คำนวณสส.ปาร์ตี้ลิสต์เอง
กกต.เดินหน้า
หลังศาลรธน.ไม่รับวินิจฉัย
จับตาเคาะสูตร‘กรธ.’
พรรคเล็กได้อานิสงส์
จี้งดรับรองสส.‘อนค.’
กกต.เดินหน้าคำนวณ สส.ปาร์ตี้ลิสต์เอง หลังศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับวินิจฉัย พร้อมสั่งสำนักงานรวบรวมทุกสูตรที่มีผู้เสนอ ระบุสูตรของกรธ.แค่ทางเลือกหนึ่ง เชื่อประกาศ สส.ได้ทัน 9 พฤษภาคม ขณะที่“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอ.น.ค.และลูกทีมอาการหนักภาคประชาชนยื่นร้องกกต.งดประกาศผลเลือกตั้งทั้งพรรค ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อบ่ายวันที่ 25 เมษายนนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต.แถลงภายหลังการประชุม กกต.ว่า ที่ประชุมได้รับทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ที่ไม่รับคำร้องของกกต.เรื่องการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ทางกกต.จึงจะต้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในการคำนวณจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อภายหลังการประกาศผลเลือกตั้งส.ส.แล้ว
โดยจะคำนึงถึงวิธีการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 ที่สำนักงานกกต.เสนอให้กกต.พิจารณาหรือวิธีการคำนวณอื่นๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้ได้จำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแบบครบถ้วน ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งที่ประชุม กกต. มอบหมายให้สำนักงานไปศึกษาวิธีคำนวณที่มีนักวิชาการ พรรคการเมืองเสนอ และระบุว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญว่าวิธีเหล่านั้นถูกต้องตามรัฐธรรมนูญจริงหรือไม่ ซึ่งบุคคลที่เสนอได้ส่งวิธีคำนวณให้ กกต. แล้ว อย่างไรก็ตามผู้ที่เสนอก็ล้วนแต่อ้างว่าของตนถูกต้องตามมาตรา 128 ของพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส.แต่คิดคำนวณออกมาได้ต่างกัน
เล็งยึดสูตรตามแนวทาง’กธร.’
นายแสวงกล่าวว่า ในส่วนของสำนักงาน กกต. การคำนวณตามแบบของ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของ กกต. เพราะวิธีการนี้ได้เสนอมาตลอด 2 ปี ไม่เคยมีการโต้แย้ง รวมทั้งได้มีการเผยแพร่พรรคการเมืองที่ได้ติดตามก็น่าจะทราบสูตรอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีผลคะแนนการเลือกตั้งออกมา แต่เมื่อมีการเลือกตั้งออกมาแล้วและมีการเอาผลคะแนนไปคิดตามวิธีการดังกล่าว กลับโดนทักท้วงาไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่และมีการนำเสนอวิธีการคำนวณของตัวเอง โดยบอกว่าสิ่งนี้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ โดย กกต. ให้ไปดูแล้วนำมาเสนอกกต. ด้วย กรอบเวลาเรื่องนี้คงต้องดำเนินการโดยเร็ว เพราะถึงอย่างไรวันที่ 9 พ.ค.กกต. ต้องประกาศส.ส.ทั้งสองระบบไม่น้อยกว่าร้อยละ 95
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ กกต. ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตรา 128 ของพ.ร.ป.ส.ส.ขัดกับมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ เมื่อศาลวินิจฉัยว่าเป็นอำนาจ กกต. เราจะพยายามหาสูตรที่ไม่ขัดกฎหมาย และหากหาได้ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นพูดเรื่องกฎหมายลูกขัดกับรัฐธรรมนูญ ส่วนเมื่อกกต.ประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว มีผู้ที่เห็นว่าการคำนวณจัดสรร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ถูกต้องก็มีสิทธิไปร้องต่อศาลได้
