“สมศักดิ์”ชี้ “พปชร.” มีความชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาล หลังขั้ว พท.เสียงวูบ เหลือไม่ถึง 250  ด้าน “สุริยะ”แย้ม ล่าสุด มีเสียงในมือ 254-255 แล้ว แย้งเสียงปริ่มน้ำไม่ใช่ปัญหา ขึ้นกับผลงาน รัฐบาล 

9 พ.ค.62 เมื่อเวลา 10.30 น.ที่รัฐสภาใหม่  นายสมศักดิ์  เทพสุทิน  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง กล่าวถึง ความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคพปชร. เป็นแกนนำว่า  ภายหลังจากที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ประกาศตัวเลข ส.ส.อย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้เกิดความมั่นใจว่าฝ่ายที่จะพยายามจัดตั้งรัฐบาลตั้งแต่แรกนั้น มีตัวเลข ส.ส.ไม่ครบ 250 เสียง ดังนั้นจึงเป็นความชอบธรรมของพรรค พปชร.ที่จะขยับมาจัดตั้งรัฐบาล ถือเป็นความชอบธรรมที่ปรากฏชัดเจนแล้ว  ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทย  พรรคอนาคตใหม่  มองว่าการประกาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ กกต. ใช้หลักเกณฑ์การคำนวณขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ควรพูดถึงประเด็นนี้กันแล้ว หากใครจะไปร้องเรียน ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่พรรค พปชร. ไม่เกี่ยวข้องแล้ว  ทั้งนี้มั่นใจว่า พรรค พปชร.ตั้งรัฐบาลได้แน่นอน มากว่า100 เปอร์เซ็นต์แล้ว 

เมื่อถามว่า การเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำจะทำให้มีปัญหาในการทำงานหรือไม่ นายสมศักดิ์  กล่าวว่า ที่ผ่านมา เคยมีรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน แต่ถ้าเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำแล้วบริหารจัดการดี  สามารถอยู่ได้ครบ 4 ปี ก็มีอยู่มาก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของรัฐบาลกับพรรคการเมืองให้ลงตัว  เรื่องการมีพรรคร่วมรัฐบาลจำนวนมากไม่ถือว่าเป็นอุปสรรค ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการให้ดี ก็จะอยู่ได้นาน  และเสียงที่ประชาชนพูดคุยกันก็ไม่ได้หวังว่ารัฐบาลจะอยู่ ได้ 4 ปีมาตั้งแต่แรก  แต่ส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลอยู่ได้นาน   เมื่อถามว่า การจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีให้กับพรรคร่วมรัฐบาลที่มีจำนวนมากจะเกิดปัญหาหรือไม่ นายสมศักดิ์  กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ที่การจัดตั้งรัฐบาลต้องแบ่งโควตารัฐมนตรีกัน ไม่มีรัฐบาลพรรคเดียว ถ้าเอื้ออาทรกันดีๆ ก็อยู่ได้นาน  ส่วนเรื่องที่มีชื่อตนเป็นรัฐมนตรีนั้น เวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึง ขอให้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรให้ได้ก่อน 

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวที่บุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรคือนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ  นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเชียร์ทุกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ทั้งนายสุชาติและคนอื่นๆ ทั้งนี้มั่นใจว่าการบริหารจัดการ ทางการเมืองหลังจากนี้ คงไม่มีอะไรยาก  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน   และมองว่าขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีบุคลากรเพื่อเป็นตัวเลือกในการทำงานมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์จากรัฐบาลดีขึ้นกว่าเดิม 

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ  ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สิ่งที่ห่วงกันเรื่องการเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ แล้วอาจอยู่ได้ไม่นานนั้น ตนมองว่าอยู่ที่ผลงานของรัฐบาลมากกว่า ถ้ารัฐบาลมีผลงานดี แก้ปัญหาประชาชน  ความยากจนได้ ประชาชนก็จะมั่นใจ รัฐบาลและพรรคการเมืองจะอยู่ได้นาน แต่ถ้ามีเสียงข้างมากแล้วเข้าไปทำเรื่องไม่ถูกต้อง เหมือนในอดีต ที่บางพรรคการเมืองมีเสียงมากกว่า 300 เสียง แต่ไปทำเรื่องหรือโครงการที่ไม่ถูกต้องก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะมีประชาชนออกมาต่อต้าน   มั่นใจว่าพรรคเล็กๆ อยากมาร่วมงานกับพรรค พปชร. ตัวเลขการจัดตั้งรัฐบาลของพรรค เท่าที่ประเมินในเบื้องต้นมีประมาณ 254-255 เสียง