ศึกการชิงพื้นที่ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ที่มีจำนวนถึง 14 เขตเลือกตั้ง ซึ่งมีพื้นที่เขตเป็นรองเพียงกรุงเทพมหานครเท่านั้น โดยที่ผ่านมาถือเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ของบรรดาพรรคการเมืองใหญ่ ทั้งเพื่อไทย ชาติพัฒนา และภูมิใจไทย แต่สำหรับครั้งนี้ ด้วยระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “จัดสรรปันส่วนผสม”ที่ทุกคะแนนเสียงมีค่า ทำให้หลายต่อหลายพรรคการเมืองต่างต้องเข้าร่วมลงศึกชิงพื้นที่ในครั้งนี้ โดยในวันนี้เราจะหยิบยกในเขตเลือกตั้งที่ 8-14มาวิเคราะห์กัน

ทั้งนี้ต้องเท้าความเดิม พรรคเพื่อไทย (พท.) แชมป์เก่าการเลือกตั้งปี 2554 คว้า สส. เขตเมืองนครราชสีมา 8 คน, ส่วนพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ได้ สส. 4 คน และพรรคภูมิใจไทยได้ 3 คน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ พรรคน้องใหม่แต่มีอดีต สส.นครราชสีมา อย่างน้อย 7-8 คน ทั้งในระบบปาร์ตี้ลิสต์และแบบแบ่งเขต

สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้เมื่อมองภาพแล้วตามการคาดการณ์ช่วงโค้งสุดท้าย ว่าที่ สส.นครราชสีมา เขต 8-14 พบว่า เขต 8 พรรคพลังประชารัฐส่ง นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ หมายเลข 16 อดีตนายกเทศมนตรีตำบลห้วยแถลง ภรรยาเจ้าของปั๊มปตท.ใหญ่ที่สุด น้องสาวของนางทัศนียารัตนเศรษฐ ภรรยานายวิรัช รัตนเศรษฐและพรรคภูมิใจไทย ส่งนายพลพีร์ สุวรรณฉวี หมายเลข 1 อดีต สส.พรรคเพื่อไทย บุตรชาย ร.ต.หญิง ระนองรักษ์สุวรรณฉวี นายก อบจ.นครราชสีมา และนายประชาธิปไตย คำสิงห์นอก พรรคเพื่อไทย ตัวแทรกที่มาแรง เขตนี้เป็นอีกเขตที่แรงมาก โดยเฉพาะการต่อสู้หาเสียงที่น่าจะรุนแรงมาก ฟันธงสนามนี้ลูกชู้ตโด่ง “พลพีร์” จะคว้าชัย  

เขต 9 พรรคเพื่อไทย ส่ง นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด หมาเยเลข 3 อดีต สส.หลายสมัย และมือทำงานของพรรค, พรรคพลังประชารัฐ ส่งนายบุญจงวงศ์ไตรรัตน์ หมายเลข 12 อดีต สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย คนที่มีกลเม็ดในการหาเสียงลึกซึ้ง นิ่มนวลชาวบ้านในพื้นที่ยังไว้เนื้อเชื่อใจ โดยเฉพาะท้องถิ่นตอบรับดี เขตนี้เจ้าของพื้นที่และเป็นแชมป์เก่าหลายสมัยอย่าง “บุญจง” มีภาษีและโอกาสดีกว่า      

เขต 10 พรรคภูมิใจไทย ส่งนายพรชัย อำนวยทรัพย์ หมายเลข 3 อดีต สจ. เขต อ.ครบุรี ประกาศก้องจะเป็น สส.มันสำปะหลัง เพื่อพี่น้องเกษตรกรชาวมันสำปะหลัง และเกษตรกรอื่นๆ ข้าว ยางพารา อ้อย ปาล์มน้ำมัน อยู่ในพื้นที่มานานกว่า 10 ปี พกความมั่นใจมาก และพรรคพลังประชารัฐ ส่ง “แรมโบ้อีสาน” นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หมายเลข 2 อดีตแกนนำคนเสื้อแดง นปช. อีสาน อดีต สส.พื้นที่หลายสมัย คนไม่ธรรมดา ได้ใจชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ชาวบ้านเอ็นดูมาก การหาเสียงไม่เหนื่อย เขตนี้ทั้ง “แรมโบ้อีสาน” และ นายพรชัย สองคนเพื่อนซี้ต้องแข่งกันดุเดือด ฝ่ายแรกโอกาสค่อนข้างดีกว่า แต่มองข้ามฝ่ายหลังไม่ได้เหมือนกันหากฟันธง “แรมโบ้อีสาน”

เขต 11 พรรคพลังประชารัฐ ส่ง “สส.เบี้ยว” นายสมศักดิ์ พันธุ์เกษม หมายเลข 1 ได้แรงหนุนของนายประนอม โพธิ์คำ ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์พรรค อดีตคู่แข่งกันหันมาเป็นเพื่อนจับมือแนบแน่น ส่วนพรรคภูมิใจไทย ส่ง นายนรเสฎฐ์ ศิริโรจนกุล หมายเลข 8 ทายาทเจ้าของโรงมันสำปะหลังรายใหญ่ในพื้นที่ แม้มีนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ อันดับ 7 เจ้าของโรงแป้งมันรายใหญ่ระดับเศรษฐีพันล้านช่วยเต็มที่ แต่ช่วงเวลาหาเสียงน้อย เขตนี้แชมป์เก่าฟันธงได้เลย “สมศักดิ์” ฉลุย    

เขต 12 พรรคเพื่อไทย ส่งนายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ หมายเลข 5 อดีต สส.พื้นที่นี้ที่มีเสียงค่อนข้างปึ้กกับชาวบ้านใน 12 ตำบล และได้กระแสพรรค บวกกับกลุ่มคนเสื้อแดงเทคะแนนสมทบให้, ส่วนพรรคภูมิใจไทย ส่ง นายมิชา พงษ์สว่าง  หมายเลข 1 อดีต นายก อบต.หนองสาหร่าย ยังไม่เจนสนามใหญ่ ช่วงนี้พยายามตีเอาเสียงรอบนอกเพื่อจะให้ได้เป็นกอบเป็นกำที่สำคัญ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรค มีบ้านอยู่เขตนี้จะต้องทำทุกอย่างให้มีตัวแทน แต่ซาวเสียงค่อนข้างหนักอึ้งสำหรับ “ศิรสิทธิ์”คนเดิมหน้าเดิมจะรั้งไว้ได้ไม่ยากเย็น

เขต 13 พรรคเพื่อไทย นายรัชตะด่านกุล หมายเลข 8 ฐานเสียงดีจัดแบบเต็ม สู้เต็มที่, พรรคภูมิใจไทย ส่ง หมายเลข 11 นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ เจ้าของพื้นที่มั่นใจเสียงในพื้นที่ โดยเขตนี้ค่อนข้างสดใสชั้นเชิง “วิสิทธิ์” แชมป์เก่ายิ้มแก้มปริรอแล้ว 

สุดท้าย เขต 14 พรรคเพื่อไทยส่ง นายสุชาติ ภิญโญ  หมายเลข 11อดีต สส. หลายสมัยมากด้วยประสบการณ์ใกล้ชิดชาวบ้านมีดีที่ดีกรีแรง, พรรคชาติพัฒนา ส่ง นายอุทัย มิ่งขวัญหมายเลข 16 อดีต สส.เหมือนกันมือทำงาน ขุนพลคู่กาย “สุวัจน์” ที่ชู “No problem” โคราชต้องชาติพัฒนาไว้เนื้อเชื่อใจมาก ถึงขั้นขอสู้ยิบตา สู้แบบไม่เกรงใจ สนามเขตนี้อยู่ที่ชั้นเชิงชิงไหวชิงพริบใครที่จะเหนือกว่า ขุมพลังมีด้วยกันทั้งคู่ โอกาสที่ “สุชาติ” ไปได้สวยไปนั่งเล่นมือถือในสภาฯ