กรณีธนาธรต้องพิสูจน์ให้จบ
นายแสวงกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กกต. มีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามหลังวันเลือกตั้งได้หรือไม่ หรือทำไมไม่ตรวจสอบให้เสร็จสิ้นในวันรับสมัครเลือกตั้งในคราวเดียว ทั้งนี้เรื่องคุณสมบัติวันสมัครรับเลือกตั้ง กกต.สามารถตรวจสอบคุณสมบัติได้ เพราะมีเอกสารรับรองหรืออ้างอิงทุกรายการ ส่วนลักษณะต้องห้าม กกต. จะตรวจสอบได้เพียงจากข้อมูลของหน่วยรัฐ ซึ่งมี 23 หน่วยงาน แต่ถ้าเป็นข้อมูลอยู่ในความครอบครองของเอกชน กกต.ไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงต้องให้ผู้สมัครรับรองตัวเอง หากภายหลังปรากฏว่าเป็นผู้มีลักษณะต้องห้าม เป็นเหตุฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง กกต. มีอำนวจดำเนินการไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังเลือกตั้ง หรือวันประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรือง หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นกรณีที่มีผู้ร้องว่าอาจมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายและพรรคการเมือง จึงต้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้สิ้นกระแสข่าว
แจงนับคะแนน-เลือกตั้งใหม่
นายแสวง กล่าวอีกว่า การที่มีข้อสังเกตกรณีที่ กกต. สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ และสั่งนับคะแนนใหม่ และสั่งระงับสิทธิผู้มีสิทธิเลือกตั้งไว้ชั่วคราวว่า กกต.ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการหาเสียงให้แก่ผู้สมัครและพรรคการเมือง ทำให้ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองไม่มีแนวทางในการปฏิบัติกับเรื่องดังกล่าวนั้น กรณีนี้กกต.ได้ออกระเบียบกกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ออกตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 71 กรณีการให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน ไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อมแก่ผู้ใด ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันใด รวมถึง ม.73 กำหนดไว้ว่า การช่วยเหลือเงิน หรือทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ แก่ผู้ใดตามประเพณีต่างๆ กระทำมิได้ โดยกกต. ได้มีหนังสือตอบข้อหารือของพรรคการเมืองที่ได้มีหนังสือหารือ เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติตามข้อดังกล่าว และแจ้งให้พรรคการเมืองทราบพร้อมทั้งเผยแพร่ในเว็ปไซต์ของสำนักงานเป็นการทั่วไปก่อนการเลือกตั้งแล้วด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานวา สำหรับสูตรคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อตามแนวทางกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือ (กรธ.)นั้น เมื่อบวกลบคูณหารทั้งหมดแล้ว พรรคเล็กจำนวน 12 พรรค ที่หลายฝ่ายมองว่าไม่ควรได้สส.แต่กลับได้ ส.ส. เพราะเรื่องดังกล่าวอยู่ในสูตรของ กธร. และมีมานานแล้ว ที่ทุกคะแนนเสียงต้องไม่มีการเสียเปล่า
‘ศรีสุวรรณ’ให้ข้อมูลกกต.
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในวันที่26 เม.ย. เวลา 10.30น.กกต.เชิญตนไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติม กรณีที่สมาคมฯ ได้ร้องเรียนว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ถือครองหุ้นบริษัท วี-ลัคมีเดีย จำกัด ที่ประกอบธุรกิจสื่อ จึงอาจเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
ก่อนหน้านี้ สมาคมฯ ได้ยื่นร้องเรียนต่อ กกต. และส่งเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมไปแล้ว 3 ครั้ง เมื่อ กกต.ได้แจ้งข้อกล่าวหานายธนาธรไปเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา และให้ผู้ถูกกล่าวหาใช้สิทธิชี้แจงภายใน 7 วัน ดังนั้นการที่คณะกรรมการช่วยตรวจสอบสำนวนของ กกต.ขอให้ตนไปให้ข้อมูลเพื่อยืนยันในคำร้องตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด 2561 ให้เป็นการฟังความอย่างรอบด้าน ซึ่งหากที่สุดแล้ว กกต.ชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานและฟังข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนแล้ว และเชื่อได้ว่ามูลคำร้องมีน้ำหนักมากกว่า ก็จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิการสมัครรับเลือกตั้งของนายธนาธรต่อไป ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้เคยมีคำสั่งในลักษณะที่ใกล้เคียงข้อพิพาทนี้ไว้แล้ว ตามคำสั่งศาลฎีกาที่ 111/2562 , 1144/2562และ1228/2562 และอาจมีโทษทางอาญาฐานแจ้งหรือให้ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญาต่อไปด้วย
งดประกาศผลสส.อนาคตใหม่
นายสุรวัชร สังขฤกษ์ กลุ่มการเมืองภาคประชาชน ยื่นหนังสือถึงประธานกกต.เพื่อขอให้ระงับการรับรองผลเลือกตั้งของว่าที่ ส.ส.พรรคอนค.ซึ่งจะเข้าข่ายเป็นโมฆะ เนื่องจาก กกต.มีมติแจ้งข้อกล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค.กรณีถือหุ้นซึ่งเข้าลักษณะต้องห้ามเป็นผู้สมัคร สส.ซึ่งมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98วรรคสาม ดังนั้นการเลือกตั้งของพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมดเป็นโมฆะ เพราะนายธนาธรเป็นผู้ออกหนังสือรับรองในนามหัวหน้าพรรคให้กับผู้สมัครของพรรค มีความผิดทั้งในนามหัวหน้าพรรคและนิติบุคคล ซึ่งถือเป็นเอกสารเท็จ เพราะนายธนาธร ขาดคุณสมบัติ ขอให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบและส่งคำร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมส่งคำร้องไปยังศาลฎีกาให้ดำเนินคดีอาญากับหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ รวมถึง คณะกรรมการบริหารพรรคและเลขาธิการพรรคตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองด้วย
‘ปิยบุตร’ชวนสาวกให้กำลังใจ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ว่า “เย็นนี้ @Thanathorn_FWP จะถึงเมืองไทยประมาณ 19.00 น. สนามบินสุวรรณภูมิ ผดส.ขาเข้า เพื่อเดินหน้าต่อสู้ยืนยันความบริสุทธิ์กรณีโอนหุ้นต่อทางกกต. เรามั่นใจในข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และพยานหลักฐานทั้งหมด ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงแต่ร่วมกันเป็นกำลังใจ ยืนเคียงข้างธนาธรให้ผ่านพ้นไปให้ได้ครับ”
26เมย.นัดพิจารณาเลือกตั้งโมฆะ
นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึง ความคืบหน้าการชี้แจงคำร้องการเลือกตั้งโมฆะของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า กกต.ได้ส่งคำชี้แจงมาแล้วตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน โดยเจ้าหน้าที่จะนำคำชี้แจ้งมาเทียบเคียงคำร้อง ขณะนี้ เรามีหลายคำร้อง ล่าสุดนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งคำร้องมาในประเด็นที่คล้ายคลึงกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ ที่ให้พิจารณาว่า มาตรา 128 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 91 หรือไม่ รวมทั้ง คำร้องการเลือกตั้งโมฆะ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังประมูลข้อมูล
“วันที่26 เม.ย. เวลา 09.30 น.ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินได้นัดประชุมวาระพิเศษ เพื่อพิจารณาคำร้องดังกล่าว โดยพยานหลักฐานที่มีอยู่ เชื่อว่าน่าจะเพียงพอ จากนั้น จะแถลงให้ทราบว่า จะมีมติจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ ตามปกติผู้ตรวจการฯ จะมีการประชุมทุก 2 สัปดาห์ในวันอังคาร แต่เรื่องนี้เราตระหนักเรื่องกรอบเวลาจึงจะพิจารณาโดยเร็ว” นายรักษเกชา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี