแต่ละพื้นที่ให้ดีขึ้น เนื่องจากพรรค พปชร.มีทีมงานของคนรุ่นใหม่ซึ่งมีแนวคิดต่างๆที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนทุกทุกพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการลงพื้นที่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.หนองแขมมาสังเกตการณ์บริเวณตลาด พร้อมถ่ายรูปขณะนายสนธิรัตน์และทีมงานกำลังหาเสียงและรับประทานอาหารเช้า
นายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคพลังประชารัฐอาสามาทำให้กรุงเทพต้องดีกว่าเดิม การลงพื้นที่หนองแขมวันนี้เพื่อเป็นการรับฟังปัญหา และมาดูว่าในพื้นที่นี้จะเชื่อมโยงกับการทำงานของพรรคอย่างไร โดยจากที่ตนลงพื้นที่ต่างๆในกทม.พบว่าปัญหาใหญ่คือการขาดการเชื่อมโยง ระหว่างผู้นำชุมชนในพื้นที่กับผู้แทนในอดีต ซึ่งตรงนี้ พปชร.จะใช้เป็นนโยบายหลัก ในการเชื่อมโยงแกนนำของชุมชน และปัญหาของพื้นที่ เข้าสู่การบริหารจัดการ และพรรคจะขับเคลื่อน แก้ปัญหาถ้าหากมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล
“ในส่วนของพื้นที่นี้ ปัญหาใหญ่คือเรื่องน้ำเสีย ที่นี่มีคลอง แต่น้ำนั้นเสีย นอกจากนี้ที่นี่ยังขาดการพัฒนาการยกระดับมาเป็น10ปี น้ำท่วม น้ำขัง หรือกระทั่งเรื่องของยาเสพติดที่ระบาดอยู่ในชุมชนสิ่งเหล่านี้เราต้องเชื่อมโยงกันแก้ปัญหา” นายสนธิรัตน์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ ในเรื่องเมืองนักเลง อย่างไร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า มันเป็นความรู้สึกของชาวบ้านที่ไม่อยากให้คนมองว่าพื้นที่บางบอนและหนองแขมเป็นพื้นที่อิทธิพล ตนจึงบอกกับชาวบ้านว่าให้เชื่อมั่นว่าจริงๆแล้วเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น และเราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงให้ภาพลักษณ์นั้นไม่ใช่เป็นอย่างเดิม นี่คือเสียงความรู้สึกจากชาวบ้านว่าเขาอยู่ที่ตรงไหน ก็คิดว่าเป็นอย่างนั้น ซึ่งถ้าไม่ได้เป็นก็จะรู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อถามว่า ประเมินตัวผู้สมัครอย่างไรบ้าง เพราะไม่เคยมีฐานเสียงมาก่อน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า นายวัชระทำงานหนัก และยากพอสมควร แต่ด้วยความตั้งใจเขาเดินเข้าหาประชาชน ซึ่งขณะนี้เสียงตอบรับในตัวนายวัชระสูงมาก เพราะเขาอยากเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเดิมๆไปสู่สิ่งใหม่ๆนายวัชระจึงกลายเป็นความหวังใหม่ในพื้นที่ และตนมั่นใจว่าเวลาที่เหลือจนถึงวันเลือกตั้ง หากนายวัชระยังเดินเข้าหาประชาชนอย่างนี้ มั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในเขตนี้แน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี