การเมืองทุบศก.
รบ.อัดฉีด2หมื่นล.กระตุ้น
พิษการเมืองทุบเศรษฐกิจ เผยสัญญาณจีดีพี ชะลอตัวไตรมาส 1-2 โตเพียงร้อยละ 3 ด้านรัฐบาลนั่งไม่ติด เตรียมชงครม.อัดฉีดงบอีก 2 หมื่นล้านหวังกระตุ้นในช่วง 3 เดือนนี้ผ่านโครงการช้อปช่วยชาติ “อภิศักดิ์”ชี้ถ้าไม่รีบพยุงจะดึงกลับมาลำบาก ด้านผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ระบุหากตั้งรัฐบาลใหม่ยืดเยื้อถึงส.ค.-ก.ย.กระทบแน่
เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงการคลังหลังพบว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปีเศรษฐกิจชะลอตัวจากหลายปัจจัยทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองว่า ขณะนี้พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังเข้มแข็ง เป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค การใช้จ่ายงบประมาณยังเป็นไปตามเป้าหมาย รัฐบาลจึงต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจเกิดการสะดุด และส่งไม้ต่อให้รัฐบาลชุดใหม่ขับเคลื่อนต่อไปได้
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งศึกษามาตรการเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า หวังดูแลทั้งด้านกำลังซื้อเพื่อกระตุ้นการบริโภค การท่องเที่ยว การใช้จ่าย ผู้ถือบัตรสวัสดิการ ภาคอสังหาริมทรัพย์การลงทุนบางส่วน
นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กรมสรรพากรเร่งรัด และศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีจากการค้าขายออนไลน์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เพราะการค้าออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องนับล้านรายการ แต่ขณะนี้ข้อมูลการค้าและจัดเก็บภาษียังทำไม่ได้ จึงให้ประสานกับกฤษฎีกา เร่งรัดภาษีออนไลน์ ไม่ได้หวังรังแกรายย่อย แต่ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเพื่อจัดเก็บภาษีตามจริงที่เกิดขึ้น
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานที่ประชุมคาดว่าจีดีพี ไตรมาส 1-2 อาจเติบโตกว่าร้อยละ 3 หากปล่อยให้ทรุดตัวแม้เพียงช่วง 2-3 เดือนจะใช้เวลาและกำลังดึงกลับมาลำบาก จึงต้องพยุงให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้ เพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่บริหารได้อย่างไม่มีปัญหา และมาตรการชุดนี้แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการยังสามารถดำเนินการได้ เพื่อดูแลเศรษฐกิจของประเทศ
“รัฐบาลเตรียมขยายมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อนำรายจ่ายท่องเที่ยวมาหักลดหย่อนภาษีและมาตรการต่างๆ จากการส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง ให้ครอบคลุมการท่องเที่ยวทุกจังหวัดทั่วประเทศ คาดว่าจะใช้เงินงบประมาณทั้งหมดประมาณ 20,000 ล้านบาท” นายอภิศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ยังมีภาษีช่วยเหลือด้านการศึกษาโดยต้องออกมาในช่วงก่อนเปิดเทอม เพื่อลดภาระให้กับผู้ปกครองในการซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียน กีฬาผ่านมาตรการช้อปช่วยชาติ ลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อหนังสือให้ยาวต่อเนื่องตลอดทั้งปีเพื่อส่งเสริมการอ่าน รวมทั้งมอบหมายให้แบงก์รัฐ ทั้งธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นกลไกหลักสำคัญในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อซื้อบ้านผู้มีรายได้น้อย โดยมาตรการทุกด้านจะสรุปได้ทั้งหมดเร็วๆนี้
ด้านนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าขยายตัวร้อยละ 3.8 สอดคล้องกับศักยภาพ โดยเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าครึ่งแรก เนื่องจากจะมีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าในช่วงครึ่งแรกของปี ซึ่งหากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในเดือนมิถุนายน ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อประมาณการเศรษฐกิจไทยประเมินไว้
ทั้งนี้ หากล่าช้าหรือเลื่อนออกไปถึงส.ค.หรือก.ย.จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งเรื่องการการลงทุนในโครงการใหม่ๆของภาครัฐ โครงการที่อยู่ในงบปีฯ 63 ซึ่งจำเป็นต้องให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบและทำให้การใช้งบประมาณในโครงการใหม่ๆ ต้องเลื่อนออกไป อีกทั้งยังมีนโยบายบางส่วนที่ภาคเอกชนยังรอความชัดเจนจากรัฐบาลใหม่ที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ เช่น การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ รวมทั้งยังมีหลายประเทศที่เป็นคู่เจรจากับไทยรอการเจรจาการค้ากับรัฐบาลใหม่ ดังนั้นหากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ชัดเจนและล่าช้ายาวนาน อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในปีนี้ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี