"พุทธิพงษ์' มั่นใจ พปชร.รวมเสียง ส.ส.เกิน 251 ปักหมุดประเดิมโหวตเก้าอี้ประธานสภา เชื่อรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำไม่มีปัญหา แต่การทำงานในสภาต้องเคร่งครัด เชื่อปชป.ไม่จับมือ พท. ชู พปชร.เป็นทางเลือกเหมาะสมเพื่อประโยชน์ของประเทศ
9 พ.ค.62 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมารับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส. โดยให้สัมภาษณ์ถึงการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลว่า หลังจากที่ กกต. รับรอง ส.ส.แบบแบ่งเขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแล้ว เรามั่นใจว่าในช่วงระยะเวลาอันใกล้จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งมั่นใจว่าจะรวบรวมเสียง ส.ส.ได้ เกิน 251 เสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนการพูดคุยเจรจากับพรรคอื่นๆนั้น เราต้องให้เกียรติทุกพรรค พรรคเรามีแนวทางในการทำงานอยู่แล้ว ในส่วนของพรรคขนาดใหญ่และพรรคขนาดเล็กอื่นๆที่มีการทำงานที่ใกล้เคียงกัน ก็เชื่อว่าในระยะเวลาอันใกล้จะมีการพูดคุยกันให้เรียบร้อยมากขึ้น ส่วนการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลนั้น เราก็ต้องให้เกียรติ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีวัฒนธรรมและแนวทางการทำงานเป็นตัวของตัวเอง เป็นสถาบันทางการเมือง ในวันที่ 15 พ.ค. พรรคประชาธิปัตย์จะเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คงจะมีมติพรรคต่อไป ซึ่งจะต้องคอยดูความชัดเจน แต่ตนเชื่อว่าทุกคนในพรรคจะยึดมติพรรคเป็นข้อสรุป
อย่างไรก็ตามยอมรับว่า คาดการณ์ยากว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีมติอย่างไร เพราะดูจากผู้เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรคทั้ง 4 คน มีความแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรเราก็ต้องคอยและเคารพการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์
นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้นจะต้องรวบรวมเสียง ส.ส. ให้เกิน 251 เสียง เพื่อให้เกิดเสถียรภาพในการทำงาน โดยในครั้งแรกจะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเราจะต้องรวบรวมเสียงของพรรคแนวร่วมให้ได้ 251 เสียง เพราะการเลือกประธานสภาจะสะท้อนความเข้มแข็งของผู้ที่จะจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต ส่วนตำแหน่งรองประธานสภายังไม่มีการลงรายละเอียด รวมถึงการทำงานของสภาในอนาคตก็จะต้องมีเสียงเกิน 251 เสียง ซึ่งการที่มีเสียง ส.ส.ใกล้เคียงกัน หรือเสียงปริ่มน้ำนั้น ก็จะทำให้ ส.ส.ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น การทำงานของสภาต้องเคร่งครัดมากขึ้น เนื่องจากตัวเลขไม่ต่างกันมาก ซึ่งเชื่อว่าหากมี ส.ส. 251 เสียงขึ้นไปน่าจะทำงานได้ ไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนการเจรจาต่อรองทางการเมืองนั้น ก็เป็นเรื่องปกติ ที่ก่อนการทำงานจะต้องมีการพูดคุยเจรจากันไป ซึ่งคงจะใช้เวลาเล็กน้อย ในการทำความเข้าใจกัน
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยพลิกสถานการณ์ตั้งรัฐบาลได้ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างก็คงเกิดขึ้นได้ เพราะทุกคนได้รับเลือกตั้งมาตามตัวเลขที่ กกต.รับรอง แต่เชื่อมั่นว่าแนวทางการทำงาน แนวทางที่ได้มีการดำเนินการไปแล้วรวมทั้งแนวคิดที่เราตั้งใจไว้ ก็จะทำให้หลายๆพรรคต้องตัดสินใจ ว่าประเทศต้องเดินทางไปทางไหน ซึ่งเราก็ยังมั่นใจว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นทางเลือกสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ ทั้งนี้คิดว่าทุกคนจะต้องยึดมั่นการทำงานในอนาคต ไม่ใช่คิดเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลวันนี้พรุ่งนี้ ต้องคิดถึงอนาคตว่าจะเดินอย่างไรให้เข้มแข็งและมีเสถียรภาพ ทั้งนี้หากทุกคนคิดถึงประโยชน์ของประเทศและการบริการแผ่นดินในระยะยาวเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
เมื่อถามว่าการที่พรรคพลังประชารัฐมั่นใจว่าจะรวบรวมเสียงข้างมากได้นั้นแสดงว่ารวมเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เรายังเชื่อว่าแนวทางการทำงาน แนวคิด และคนพรรคประชาธิปัตย์ก็มีการพูดหลายครั้งว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแนวทางไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย ดังนั้นก็คิดว่ามีความเป็นไปได้ว่าการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแนวทางที่ใกล้เคียงกัน แต่สุดท้ายก็ต้องรอการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี