12 พ.ค.62 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. , นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร , น.ส.ละออง ติยะไพรัช , นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน , นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อรับฟังปัญหาสถานการณ์ภัยแล้ง และหมอกควัน ที่สวนสับปะรดภูแลบ้านป่ารวก ซึ่งสวนสับปะรดที่ ต.นางแล ได้เกิดความเสียหายอย่างหนักจากปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากฝนไม่ตกมา 5 เดือน ทำให้กระทบต่อพืชผลการเกษตรของชาวสวน
โดย นายสุรินทร์ เขื่อนเพชร นายกเทศมนตรีตำบลนางแล อ.เมือง จ.เชียงราย ระบุว่า ปีนี้สถานการณ์ภัยแล้งใน ต.นางแล ประสบปัญหาหนักกว่าทุกปี เพราะฝนทิ้งช่วงไม่ตกตั้งแต่ ม.ค.จนถึงวันนี้ โดย 5 เดือนฝนไม่ตก ทำให้เกิดภัยแล้ง โดยพื้นที่ปลูกสับปะรด 5,000 ไร่ เมื่อเกิดภัยแล้งทำให้มีความเสียหายกว่า 3,000 ไร่ อีกทั้งยังประสบปัญหาหมอกควันไฟป่า รุนแรงในเดือน มี.ค. - เม.ย.เพราะมีการเผาพื้นที่ป่า ซึ่งมีพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ แม้ล่าสุดจะมีการออกมาตรการงดเผาป่าแล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังเผาป่า ขณะที่ปีนี้ฝนไม่ตกทำให้ขยะเชื้อเพลิงเยอะ ต้นไผ่ยังเป็นเชื้อเพลิงทำให้เกิดไฟป่า ส่วนการดับไฟป่าได้ใช้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอาสาดับไฟป่า โดยใช้มอเตอร์ไซค์วิบากขึ้นไปดับไฟป่า
นายสุรินทร์ ระบุว่า พื้นที่ ต.นางแล ในพื้นที่เพาะปลูกไร่สับปะรด ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาสำรวจเพื่อประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยแล้ง โดยภาครัฐมองว่าสับปะรดเป็นไม้ล้มลูก สามารถปลูกขึ้นใหม่เองได้จึงไม่มีความจำเป็นต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้ง
ขณะที่ชาวสวนสับปะรดภูแลบ้านป่ารวก ต่างสะท้อนปัญหาภัยแล้งว่า ปีนี้แล้งจัดทำให้ปลูกสับปะรดภูแลไม่ได้ เกษตรกรยังเดือดร้อนเพราะไม่มีน้ำใช้ เนื่องจากฝนไม่ตกมา 5 เดือนแล้วนับแต่ปีใหม่ และเกษตรกรก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือในเรื่องค่าชดเชยจากภาครัฐด้วย เพราะภาครัฐยังไม่ประกาศสถานการณ์ภัยแล้งให้กับพื้นที่ ต.นางแล
"ไม่มีรัฐบาลไหนเข้ามาแก้ปัญหาภัยแล้ง ทุกวันนี้อยู่แบบลำบาก ปีนี้ภัยแล้งหนัก อยากให้สับปะรดขายได้ราคากิโลกรัมละ 10 บาท" ชาวสวนรายหนึ่ง ระบุ
ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันกับชาวสวนไร่สับปะรดที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ว่า ต้องให้กำลังใจทุกฝ่ายที่เสียสละ ส่วนตัวเห็นใจที่ต้องต่อสู้และถูกโดดเดี่ยว โดย ส.ส.ได้ระบายความทุกข์ให้ตน ทำให้ตนมาดูปัญหาในพื้นที่ ยืนยันในสัปดาห์หน้าพรรคต้องทำหนังสือเป็นทางการถึงหน่วยงานราชการและขอให้ประกาศให้พื้นที่ ต.นางแล เป็นภัยแล้ง และให้ ส.ส.นำปัญหาไปประสานกันกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้เงินชดเชย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวย้ำว่า ในปีนี้แม้เกษตรกรปลูกสับปะรดจะไม่มีผลผลิต แต่จะช่วยให้พี่น้องเกษตรกรได้รับเงินชดเชยให้ได้ไร่ละ 15,000 - 20,000 บาท เพราะเกษตรกรต้องรออีก 1 ปี ถึงจะปลูกสับปะรดใหม่ได้ ยืนยันพรรคเพื่อไทยจะประสานให้หน่วยงานราชการเข้ามาเยียวยา และในอนาคตควรมีการทำฝนหลวงเพื่อป้องกันภัยแล้ง
ขณะเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ ยังโชว์สับปะรดนางแลที่ปลูกไม่ขึ้นเพราะภัยแล้ง โดยสับปะรดนางแลบางลูกมีลักษณะแคระและแห้งเหี่ยว ทั้งนี้ พื้นที่บ้านป่ารวก มีพื้นที่ปลูกไร่สับปะรด 25 ไร่ โดยสับปะรดทั้งหมดแห้งเหี่ยวไม่สามารถนำมาขายได้
จากนั้นคณะของคุณหญิงสุดารัตน์ ลงพื้นที่ อ.เวียงชัย เพื่อรับฟังปัญหาจากผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในการแก้ไขสถานการณ์ภัยแล้งที่อ่างเก็บน้ำหนองหลวง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดความจุ 19 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีพื้นที่การใช้น้ำ 2 อำเภอ คือ อ.เวียงชัย และ อ.เมือง แต่ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำหนองหลวงมีตื้นเขิน
โดย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำหนองหลวง ถือเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ให้กับคนเชียงราย แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขศึกษาว่าจะแก้ไขปัญหาตื้นเขินอย่างไร โดยพรรคเพื่อไทยจะเร่งรัดนำปัญหาไปประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการด้านงบประมาณ และพื้นที่หนองหลวง สามารถจัดทำเป็นแก้มลิงตามแนวทางพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเร่งรัดแก้ปัญหาดังกล่าว และประกาศให้ จ.เชียงราย เป็นพื้นที่ภัยแล้ง เพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินชดเชยจากการไม่สามารถเพาะปลูกพืชผลการเกษตร เพราะ จ.เชียงราย เกิดปัญหาภัยแล้งมากว่า 5 เดือนแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี